ตำรวจไซเบอร์จับมือแฮกเฟซบุ๊กหลอกยืมเงิน เสียหายกว่า 100 ราย มูลค่าร่วม 3 แสนบาท
เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท.พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ รอง ผบก.สอท.5, พ.ต.อ.ทิฆัมพร ศรีสังข์ รอง ผบก.สอท.5, พ.ต.อ.บัญชา ศรีสุข รอง ผบก.สอท.5, พ.ต.อ.ฐาปกรณ์ หนุมาศ ผกก.3 บก.สอท.5 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท.5 จับกุมตัว น.ส.สุดารัตน์ บุษยาภา อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 304/2565 ลงวันที่ 23 มิ.ย. 2565 ความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น” พร้อมตรวจยึดของกลาง โทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการก่อเหตุ
พล.ต.ต.ชรินทร์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวานที่ 23 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์จับกุมตัว น.ส.สุดารัตน์ โดยเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ.2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์กก.3 บก.สอท.5 ได้รับการประสาน ขอสนับสนุนการสืบสวนทางเทคนิคจาก สภ.บ้านหนองพลับ จ.ประจวบคีรีขันธ์ กรณีมีผู้เสียหายถูกแฮกเฟซบุ๊กแล้วนำไปหลอกยืมเงินผู้อื่นมีผู้หลงเชื่อได้รับความเสียหายจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์สืบสวนจนทราบตัวผู้ก่อเหตุจนกระทั่งสามารถจับกุมเครือข่ายผู้ก่อเหตุได้จำนวน 2 ราย คือนายพีรพัฒน์ ทองโชติ และนางพิมพิศา เรืองทอง ในวันที่ 27 ส.ค. 64 ในพื้นที่ สภ.เกาะสมุย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ ดำเนินการสืบสวนขยายผลอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเมื่อวันที่ 14 พ.ย.64 ได้รับแจ้งเหตุซึ่งมีแผนประทุษกรรมที่คล้ายกับกรณีก่อนหน้า จึงดำเนินการสืบสวนจนพบความเชื่อมโยงกับ น.ส.สุดารัตน์ เป็นกลุ่มเครือข่ายผู้ก่อเหตุกรณีก่อนหน้า จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับ
น.ส.สุดารัตน์ เปิดเผยว่า ตนเป็นผู้ก่อเหตุแฮกเฟซบุ๊กผู้อื่นจริง โดยการใช้เทคนิคสุ่มบัญชีเฟซบุ๊กเป้าหมายแล้วใช้อุบายหลอกเจ้าของบัญชีเฟซบุ๊กจนสามารถเปลี่ยนรหัสผ่านของบัญชีเฟซบุ๊กเป้าหมาย และเข้าควบคุมบัญชีเฟซบุ๊กนำไปแชทแสดงตนเป็นเจ้าบัญชีออกอุบายต่างๆ เพื่อให้ได้ทรัพย์สินของผู้เสียหายมา โดยจะสุ่มบัญชีเฟซบุ๊กเพื่อที่จะนำไปใช้ก่อเหตุวันละประมาณ 30-50 บัญชี เมื่อเข้าควบคุมบัญชีได้จะแชทใช้อุบายหลอกขอยืมเงินหรืออื่นๆ เมื่อมีผู้เสียหายหลงเชื่อตนจะให้ผู้เสียหายโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารซึ่งตนได้แชทออกอุบายหลอกบุคคลอื่นในเฟซบุ๊กเช่นกัน ว่าจะขอยืมใช้บัญชีธนาคาร เมื่อผู้เสียหายโอนเงินแล้วจะให้เจ้าของบัญชีธนาคารโอนเงินเข้าไปยังบัญชีวอลเล็ทของตน เพื่อปกปิดตัวตน อำพลางเส้นทางการเงิน และป้องกันไม่ให้บัญชีธนาคารของตนถูกอายัดบัญชี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต
พล.ต.ต.ชรินทร์ เปิดเผยอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการสืบสวนและจับกุมคนร้ายกรณีแฮกเฟซบุ๊ก หลอกโอนเงินอย่างต่อเนื่อง พบว่ามีคนร้ายใช้เทคนิคนี้ในการก่อเหตุเป็นจำนวนมากทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชน หากพี่น้องประชาชนพบเบาะแสการหลอกยืมเงินจากเฟซบุ๊คที่ถูกคนร้ายแฮ๊กมา หรือพบการกระทำผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ กก.3 บก.สอท. 5 ที่หมายเลขโทรศัพท์สายด่วน 1441
