จับหนุ่มจะนะก่อเหตุจับหมอนวดมัดมือไพล่หลังลงมือข่มขืนพร้อมขโมยโทรศัพท์ หลังจับได้สารภาพแค้นไม่ตรงปกถึง 2 ครั้ง หลังทวงเงินคืนค่าบริการ 500 บาท
วันที่ 9 มิ.ย.65 พ.ต.อ.ภูมิ บาลทิพย์ ผกก.สภ.คอหงส์ รับรายงานจาก พ.ต.ท.ไพโรจน์ พิจิตรบรรจง พนักงานสอบสวน สภ.คอหงส์ ว่ามีนางสาวเอ อายุ 27 ปี อาชีพเป็นหมอนวด ได้เดินทางเข้าแจ้งความว่า ได้โดนลูกค้าเป็นวัยรุ่นชายจับมัดมือไพล์หลังก่อนลงมือข่มขืน พร้อมขโมยโทรศัทพ์มือถือ ไอโฟน 11 โปร ภายในห้องพัก 407 อพาร์ทเม้นสามสิบเมตรเรสซิเดนซ์ ถนนราษฎร์ยินดี ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา หลังรับแจ้งจึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.พันธนันท์ ภักดีดำรงทรัพย์ รอง ผกก.สส.สภ.คอหงส์ พ.ต.ท.สุริยันต์ จันทร์แก้ว สว.สส.สภ.คอหงส์ พร้อมชุดสืบสวน สภ.คอหงส์ ลงพื้นที่ตามจับกุมคนร้าย
จากการสอบถาม นางสาวเอ ได้เล่าว่า นายเกรียกเกียรติ์ได้ติดต่อใช้บริการนวดผ่านแอปพริเคชั่นไลน์มา บอกว่าจะรับบริการนวด ตนก็เลยให้มาที่ห้อง พอนายเกรียกเกียรติ์ เข้ามาในห้องนายเกรียกเกียรติ์ก็พยายามลวนลามตน โดยว่าอยากจะขอจับหน้าอกได้ไหม ตนก็เลยบอกไปว่า ไม่ได้ ตนก็เลยบอกให้นายเกรียกเกียรติ์ออกไปจากห้อง โดยบอกว่า พี่กลับไปก่อนนะ ถ้าพี่ไม่จ่ายเงิน หนูขออนุญาตให้พี่ออกไปก่อนนะ แต่นายเกรียกเกียรติ์ก็ไม่ยอมเเละพยายามจะจับตนให้ได้ ตนจึงได้เดินถอยหลังจนกระทั้งผลักตนลงไปบนพื้นห้องและจับมัดมือไพล่หลังโยนไปบนเตียงนอนก่อนลงมือข่มขืน หลังนายเกรียกเกียรติ์สำเร็จความใคร่ก็ได้เดินออกจากห้องไปพร้อมโทรศัพท์มือถือ ส่วนตนก็ได้พยายามแก้มัดแต่โชคดีที่บริเวณเท้าเค้ามัดแบบหลวมๆ และสะบัดหลุดมาได้ จึงได้ลุกขึ้นยืนและหันหลังเปิดประตูก่อนจะวิ่งไปหาเพื่อนห้องข้างๆ เพื่อขอความช่วยเหลือ
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุช่วงเวลา 00.28 น. พบคนร้ายทราบชื่อ นายเกรียกเกียรติ์ อายุ 28 ปี ชาวอำเภอจะนะ ได้ขับจี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอ สีขาวดำ ทะเบียน งจน 254 สงขลา กำลังเดินมาที่ห้องพัก 407 พร้อมกับเคาะประตูห้องพักและผู้เสียหายก็ได้เปิดประตูให้นายเกรียกเกียรติ์เข้าไป ต่อมาช่วงเวลา 02.19 น. นายเกรียกเกียรติ์ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไป ซึ่งใช้เวลาอยู่ในห้องพักประมาณ 2 ชม. จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ติดตามจับกุมตัวนายเกรียกเกียติ์ ได้ที่บ้านเช่าเลขที่ 111/16 ตำบลคลองแห อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ ไอโฟน 11 โปร และรถจักรยานยนต์ 1 คัน ที่ใช้ก่อเหตุ ก่อนนำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.คอหงส์
จากการสอบสวน นายกรียกเกียรติ์ ให้การว่า สาเหตุที่ก่อเหตุนั้นมาจากตนได้เข้าไปขอใช้รับบริการนวดในทวิตเตอร์และโดนหลอกเอาเงินไปถึง 2 ครั้ง ครั้งละ 500 บาท โดยครั้งแรกตนไปถึงห้องหมอนวดก็จ่ายเงินเลยแต่ปรากฎว่าหมอนวดไม่ตรงปก หมอนวดก็พยายามหาหมอนวดในมือถือมาให้ตนเลือกและรออยู่นาน หมอนวดตามในภาพมือถือก็ไม่มาซักที จากนั้นหมอนวดคนดังกล่าวก็บอกตนว่า รอได้รอ รอไม่ได้ก็ไป ตนจึงได้ลุกออกจากห้องแล้วก็บ่นคิดว่ามีแบบนี้ด้วยหรอ จึงทำให้ตนรู้สึกแค้น
ต่อมาตนก็ได้ใช้บริการหมอนวดคนที่ 2 พอมาถึงห้องคิดว่าน่าจะตรงปกจึงได้จ่ายเงินไป ปรากฎว่าไม่ตรงปกอีก อีกทั้งลักษณะนิสัยเหมือนกันกับหมอนวดคนที่ 1 ซึ่งตนคิดว่าน่าจะเป็นแก๊งเดียวกันตนก็เลยถามว่า มีคนอื่นไหม หมอนวดก็เปิดรูปในมือถือให้ดูและก็บอกว่า นี่เพื่อนเค้า แต่หารู้ไม่ว่า เพื่อนคนนั้น เป็นหมอนวดคนที่ 1 ที่เอาเงินตนไป ทำให้ตนรู้สึกแค้น จากนั้นตนจึงได้ขอเงินคืน แต่หมอนวดก็ไม่ยอมคืนให้ จากนั้นหมอนวดได้บอกให้ตนออกจากห้องไปพร้อมกับบอกว่าจะนอนแล้ว ตนจึงได้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น โดยการจับมัดมือแต่ไม่มีต่อยตบนะ แค่มัดให้เค้ายินยอม ตนจึงได้ลงมือข่มขืนไป 1 ครั้ง หลังเสร็จเค้าก็บอกว่า พี่ปล่อยหนูไปได้แล้ว
จากนั้นตนก็ได้หยิบมือถือและให้บอกรหัสมือถือ รหัสเข้าเครื่อง รหัสเข้าแอพธนาคาร แต่จริงๆตนไม่อยากได้เงินเพราะตนก็มีเงินอยู่แล้ว ส่วนทรัพย์สินที่ตนเอามา ก็มีโทรศัพท์มือถืออย่างเดียวและก็จะติดต่อคืนโทรศัพท์ให้ แต่คิดไปคิดมาตนก็มีอะไรกับเค้าแล้วก็เท่าหายกัน แต่พอเกิดเรื่องตนไม่รู้จะทำยังไง ก็เอาโทรศัพท์เค้ามาแล้ว แต่ตนก็ผิดนั้นแหละที่มีอะไรกันกับเค้าแล้ว แต่ถ้าไม่มีอะไรกันตนยังพูดได้ แค่ตนต้องการเงินคืน
ทางด้าน พ.ต.ท.สุริยันต์ จันทร์แก้ว สว.สส.สภ.คอหงส์ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าวได้รับการประสานจากพนักงานสอบสวนว่ามีเหตุหญิงสาวโดนข่มขืนและโดนชิงทรัพย์ไป จากนั้นก็ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมกับตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบผู้ต้องหาเป็นวัยรุ่นชายและสามารถตามจับกุมตัวไว้ได้ ส่วนสาเหตุนั้นจากคำให้การทั้ง 2 คน ได้มีการนัดกันไปที่ห้องเกิดเหตุก่อนมีการเข้าใจผิดและผู้ต้องหาได้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ส่วนข้อกล่าวหานั้นเบื้องต้นได้แจ้งผู้ต้องหาข้อกล่าวหา 2 ข้อหา ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นประทุษร้ายและข้อหาชิงทรัพย์
อย่างไรก็ตาม หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำนายเกรียกเกียรติ์เรียบร้อย จึงได้นำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.