ตำรวจและปกครอง พร้อมเครือญาติ เปิดเซฟบ้านพ่อเลี้ยงชูชาติ กัลมาพิจิตร เจ้าของปางช้างแม่สาที่เสียชีวิต ทิ้งมรดกพันล้าน ไม่พบเงินสดเลย ในเซฟมีเพียง แหวนและนาฬิกาบางส่วนเท่านั้น ทายาท”กัลมาพิจิตร”เดินหน้ารวบรวมทรัพย์ที่บ้านพ่อ เพื่อแบ่งให้ผู้รับอย่างเป็นธรรม พบเงินในบัญชีหายอย่างมีเงื่อนงำอีกกว่า 172 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 17 ส.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานปมปัญหาพินัยกรรมของนายชูชาติ กัลมาพิจิตร หรือพ่อเลี้ยงชูชาติ ผู้บริหารและเจ้าของปางช้างแม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ที่เสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 27 ม.ค.2562 โดยทิ้งมรดกทั้งปางช้างแม่สา และที่ดินไว้จำนวนมหาศาลมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านบาท ให้ทายาทแบ่งสรรปันส่วนกันตามพินัยกรรม แต่เกิดปัญหาในการจัดการทรัพย์สินมรดก มีการฟ้องร้องกันในหมู่เครือญาติ คือภรรยาใหม่ผู้ตาย กับบุตรสาวคนโต ของผู้ตาย สุดท้ายศาลให้ผู้จัดการมรดกร่วมกันทั้งคู่
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ที่ห้องประชุม รินลดารีสอร์ต อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ นางอัญชลี กัลมาพิจิตร ผู้บริหารปางช้างแม่สา ผู้จัดการทรัพย์มรดกในฐานะบุตรสาวคนโตของนายชูชาติ กัลมาพิจิตร เจ้าของปางช้างแม่สาที่ล่วงลับ พร้อมพี่น้อง รวม 6 คน ได้ประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาในส่วนแบ่งกองมรดกตามพินัยกรรมอย่างเป็นธรรม ว่ามีส่วนไหนที่จะได้รับและส่วนไหนจะนำเข้าสู่บริษัทปางช้างแม่สา เพื่อเป็นทุนการบริหารจัดการของปางช้างแม่สา และรินลดารีสอร์ต และโรงงานน้ำดื่มเอเล่ โดยทรัพย์สินส่วนหนึ่งที่จะยกให้ทายาทยังอยู่ในตู้เซฟของบ้านล้านช้างของนายชูชาติ กัลมาพิจิตร ที่ปิดไว้มานานร่วม 3 ปีหลังจากการเสียชีวิตของนายชูชาติ เมื่อวันที่ 27 ม.ค.2562
หลังจากมีการประชุมในเครือญาติแล้ว ได้เดินทางไปตรวจสอบทรัพย์สินของผู้มอบมรดก คือที่บ้านของพ่อเลี้ยงชูชาติ ที่บ้านล้านช้าง หมู่ 8 ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดยนางอัญชลี กัลมาพิจิตร ผู้จัดการมรดก พร้อมเครือญาติอีกรวม 6 คน พร้อมเจ้าหน้าที่ ด.ต.รวิช แสงเรือน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ริม และนายนพพร วงศ์โรจนัสธ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.แม่แรม ตัวแทนเจ้าหน้าที่ปกครอง
จุดแรก นางอัญชลี พร้อมเครือญาติ เดินทางเข้ากราบหลุมฝักศพพ่อเลี้ยงชูชาติ ที่อยู่ติดกับบ้านพัก บ้านล้านช้าง จากนั้นเข้าไปในตัวบ้านพัก มีญาติของภรรยาพ่อเลี้ยงชูชาติ(ภรรยาที่พ่อเลี้ยงชูชาติ อยู่กินด้วยก่อนเสียชีวิต) ซึ่งภรรยาพ่อเลี้ยงชูชาติ ก็เป็นผู้จัดการมรดกร่วมกับนางอัญชลี แต่วันนี้ไม่เดินทางมาที่บ้านพ่อเลี้ยงชูชาติแต่อย่างใด ผู้ดูแลบ้านบอกห้ามเข้า ทางตำรวจและผู้ใหญ่บ้าน และผู้จัดการมรดก พร้อมทนายได้ยื่นหนังสือคำสั่งศาลให้ดู และแจ้งขอทำการตรวจสอบมรดกตามพินัยกรรม แต่ผู้ดูแลบ้านไม่ยอมเปิดประตูให้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้ใหญ่บ้าน และผู้จัดการมรดก ได้ให้ช่างดำเนินการสะเดาะกลอน แล้วเข้าไปในบ้าน พบรถยนต์หรู 1 คัน และในบ้านชั้น 1 ตรวจสอบไม่พบทรัพย์สินมีค่าอะไรมาก มีโต๊ะรับแขก 2 ห้อง มีเครื่องเงินในห้องครัวประมาณ 10 ชิ้น และพบรูปของพ่อเลี้ยงชูชาติในห้องนอน ภาพรับเสด็จในหลวง ร.9 และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ แต่ที่ห้องรับแขกโต๊ะกินข้าว พบงาช้าง 1 คู่ และหยกขาวแกะสลักเจ้าแม่กวนอีม 1 องค์ ที่ระบุในพินัยกรรม
ส่วนชั้น 2 ตรวจสอบห้องนอน พบยารักษาพ่อเลี้ยงชูชาติ จำนวนมาก และพบเอกสารบัญชีรายรับรายจ่ายการทำธุรกิจ และลูกปืนลูกซอง จำนวนมาก และลูกปืนขนาด 38 จำนวนหนึ่ง จากนั้นตรวจสอบด้านในที่นั่งดูทีวี ด้านข้างมีตู้เซฟ จำนวน 2 ตู้ ตู้ใหญ่สีเขียวและตู้สีดำตั้งอยู่ติดกัน ทั้งสองตู้ให้ช่างมาสะเดาะกลอนเช่นกัน ตู้สีเขียว พบเพียงฟิล์มเอกซเรย์ และกล่องใส่นาฬิกายี่ห้อดัง และนาฬิกาโบราณ รวมแล้วประมาณ 15 เรือน และแหวนประดับเพชรและพลอยและอัญมณี รวมแล้วกว่า 10 วง ในตู้เซฟสีเขียวดังกล่าวไม่พบเงินสดแม้แต่บาทเดียว ส่วนตู้เซฟสีดำ ก็เช่นกันไม่พบเงินสดเลย มีเพียงเหรียญต่างชาติเก่าแก่ และเข็มเชิดชูเกียรติจำนวนหนึ่งเท่านั้น จากนั้นก็ให้ช่างปิดเซฟ
ต่อมาห้องเก็บงาช้าง จากที่พินัยกรรมระบุมีงาช้างลงทะเบียนไว้มากถึง 200 ชิ้น ตรวจสอบ พบงาช้างมีเพียง 13 ชิ้น มีขาตั้งเป็นคู่ ตั้งอยู่บนโต๊ะ จำนวน 4 คู่ รวม 8 ชิ้น และที่วางกับพื้น จำนวน 5 ชิ้น และที่เหลือเป็นเสื้อผ้าในตู้ ไม่มีทรัพย์สินมีค่ารวมทั้งเงินสดก็ไม่พบในห้องดังกล่าว รวมใช้เวลาในการตรวจสอบทรัพย์สินนาน 3 ชั่วโมง โดยทุกขั้นตอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้ใหญ่บ้านในฐานะเจ้าหน้าที่ปกครอง และสื่อมวลชน และเครือญาติทั้งหมด รวมสังเกตุการณ์และบันทึกภาพ ทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ เพื่อเป็นหลักฐานในการเข้าไปตรวจสอบตามหน้าที่ของผู้จัดการมรดกเพื่อยื่นต่อศาลให้รับทราบต่อไป
นางอัญชลี กล่าวว่า ทรัพย์สินในส่วนพินัยกรรมที่ระบุว่า อยู่ในเซฟรวมทั้งงาช้าง รวม 200 กิ่ง และตรวจพบว่า มีเงินสดจำนวนหนึ่งถูกโอนออกไปในช่วงที่พ่อตนนอนป่วยอยู่ในโรงพยาบาลและหลังเสียชีวิตเมื่อต้นปี 2562 จำนวนมาก รวมทั้งหมดกว่า 172 ล้านบาท ตนทราบจากที่ตนได้อายัดบัญชีไว้ตั้งแต่พ่อเสียชีวิตไปเพียง 1 บัญชี คือจำนวน 18 ล้านบาท และอีกบัญชีจำนวน 41 ล้านบาทที่เป็นมรดก ที่พ่อแบ่งให้ลูกและหลานๆ จำนวน 6 คน ก็ถูกถอนไปทั้งหมด พอตรวจสอบที่ธนาคารอีกครั้งพบว่ามีบัญชีรวม 5 บัญชี ก็พบว่าแต่ละบัญชีถูกถอนออกไปทั้งหมด ในช่วงก่อนพ่อเสียชีวิตที่กำลังรักษาตัวอยู่และถูกถอนเงินออกไปช่วงหลังเสียชีวิตด้วย รวมเงินทั้งหมดประมาณ 172 ล้านบาท เรื่องนี้ก็ยังอยู่ในขั้นตอนการฟ้องร้องกับธนาคารเพื่อให้ทราบว่า ผู้ใดเป็นผู้แอบถอนเงินจากธนาคารช่วงที่พ่อป่วยและเสียชีวิต เป็นขั้นตอนในชั้นศาลต่อไป
นางอัญชลี กัลมาพิจิตร ผู้จัดการมรดกดังกล่าวอีกว่า ขอความเห็นใจลูกๆของครอบครัวกัลมาพิจิตร ขอให้ผู้จัดการมรดกร่วมคือภรรยาของคุณพ่อ มาร่วมจัดการมรดกร่วมกันในเร็วๆนี้ด้วย เพราะวันนี้การที่ลูกๆจะเข้ามาบ้านพ่อก็เข้าไม่ได้ ประตูบ้านถูกปิดบ้านไว้ และล็อคกุญแจไว้แบบนี้ ตนเชื่อว่า พ่อสร้างบ้านก็ต้องการให้ลูกๆกลับมาที่บ้านของพ่อ แต่พอลูกๆมาก็มาพบภาพแบบนี้ ก็ไม่รู้เลยว่าพ่อมีทรัพย์สินอะไรบ้างเลย ก็ขอไหว้ละมาร่วมจัดการมรดกทรัพย์สินของตระกูลเราด้วย
สำหรับนายชูชาติ กัลมาพิจิตร หรือพ่อเลี้ยง ชูชาติ เป็นเจ้าของปางช้างแม่สา ปางช้างที่ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่ มีช้างในปางช้างกว่า 70 เชือก เข้ารักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาลในวันที่ 16 ม.ค.2562 และถูกนำออกจากโรงพยาบาลในวันที่ 27 ม.ค.2562 ประมาณ 19.00 น. และได้เสียชีวิตในคืนเดียวกันคือวันที่ 27 ม.ค.2562 เวลา 23.35 น. ที่บ้านพัก ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ หลังจากนั้นสามวัน จึงมีการแจ้งเจ้าหน้าที่อำเภอแม่ริม ถึงการเสียชีวิต เพื่อออกใบมรณบัตร ในวันที่ 30 ม.ค.2562 ซึ่งไม่ได้แจ้งตามกำหนดเวลา 24 ชั่วโมงหลังการเสียชีวิต และไม่มีการชันสูตรพลิกศพ หาสาเหคุการเสียชีวิต จนกลายเป็นที่มาของการจัดสรรมรดก ตามพินัยกรรม และอยู่ในขั้นตอนของศาล.พิจารณาต่อไป
นิวัตร ธาตุอินจันทร์ เชียงใหม่