สกัดจับแก๊งหลอกดาวน์จักรยานยนต์ส่งขายชายแดนกัมพูชา จ.สระแก้ว

ตำรวจสระแก้วสกัดจับแก๊งมิจฉาชีพ หลอกดาวน์รถจักรยานยนต์ส่งขายประเทศกัมพูชา สามารถยึดของกลางรถจักรยานยนต์ใหม่เอี่ยม 7 คัน และปิกอัพตู้ทึบ ป้ายแดง 1 คัน ที่ใช้เป็นพาหนะขนส่ง พร้อมผู้ต้องหา 1 ราย ก่อนจะถูกนำข้ามชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว

วันที่ 11 ก.พ.65 ผู้สื่อข่าวรายงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหาด จ.สระแก้ว ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ,พ.ต.อ.บุญสาน สินทอง รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ,พ.ต.อ.ปรีชา สมสถาน รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว และ พ.ต.อ.นิวัฒน์ชัย สุขธนารักษ์ ผกก.สภ.คลองหาด ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกวดขันเข้มงวดจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ตามคำสั่งของ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 ก่อนมีการนำส่งไปจำหน่ายยังประเทศกัมพูชาตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งผลการปฏิบัติงาน พบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.คลองหาด สามารถสกัดจับกลุ่มขบวนการนำรถจักรยานยนต์ซึ่งเช่าซื้อดาวน์มาจากต่างพื้นที่ นำส่งออกไปขายนอกราชอาณาจักรตามแนวชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ 7 คัน และผู้ต้องหา 1 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติมไปยังเครือข่ายขบวนการดังกล่าว

ทั้งนี้ พ.ต.อ.ปรีชา สมสถาน รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว เปิดเผยว่า ชุดสืบสวน สภ.คลองหาด สามารถจับกุมตัว นายบอล (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ ม.4 ต.คลองเมือง อ.จักราช จ.นคราชสีมา โดยสกัดจับรถยนต์กระบะโตโยต้า สีขาว ติดตู้ทึบสแตนเลส ทะเบียนป้ายแดง ก-5329 ปทุมธานี ได้ที่บริเวณถนนสายบ้านไทรเดี่ยว-บ้านไผ่ล้อม ม.7 ต.ไทรทอง อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ภายในรถบรรทุกรถจักรยานยนต์สภาพใหม่เอี่ยม ไม่ติดแผ่นป้าย ยี่ห้อ ฮอนด้า PCX สีเทาดำ ,และสีแดงด้าน รวม 2 คัน ที่เหลือเป็นรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นสกู๊ปปี้ แม็ก สีชมพู-ขาว อีก 5 คัน รวมทั้งหมด 7 คัน บรรทุกมาเต็มคันรถ โดยผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า ตนเองได้รับว่าจ้างให้ขับขี่รถยนต์ซึ่งบรรทุกรถจักรยานยนต์ทั้งหมด เพื่อนำมาส่งขายชายแดนไทย-กัมพูชา ระหว่างทางได้ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้พร้อมของกลาง เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า พยายามนำรถจักรยานยนต์ออกนอกราชอาณาจักร โดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร

“วิธีการที่ผู้ต้องหากระทำผิด โดยเริ่มจากการโฆษณาด้วยวิธีการต่าง ๆ ให้ประชาชนที่เดือดร้อนเรื่องเงิน ร้อนเงิน ตกเป็นเหยื่อ และเป็นผู้กระทำความผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ โดยกลุ่มผู้กระทำความผิดจะใช้วิธีแจกนามบัตร ,ใบปลิว หรือติดป้ายเงินด่วนตามสถานที่ต่าง ๆ สำหรับผู้ต้องการเงินด่วน โดยมีหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อไว้ให้ เมื่อประชาชนโทรศัพท์เข้าไปจะให้ประชาชนไปเช่าซื้อรถจักรยานยนต์จากร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ซึ่งที่ร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์จะมีพนักงานขาย เร่งทำยอดขายแข่งกัน โดยมีโปรโมชั่นต่าง ๆ เช่น ออกรถไม่มีเงินดาวน์, บัตรใบเดียวออกรถได้ทันที ไม่ต้องมีคนค้ำประกัน และเมื่อทำสัญญาเช่าชื้อและได้รถจักรยานยนต์มาแล้ว กลุ่มผู้ต้องหาจะมารอรับรถจักรยานยนต์ทันที โดยให้เงินผู้เช่าซื้อในจำนวนที่ผู้เช่าซื้อนำรถจักรยานยนต์มาตามรุ่นที่นำมามอบให้ เช่น scoopi จะได้เงิน 15,000 บ. PCX จะได้เงิน 25,000 บ.และให้ผู้เช่าซื้อไปแจ้งความว่า รถจักรยานยนต์หาย หลังจากระยะเวลาผ่านไปแล้วประมาณ 1 เดือน” พ.ต.อ.ปรีชา กล่าวและว่า

เมื่อผู้ต้องหาได้รถไปในสภาพใหม่ และนำส่งขายออกนอกราชอาณาจักร ทางผู้เช่าซื้อทุกราย ก็จะมาแจ้งความรถหายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อที่จะได้นำหลักฐานรถหายไปให้กับร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์ที่เช่าซื้อมา และให้บริษัทประกันภัยชดใช้ต่อไป ดังนั้น ตามที่ผู้เช่าซื้อมาแจ้งความรถจักรยานยนต์หาย ในส่วนของตำรวจเราทุกสถานีทั่วประเทศ ก็ได้มีการสืบสวนติดตามคดีและทราบว่า รถไม่ได้หายตามที่แจ้งความไว้ ผู้เช่าซื้อจะต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาแจ้งความเท็จ ร่วมกันฉ้อโกง และร่วมกันพยายามนำรถออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร ซึ่งถือเป็นคดีอาญา มีโทษจำคุก

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจับกุมมิจฉาชีพกรณีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.คลองหาด อยู่ระหว่างส่งฟ้องดำเนินคดีกับ นายบอล (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี พร้อมกับประสานงานตรวจสอบหาที่มาของรถจักรยานยนต์ของกลางทั้งหมด และดำเนินการขยายผลไปยังเครือข่ายของแก๊งมิจฉาชีพกลุ่มนี้ เนื่องจากสร้างความเสียหายให้กับระบบเศรษฐกิจของประเทศและสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน เนื่องจากตามสัญญาเช่าซื้อรถจักยานยนต์ เมื่อผู้ให้เช่าซื้อได้เงินจากบริษัทประกันมาไม่เท่ากับราคารถจักรยานยนต์ที่จำหน่ายไป ก็จะมาฟ้องกับผู้เช่าซื้อในจำนวนเงินที่ยังขาดอยู่ ทำให้ผู้เช่าซื้อก็ต้องมาชดใช้เงินให้ครบตามราคารถจักรยานยนต์ที่เช่าซื้อมาตามกฎหมาย ถือว่า กลุ่มผู้กระทำความผิดได้รถใหม่ไปในราคาถูก ส่วนประชาชนผู้เช่าชื้อได้เงินมาเพียงจำนวนเล็กน้อย และต้องตกเป็นผู้ต้องหาคดีอาญา และยังต้องชดใช้ในคดีแพ่งด้วย จึงขอแจ้งเตือนและข้อห่วงใยไปยังประชาชน อย่าตกเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพ ถือว่า ไม่คุ้ม

นายยุทธนา  พึ่งน้อย  ผู้สื่อข่าวจังหวัดสระแก้ว


Scroll to Top

แฉข่าวเด่น ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า