วันที่ 4 ก.ค.65 ร.ต.อ.โสฬส มุสิกะนิลพันธ์ รอง สวป.สภ.ลำปำ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจในชุดควบคุมตัวนายเกรียงไกร อายุ 22 ปี มาสงบสติอารมณ์ที่ สภ.ลำปำ หลังเมายาบ้าทำร้ายร่างกายผู้เป็นแม่วัย 56 ปี ได้รับบาดเจ็บ มีบาดแผลถลอกและรอยช้ำแดง บริเวณลำคอ แขนและหัวไหล่ ก่อนจะประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัย รับตัวส่ง รพ พัทลุง ก่อนส่งตัวเข้ารับการบำบัดตามกระบวนการของกฎหมาย
หญิงวัย 25 ปี ภรรยาของนายเกรียงไกร บอกว่าตนอยู่กินกับนายเกรียงไกร มีบุตรด้วยกัน 2 คนเป็นหญิงวัย 5 เดือน 1 คน 3ขวบ 1 คน แต่ด้วยความที่นายเกรียงไกร ฯติดยาเสพติด ชอบอาละวาดทำลายข้าวของทำให้ตนต้องหอบลูกไปอยู่ที่บ้านของพ่อแม่ ของตนในตลาดเมืองพัทลุง และเพิ่งกลับมาที่บ้านของสามีหลังเกิดเหตุเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา เนื่องจากแม่สามีขอให้มาอยู่ที่บ้าน พร้อมยอมรับว่า สามีตนเสพยาหนักมาก กลางคืนสามี ไม่ได้นอนเลย เดินทั้งคืน เชื่อว่าเสพวันหนึ่งประมาณ 10 กว่าเม็ด และเมื่อช่วงสายวันนี้นายเกรียงไกร สามีตนอาละวาด ด่าทอผู้เป็นแม่ และยังทำลายข้าวของภายในบ้าน จนเธอและแม่สามี ต้องหนีไปแอบอยู่ที่บ้านของญาติ หลังติดกัน พร้อมแจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลำปำ
หลังแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามารอบหนึ่งแล้ว แต่นายเกรียงไกร ไหวตัวหลบหนีไปได้ จนกระทั่งสักพักใหญ่ เขากลับเข้ามาในบ้านอีกครั้ง และบอกจะเอากุญแจรถ จยย ฮอนด้า สกู๊บปี้ หมายเลขทะเบียน 1 กฌ 6570 พัทลุง เพื่อจะใช้หลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เธอและผู้เป็นแม่ไม่ยอมให้ นายเกรียงไกรฯ จึงใช้ไม้ ทุบรถ จยย คันดังกล่าวจนพังเสียหาย พร้อมโวยวาย ด่าทอ ระหว่างนั้นไม่มีใครคาดคิด นายเกรียงไกร ฯ ได้พุ่งเข้ามาจับตัวนาง ผู้เป็นแม่ ก่อนลากไปบนถนน และทำร้ายร่างกาย ส่วนเธอหอบลูกหนีไปแอบที่บ้านญาติที่อยู่ติดกัน ยอมรับว่าห่วงแม่ก็ห่วง แต่ห่วงลูก เล็ก ๆ2 คน ด้วย ญาติๆ เห็นท่าไม่ดี จึงโทรแจ้งตำรวจอีกรอบ เพื่อให้มาระงับเหตุ พร้อมกับญาติ ๆ ที่เป็นผู้ชาย ต่างเข้าไปห้ามปราบ จนกระทั่งสุดท้าย ญาติ ๆ จับตัวนายเกรียงไกร ฯ ได้ เป็นจังหวะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาพอดี เจ้าหน้าที่จึงพาไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก
ด้านหญิงวัย 56 ปี ผู้เป็นแม่บอกว่า ลูกชายเธอเริ่มเสพยาเมื่อปี 2560 หลังทราบว่าลูกติดยา เธอก็พาลูกชายไปเข้ารับการบำบัด บำบัดมา 3 – 4 ครั้ง แต่ก็ไม่ดีขึ้น กลับติดหนักกว่าเดิม จนกระทั่งต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้จับกุมดำเนินคดี ล่าสุด เพิ่งพ้นโทษมาเมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา กลับมาอยู่ที่บ้าน เธอก็พยายามดูแล แม้รู้ว่าลูกชายจะแอบขโมยเงินไปซื้อยา ตนก็พยายามทำทุกวิธีที่ให้ลูกชายกินยาบำบัดด้วย ทำแม้กระทั่งบดยาบำบัดที่หมอให้มาผสมในขันน้ำแช่ในตู้เย็น เพราะเชื่อว่า เมื่อลูกเสพยาต้องคอแห้ง และต้องกินน้ำ
เธอบอกทั้งน้ำตาด้วยว่า แม้จะรักลูกแต่รอบนี้ไม่ไหวแล้ว เพราะลูกถึงขั้นทำร้ายร่างกายและเชื่อว่า เขาสามารถฆ่าเธอได้ เพราะฤทธิ์ของยาเสพติด เธอรู้สึกเสียใจ รู้สึกเจ็บปวดและทุกข์ใจเป็นที่สุดที่ลูกชายเป็นแบบนี้ ไม่มีใครต้องการให้ลูก หรือคนในครอบครัวเกี่ยวพันกับยาเสพติดและเธอก็พยายามแก้ไขแล้ว แต่มันก็กลับแย่กว่าเดิมเธอต้องการให้ลูกหายและกลับตัวกลับใจ เสียแต่ไม่รู้จะมีหวังไหม ตอนนี้ทั้งคนในครอบครัวทั้งญาติ ๆ ที่อยู่บ้านใกล้เคียง ก็รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย อยู่กันด้วยความกังวล หวาดระแวงการที่เจ้าหน้าที่ มาจับกุมตัวไปครั้งนี้ ถือเป็นการช่วยเหลือครอบครัวเธอและญาติที่อยู่บ้านติดกันได้ระดับหนึ่ง
อย่างไรก็ดี สำหรับนายเกรียงไกร ฯ ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำเรื่องส่งตัวเข้ารับการบำบัดยังสถานบำบัดในพื้นที่จังหวัดสงขลาต่อไป…