ประชาชนประมาณหนึ่งพันคนร่วมงานแสดงมุทิตาสักการอายุวัฒนมงคลครบ 8 รอบ 96 พรรษา “หลวงปู่บุญ” (พระครูบริคุต โพธิคุณ) และพิธีพุทธาพิเษก “เหรียญ์หลวงปู่บุญ” 8 รอบ 96 ปี 76 พรรษา เพื่อสมทบทุนสร้างศาลาปฏิบัติธรรมเพื่อใช้ในกิจกรรมของ “วัดกาพระวนาราม” ต.หัวงัว อ.สนม จ.สุรินทร์
วันที่ 13 พฤษภาคม 2565 ณ ที่“ วัดกาพระวนาราม” ต.หัวงัว อ.สนม จ.สุรินทร์ จัดพิธี “มุทิตาสักการอายุวัฒนมงคลครบ 8 รอบ 96 พรรษา “หลวงปู่บุญ” (พระครูบริคุต โพธิคุณ) และพิธีพุทธาพิเษก “เหรียญ์หลวงปู่บุญ” 8 รอบ 96 ปี 76 พรรษา เพื่อสมทบทุนสร้างศาลาปฏิบัติธรรมเพื่อใช้ในกิจกรรมของ “วัดกาพระวนาราม” ต.หัวงัง อ.สนม จ.สุรินทร์ มี นายศิริชัย จันทรังษ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 3 พร้อมด้วย นายชิติภัทธ์ คงมาก อัยการจังหวัดคดีเยาวชน และครอบครัว จ.สุรินทร์
เป็นประธานจุดเทียนชัยพุทธาภิเศก และจุดเทียนบูชาพระรัตนไคร “หลวงปู่บุญ อักคะเตโช” จุดเทียนชัย “มหาพุทธาภิเษก”วัตถุมงคล” เหรียญเสมา 8 รอบ 96 ปี 76 พรรษา มี เกจิอาจารย์ดัง 9 รูปมานั่งปรกปลุกเสกวัตถุมงคล “เหรียญเสมา 8 รอบ 96 ปี 76 พรรษา” มีผู้ใจบุญมาร่วมบริจาคทรัพย์ร่วมสมทบทุนสร้างศาลาปฏิบัติธรรม ซึ่งได้วางศิลาฤกษ์ และยกเสาเอกเสาโทไปแล้วเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2565 มีลูกศิษย์ลูกหาเดินทางมาร่วมทำบุญกันจำนวนมาก พร้อมกันนี้ บรรดาลูกศิษย์ลูกหา และประชาชนมารอรับแจกเหรียญ จากมือ “หลวงปู่บุญ” ประมาณ 1,000 คน
“หลวงปู่บุญ อคฺคเตโช” (พระครูบริคุตโพธิคุณ) “หลวงปู่บุญ อคฺคเตโช” ถือ กำเนิดเกิดที่หมู่บ้านกาพระ ต.หัวงัว อ.สนม จ.สุรินทร์ มีพี่น้องร่วมบิดา-มารดา รวม 9 คน “หลวงปู่บุญ” เป็นบุตรคนที่ 3 สกุลเดิม (โพธิ์ภิรมย์) เกิดเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2469 ปีขาล จบการศึกษา ป.4 พออายุครบบวชท่านได้บรรพชาเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2489 ปีจอ และได้เรียนศึกษาบาลีจบนักธรรมเอก หลังจากจบนักธรรมเอกก็ได้เริ่มศึกษาวิปัสสนากรรมฐานกับหลวงปู่ดุลย์ อตุโล และ หลวงปู่สาม หลังจากนั้นก็ได้ออกธุดงค์ศึกษาหาความรู้กราบครูบาอาจารย์สายกรรมฐานฝากตัวเป็นศิษย์ และสนทนาธรรมกับท่านหลายเกจิอาจารย์ และได้ข้ามฝังลาว ศึกษาวิปัสสนากรรมฐานสายสัมเร็จลุน นครจำปาศักดิ์ อยู่ 2 พรรษา และข้ามกลับมาฝังอุบลราชธานี กราบหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ศึกษากรรมฐานอยู่ปนนิบัตรรับใช้ท่านอีก 2 พรรษา ก็ได้กราบขอลาท่านธุดงค์เข้ากัมพูชาแต่เหตุการณ์ในกัมพูชาไม่อำนวยเกิดสงครามไม่สงบอยู่ได้ 1 พรรษาก็กราบลาครูบาอาจารย์กลับไทย และได้กลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านกาพระ อยู่ 5 พรรษาก็ออกเดินธุดงค์ขึ้นไปทางภาคเหนือไปกราบหลวงปู่สี ฉันทสิริ วัดเขาถ้ำบุญนาค อยู่ปรนนิบัติรับใช้ท่าน 1 พรรษาก็ได้กราบลาท่านธุดงค์ไปต่อ
หลังจากออกเดินธุดงค์ปฏิบัติ ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ศึกษาหาความรู้กับครูบาอาจารย์พอสมควรแก่เวลาแล้วประกอบกับตนเองอายุก็เริ่มมากแล้วจะเข้าเลขห้าแล้ว จึงได้ธุดงค์กลับวัดภูมิลำเนาเดิม “วัดบ้านกาพระ” และได้นำเอาประสบการณ์ และความรู้ที่ครูบาอาจารย์ท่านได้อบรมสั่งสอนกลับมาอบรมญาติโยมทายกทายิกาให้ปฏิบัติตนไปในทางที่ดีที่ถูกที่ควร.
ภาพ/ข่าว: เขมชาติ ชุณหกิจขจร / รมิตา สิงหเสรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดสุรินทร์