“จตุพร” ลงพื้นที่ประจวบฯแก้ไขปัญหาพื้นที่ทับซ้อนป่ากุยบุรีและเขตนิคมสร้างตนเอง
เมื่อวันที่ 24 พ.ค.นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปกท.ทส.) เป็นประธานการประชุมเพื่อตรวจติดตามการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนพื้นที่ทำกินทับซ้อนระหว่างป่าสงวนแห่งชาติ ป่ากุยบุรี และเขตนิคมสร้างตนเองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมี นายชีวะภาพ ชีวะธรรม รองอธิบดีกรมป่าไม้ นายมนตรี ปาน้อยนนท์ ส.ส.ประจวบฯ เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ นายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ รองผู้ว่าราชการ จ.ประจวบฯ หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ณ ที่ทำการสภาองค์กรชุมชนตำบลอ่าวน้อย หมู่ที่ 14 บ้านทุ่งยาว ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ พร้อมกันนี้ ยังได้รับฟังและพูดคุยกับประชาชนในพื้นที่ตลอดจนปลูกต้นมะริดไว้เป็นที่ระลึกอีกด้วย
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ได้สั่งการให้กรมป่าไม้เร่งดำเนินการในเรื่องการเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรีบางส่วน เฉพาะพื้นที่นิคมสร้างตนเองทับซ้อนป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบและประกาศเป็นกฎหมาย ทั้งนี้ ให้ยึดหลัก 3 เรื่อง คือ หลักวิทยาศาสตร์ ในการดูร่องรอยพื้นที่ตามแนวเขตที่ดิน หลักนิติศาสตร์ ให้ตรงตามหลักข้อกฎหมาย และหลักรัฐศาสตร์ ในการติดตามบริหารพื้นที่แนวเขต และเร่งปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการมาตราส่วน 1:4000 (One Map) และแก้ไขปัญหาแนวเขตที่ดินของรัฐ ตามคำสั่งคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ที่ 1/2563 ลงวันที่ 16 มิถุนายน 2563 เพื่อดำเนินการประกาศป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรีใหม่
ทั้งนี้ ปัญหากรณีเรื่องร้องเรียนพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรีทับซ้อนกับนิคมสร้างตนเองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทำให้ราษฎรที่อยู่ภายในนิคมไม่สามารถออกโฉนดที่ดิน และดำเนินการตามพระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ.2511 โดยมีเนื้อที่ทับซ้อน ประมาณ 56,605-1-33 ไร่ ซึ่งถือเป็นปัญหาที่มีมาอย่างยาวนาน และมีการดำเนินการแก้ไขปัญหามามากกว่า 50 ปี โดยที่ผ่านมากรมป่าไม้ได้ดำเนินการแก้ไขกฎกระทรวง ฉบับที่ 325 (พ.ศ. 2511) กำหนดป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี เพื่อแก้ไขแผนที่ท้ายกฎกระทรวงด้วยวิธีการถ่ายทอดแนวเขตที่ให้กันพื้นที่เขตนิคมสร้างตนเองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ในส่วนที่ทับซ้อนกันออกจากเขตป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี และได้เห็นชอบแผนที่ที่ได้แก้ไข แต่ให้เพิ่มเติมในส่วนที่มีสภาพป่าแปลงเล็กๆในเขตพื้นที่นิคมสร้างตนเองที่มีลักษณะเป็นป่าชุมชน และให้นิคมสร้างตนเองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และราษฎรในพื้นที่ร่วมกันรับผิดชอบดูแลไม่ให้มีการบุกรุกทำลายและกันพื้นที่สภาพป่ากลับคืนกรมป่าไม้ เพื่อดูแลรักษาและพัฒนาพื้นที่ให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนต่อไป.
อุดมศักด์ นิ่มเซียน.ประจวบฯ