ชาวบ้านร้องสื่อ ผู้ประกอบการรับซื้อของเก่า สร้างความเดือดร้อนให้ชุมชนใช้ทางสาธารณะเหมือนเป็นที่ส่วนตัว จอดรถไว้ในที่มืดไม่เปิดไฟจักรยานยนต์ชนเสียชีวิตไม่มาดูแล
เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 65 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดบ้านราษีพัฒนา ต.ห้วยสำราญ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นวัดที่ญาติได้นำร่างของนางบุญมี คำชาย อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 บ้านราษีพัฒนา หมู่ 2 ต.ห้วยสำราญ อ.ขุขันธ์ มาตั้งบำเพ็ญกุศล หลังจากที่ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า นางบุญมีได้ขับรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถบรรทุกที่จอดอยู่ข้างทางในที่มืดไม่มีไฟส่องสว่าง ได้รับบาดเจ็บสาหัสและไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล เมื่อไปถึงวัด พบว่ามีญาติพี่น้อง และเพื่อนบ้านมาร่วมไว้อาลัยจำนวนมาก ท่ามกลางบรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจ
น.ส. จิตญาดา คำชาย อายุ 32 ปี ลูกสาวของนางบุญมี คำชาย ผู้เสียชีวิต เล่าว่า เหตุเกิดเมื่อค่ำวันที่ 3 มิถุนายน 2565 แม่ของตนขับรถจักรยานยนต์กลับมาทุ่งนากลับบ้าน มาถึงจุดเกิดเหตุ จักรยานยนต์ของแม่ชนเข้ากับท้ายรถบรรทุก 10 ล้อ ที่จอดอยู่ริมถนนอย่างแรง จนเสียชีวิต ซึ่งอุบัติเหตุจะไม่เกิดขึ้นเลยถ้า ถนนมีไฟฟ้าส่องสว่างอย่างเพียงพอ หรือถ้าวันนั้นรถบรรทุก 10 ล้อที่จอดอยู่เปิดไฟไว้ แล้วหาสิ่งของหรือกรวยมาวางกั้นไว้เป็นเครื่องหมาย เหตุแบบนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับใครคนใดคนหนึ่ง อีกต่อไป ตนขอบอกไว้เลยว่าการสูญเสียในครั้งนี้ใครจะเอาอะไรมาทดแทนก็ไม่ได้ เพราะว่าเรามีแม่คนเดียว หลังจากเกิดเหตุจนแม่เสียชีวิตแล้ว เจ้าของรถบรรทุกที่รถแม่ชนซึ่งก็เป็นเจ้าของร้านรับซื้อของเก่าไม่ได้มาพบมาพูดคุยกับทางบ้านของตนเลย ดูเหมือนเขาจะใม่สนใจในความสูญเสียของคนอื่นเลย
ด้าน นางบัวสอน ผมหอม อายุ 48 ปี หนึ่งในชาวบ้านบ้านราษีพัฒนา กล่าวว่า ถนนบริเวณนี้เกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยมาก มีสาเหตุหลายอย่าง เช่น ไฟฟ้าส่องสว่างริมถนนไม่เพียงพอ และอีกอย่างคือมีร้านรับซื้อของเก่าขนาดใหญ่ เปิดทำธุรกิจอยู่บริเวณนี้ และมีรถบรรทุกขนาดใหญ่ ทั้งรถ 6 ล้อ 10 ล้อ มาจอดขนส่งสินค้าจากร้านแห่งนี้ และมีรถกระบะนำของเก่ามาขายตลอดเวลา ซึ่งขณะจอดรถรถบรรทุกเหล่านั้นจะจอดรถกินพื้นที่สัญจรของผู้ใช้รถใช้ถนน ทำให้บริเวณนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง นอกจากปัญหาร้านรับซื้อของเก่าจอดรถกินพื้นที่ถนนแล้ว ยังมีปัญหาอื่นๆตามมาอีกมากมาย เช่น ร้านรับซื้อของเก่าเผาขยะ หรือ ยางรถ ทำให้ส่งกลิ่นเหม็นทั้งควันไฟ และกลิ่นสารเคมีฟุ้งในชุมชน นอกจากนั้นยังมีการใช้รถแม็กโครยกเหล็กที่มีน้ำหนักมากใส่กระบะรถบรรทุกเกิดเสียงดังทั้งกลางวันกลางคืน เสียงขัดแยกขยะ เสียงตัดเหล็ก ตีเหล็ก สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ชาวบ้านที่มีบ้านเรือนอยู่ใกล้เคียง ชาวบ้านไม่ได้หลับได้นอน
นอกจากปัญหาที่เล่ามาแล้ว ยังมีปัญหาน้ำเน่าเสียที่ไหลมาจากร้านรับซื้อของเก่า ยิ่งช่วงที่มีฝนตกลงมาหนักๆ จะมีน้ำเสียไหลออกมาจากร้านรับซื้อของเก่า จนท่วมขังในพื้นที่บ้านของชาวบ้านใกล้เคียง หลังคาอาคารเก็บของเก่าของทางร้านก็ไม่ยอมทำรางน้ำ เวลาฝนตกมาน้ำจะไหลลงมาในบ้านของ ปัญหาเหล่านี้เกิดมานานกว่า 15 ปีแล้ว ชาวบ้านได้แจ้งไปทาง อบต. แล้วเรื่องก็เงียบ ร้องไปยังศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแล้ว เรื่องก็เงียบ ไม่รู้ว่าร้านรับซื้อของเก่าแห่งนี้สร้างขึ้นมาและขอเปิดถูกต้องหรือไม่ ชาวบ้านหลายคน สงสัยว่า ร้านที่สร้างมลพิษแบบนี้สามารถขออนุญาตเปิดในแหล่งชุมชนได้ด้วยเหรอ สร้างปัญหาให้ทั้งชุมชน ถนนทางหลวง จริงๆควรไปเปิดให้ห่างจากชุมชน ที่ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ชุมชน” นางบัวสอน กล่าว.
ณัฐธรชนม์ สิริโชติสกุล / ศรีสะเกษ