ชาวบ้าน ตำบลมะตูม ร้องคัดค้านการถอนสภาพที่ดิน ตำรวจภาค 6 เตรียมทำสนามกอล์ฟ เพื่อการท่องเที่ยว โดยทางสภา อบต.มะตูม มีมติไม่รับเรื่อง ขณะที่ ส.ส.พิษณุโลกรับเรื่องช่วยชาวบ้านได้มีสิทธิ์ทำกินที่ดิน โดยจะยื่นหนังสือให้คณะกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 25 พ.ค.นี้
วันที่ 10 พฤษภาคม ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลมะตูม อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ในการประชุมสภาองค์การบริหารส่วนตำบลมะตูม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ได้มีชาวบ้าน ราษฎร ในพื้นที่ หมู่ 3 หมู่ 4 และ หมู่ 6 ต.มะตูม ร่วม 100 คน นำโดย นางธารากรณ์ ดอนไพร ผู้ใหญ่บ้านหมู่6 ตำบลมะตูม อ.พรหมพิราม จว.พิษณุโลก ยื่นหนังสือเพื่อคัดค้านการขอถอนสภาพที่ดินสาธารณะประโยชน์ประเภทพลเมืองใช้ร่วมกัน ในส่วนของตำรวจภูธรภาค 6 ที่ใช้พื้นที่ในที่ดิน น.ส.ล.เลขที่ 10663 จำนวน 339 ไร่ 2 งาน 67 ตารางวา ซึ่งปัจจุบันดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ ยังไม่ได้ถอนสภาพ โดยมีนายสมชาย เรือนก้อน และนายนพพล เหลืองทองนารา ส.ส. พิษณุโลกเขต 2 พรรคเพื่อไทย เรื่องการขอถอนสภาพที่ดิน สาธารณะประโยชน์ประเภทพลเมืองใช้ร่วมกัน ในส่วนของตำรวจภูธรภาค 6 เนื่องจากหน่วยงานของตำรวจภูธรภาค 6 กับราษฎร์ หมู่ที่ 6 อยู่ในพื้นที่ น.ส.ล.เลขที่10 663 เนื่องจากใช้ระเบียบ การขอใช้ที่ดินสาธารณะประโยชน์ประเภทพลเมืองใช้ร่วมกัน ต้องได้รับอนุญาตจากกระทรวงมหาดไทย ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการดูแลรักษาที่ดินอันเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน พ.ศ.2515 ข้อ 7 (2)และหน่วยงานราชการ ที่มาใช้พื้นที่ หมู่ที่ 6 ประกอบด้วย
1.กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน – ใช้พื้นที่ จำนวน 100 ไร่ ลงวันที่ 9 มิถุนายน 2533 ข้อมูลจากสำนักงานที่ดิน อำเภอพรหมพิราม ไม่ปรากฎหลักฐาน การอนุมัติ ของกระทรวงมหาดไทย ปัจจุบันกรมพัฒนาฝีมือแรงงานดำเนินการก่อสร้างกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จังหวัดพิษณุโลก ในพื้นที่แล้ว ยังไม่ได้ถอนสภาพ
2.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ใช้พื้นที่ ในที่ดินแปลงนี้จำนวน 339 ไร่ 2 งาน 67 ตารางวา เป็นสถานที่ตั้งตำรวจภูธรภาค 6 ปัจจุบันดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จในพื้นที่แล้ว ยังไม่ได้ถอนสภาพ
3.กรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน – ใช้พื้นที่ 71 ไร่ 51 ตารางวา เป็นสถานที่ก่อสร้างโครงการฝ่ายมะขามสูง ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จในพื้นที่แล้ว ยังไม่ได้ถอนสภาพ
4.สำนักงานปราบปรามยาเสพติด – (ปป.ส ) ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จในพื้นที่แล้ว
5.กรมราชฑัณ – ใช้พื้นที่ 550 ไร่ ยังไม่ดำเนินการก่อสร้าง แต่มีการถอนสภาพที่ดินออกจาก น.ส.ล
ทั้งนี้ ชาวบ้านได้ร้องเรียนขอความเป็นธรรมไปหลายหน่วยงานก็ไม่มีการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งที่ชาวบ้านอยู่มาก่อนที่จะมีการตรวจสอบรังวัดพื้นที่ เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2513 และที่ดินทำกินของชาวบ้านถูกนำไปออกเป็นหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (น.ส.ล.)เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ.2522 โดยที่ชาวบ้านไม่เคยมีใคทราบเรื่องเลย จนกระทั่งหน่วยงานของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานมาลงในพื้นที่ ชาวบ้านจึงทราบเรื่องว่าที่ดินของตนเองถูกขึ้นเป็นโฉนดหลวงแล้ว ซึ่งทางหมู่บ้านยังพอมีเอกสารหลักฐานเก่าแก่ที่พอจะหามารวบรวมได้ และพยานบุคคลที่เป็นผู้สูงอายุ ที่ยังสามารถสอบข้อเท็จจริงได้
นางธารากรณ์ ดอนไพร ผู้ใหญ่บ้านหมู่6 ตำบลมะตูม อ.พรหมพิราม จว.พิษณุโลก กล่าวว่า การมาเรียกร้องในวันนี้ เพื่อต้องการได้รับสิทธิ์ในที่ดิน เช่นเดียวกับที่รัฐขอใช้ที่ดิน โดยยืนยันว่าชาวบ้านได้ทำกินในที่ดินกว่า 200 ปี โดยมีผู้สูงอายุที่รุ่นที่ 3 อายุกว่า 90 ปี พร้อมให้ตรวจสอบสิทธิ์ในการทำกินในที่ดินมายาวนาน ก่อนขึ้นทะเบียนเป็นที่ น.ส.ล.
นายสมชาย เรือนก้อน นายก อบต.มะตูม กล่าวว่า เรื่องที่สาธารณะประโยชน์ได้รับหนังสือไว้ เพื่อยื่นกับหน่วยงานต่างๆ แต่ราษฎร์ที่ทำกินมาโดยตลอดกับไม่มีสิทธิ์ในที่ดินเลย ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนอย่างมากไม่มีที่ดินทำกินและอยู่อาศัย เบื้องต้น ตนได้ช่วยเหลือชาวบ้านต่อสู้เรื่องนี้มานานหลายปี สำหรับในวันนี้ทางตำรวจภูธรภาค6 มาขอถอนสภาพการใช้ที่ดิน ในพื้นที่ 339 ไร่ เมื่อเห็นว่าทางหน่วยงานรัฐมาขอถอนสภาพ ชาวบ้านก็เรียกร้องอยากให้ช่วยถอนสภาพให้ด้วย ชาวบ้านก็อยากมีที่ดินทำกิน ที่เหลือ 180 ไร่ พื้นที่ให้ชาวบ้านทำกินอยู่ สำหรับการลงมติสภาวันนี้ทางสภาจะไม่ลงมติให้กับตำรวจ ส่วนการถอนที่ดินใช้ชาวบ้าน โดยขอให้ถอนสภาพให้เป็นโฉนด ทุกวันนี้ชาวบ้านต้องเช่าที่ดินทำกินมีการต่อภาษี และสอบสิทธิ์การขอใช้ที่ดินทุก 5 ปี นอกจากนี้ชาวบ้านไม่สามารถขอทะเบียนบ้านไม่ได้ โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่าบ้านที่สร้างอยู่ในที่สาธารณะไม่สามารถออกทะเบียนบ้านได้
ด้าน พ.ต.อ.อาณุ ปิ่นทอง ผกก.สภ.พรหมพิราม ในฐานะตัวแทน ตร.ภ.6 เปิดเผยว่า เรื่องขอถอนที่ดินสาธารณะครั้งนี้ เพื่อให้เป็นที่ดินของราชพัสดุ กรมธนารักษ์ เพื่อต้องการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและดึงดูดพี่น้องประชาชนจากนอกพื้นที่ให้มาท่องเที่ยวใน จ.พิษณุโลก เพราะมีสนามกอล์ฟและสนามกีฬา กระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัด นอกจากนี้ยังทำให้คนในพื้นที่มีอาชีพมีงานทำด้วย ส่วนข้อขัดแย้งที่ชาวบ้านยังไม่เข้าใจนั้นเป็นคนละประเด็นกัน เพราะในส่วนของชาวบ้านจะต้องไปพิสูจน์สิทธิในเรื่องที่ดินทำกินว่ากันไปตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
ด้าน นายนพพล เหลืองทองนารา ส.ส.พิษณุโลก เขต 2 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้ได้เข้ามาช่วยเหลือเนื่องจากมีชาวบ้าน ต.มะตูม อ.พรหมพิราม ยืนเรื่องมาถึงตนให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงของเอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกิน เพราะไม่ได้รับความเป็นธรรมเพื่อให้ขอถอนสภาพ น.ส.ล. มีการยกเว้นหน่วยงานราชการไม่ปฏิบัติตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการขอถอนสภาพสิทธิ์ที่ดิน ดังนั้นตนจะได้นำเรื่องดังกล่าวยื่นต่อทางคณะกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของสภาผู้แทนราษฎร ได้เข้ามาศึกษาดูว่าการถอนสภาพที่ดินทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นของทางราชการและชาวบ้านในพื้นที่ถูกต้องหรือไม่ เพราะสังเกตเห็นว่าน่าจะขาดหายในระเบียบบางตอน ซึ่งแตกต่างจากชาวบ้านที่มีการขอสภาพที่ดินเหมือนกัน โดยชาวบ้านอยู่ก่อนหน่วยงานใดใดมานานพอสมควร ชาวบ้านเข้ามาทำกินตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ ก่อนจะมีหน่วยงานราชการเข้ามาขอใช้ที่ดินดังกล่าว โดยตนมองเห็นถึงความขัดแย้งหลายๆส่วนมีการขอให้ที่ดินและขอถอนสภาพการใช้ที่ดินเช่นกัน สำหรับเรื่องของชาวบ้านตนจะมียื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 25 พฤษภาคม นี้ ส่วนเรื่องจะเร็วหรือช้า ขอให้ส่งหนังสือให้ทางคณะกรรมการฯพิจารณาก่อน
โดยในการประชุมสภาองค์การบริหารส่วนตำบลมะตูม อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ได้มีมติไม่รับการถอนสภาพที่ดินสาธารณประโยชน์ (หนองลาด) น.ส.ล. เลขที่ 10663 ขณะที่ นายนพพล เหลืองทองนารา ส.ส. พิษณุโลกเขต 2 พรรคเพื่อไทย ได้เข้ามารับฟังพร้อมรับปากจะนำเรื่องร้องเรียนดังกล่าว จะนำเสนอ กรรมธิการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ในสมัยประชุมสภาวันที่ 25 พ.ค.65 ยุติเวลา 11.20 น.
สุพิณ…พิโลก……