ผู้ว่าฯสงขลา ตรวจสอบโบราณสถาน หลังถูกผู้บุกรุกลักลอบทำลาย

ผู้ว่าฯสงขลา พร้อม ผอ.กรมศิลปากรที่ 11 สงขลา ขึ้นเขาแดงสักการะเจดีย์องค์ดำองค์ขาว หลังถูกผู้บุกรุกลักลอบทำลายโบราณสถานและแผ้วทางป่าทำเป็นถนนขึ้นไปบนยอดเขา

วันที่ 6 มีนาคม 2565 จากกรณี นายพงศ์ธันว์ สำเภาเงิน ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 11 สงขลา ได้มอบหมายให้นายนิรันดร์ นุ่มนวล นายช่างเทคนิคอาวุโส กลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน สำนักศิลปากรที่ 11 สงขลา เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.สิงหนคร หลังตรวจสอบพบโบราณสถานเขาแดง ตำบลหัวเขา อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา ถูกผู้บุกรุกลักลอบทำลายโบราณสถานและแผ้วทางป่าทำเป็นถนนขึ้นไปบนยอดเขา

เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า มีการทำลายป่าไม้ รวมถึงการลักลอบนำเครื่องจักรขนาดใหญ่มาทำการเปิดทางก่อนทำเป็นถนนบุกรุกเข้าไปในเขตโบราณสถานภูเขาแดง ซึ่งถนนดังกล่าวมีความกว้าง 4 เมตร ระยะทางไปจนถึงยอดเขาแดง ประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของเจดีย์องค์ดำองค์ขาว สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองสงขลา

จากการตรวจสอบโดยรอบไม่พบผู้กระทำความผิดและรวมไปถึงไม่พบเครื่องจักรกลแต่อย่างใด ในส่วนของการบุกรุกนั้น คาดว่าน่าจะมีการใช้ห่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่หน่วยงานท้องถิ่นพึ่งเข้ามารับตำแหน่งใหม่และวางระบบการทำงานใหม่ จึงทำให้เกิดช่องว่างในการลักลอบบุกรุกแผ้วทางป่าทำถนนเข้าไปยังเขตโบราณสถาน ทำให้เกิดผลกระทบต่อโบราณสถานซึ่งมี 2 จุด โดยจุดแรกมีการบุกรุกลักลอบขุดทำลายและปรับไถดินในส่วนพื้นที่ของภูเขาแดง ลักษณะเป็นทางเดินรถซึ่งกว้างประมาณ 4 เมตร ติดกับแนวเขตของกองทัพเรือขึ้นไปตามไหล่เขา จนสามารถมองเห็นพื้นที่ที่ต้นไม้ถูกทำลายอย่างเห็นได้ชัดจากฝังตรงข้าม พื้นที่ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา

ส่วนจุดที่สอง บริเวณด้านหลังป้อมหมายเลข 9 โบราณสถานเขาน้อย ตั้งอยู่ริมถนนถนนสงขลา-ระโนด ตำบลหัวเขา อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา  พบมีการบุกรุกแอบลักลอบขุดทำลายแผ้วทางป่าทำเป็นถนนยาวประมาณ 200 เมตร กว้างประมาณ 4 เมตร ซึ่งห่างจากป้อมหมายเลข 9 ประมาณ 200 เมตร  เขาน้อยได้จัดเป็นส่วนหนึ่งของโบราณสถานเขาแดง พบความเสียหายรวมประมาณ 3 ไร่ เหตุเกิดบริเวณทางเดินเท้า เชื่อมระหว่างโบราณสถานป้อมหมายเลข 9 กับโบราณสถานบนภูเขาน้อย

ล่าสุดที่บริเวณทางขึ้นป้อมปืนหมายเลข 8 ตำบลหัวเขา อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นายพงศ์ธันว์ สำเภาเงิน ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 11 สงขลา นายปองภพ ตุลยนิษก์ ตำแหน่ง เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน นายสืบสกุล ศรีสุข เลขานุการมูลนิธิมรดกโลก ปลัดเทศบาลสิงหนคร และเจ้าหน้าที่ อส.จังหวัดสงขลา ขึ้นสักการะเจดีย์องค์ขาวองค์ดำซึ่งตั้งประดิษฐ์สถานอยู่บนยอดภูเขาแดง

ช่วงระหว่างเดินขึ้นเขาก็จะพบป้อมปืนหมายเลข 8 ลักษณะผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 12 เมตร ยาว 18 เมตร สูง 1.80 เมตร มีใบบังทั้งสี่ ก่อด้วยหินชั้นสีแดงสอปูน วางหินโดยใช้ด้านกว้างวางทับช่วยให้ป้อมมั่นคงแข็งแรง ความแข็งแกร่งของเมืองบ่งบอกว่าเมืองมีความสำคัญทางด้านต่างๆเช่น เป็นเมืองท่าและศูนย์กลางการค้าขายเป็นแหล่งเศรษฐกิจที่ใหญ่ เนื่องจากตั้งอยู่ไกลจากกรุงศรีอยุธยาดังนั้นป้อมปืนจะต้องมั่นคงแข็งแรง เพราะในช่วงเวลาขอความช่วยเหลือจะต้องใช้เวลานานในการเดินทางและทางด้านการทหารนั้นถือว่ามีการฝึกฝนอย่างมีประสิทธิภาพในการใช้ปืนไฟและปืนใหญ่จำนวนมากและป้อมดังกล่าวตั้งอยู่บนปลายสุดของเขาแดงทางมุมเมืองด้านทิศตะวันออกถึงทิศเหนือ ซึ่งจะมองเห็นเกาะหนูเกาะแมวและเมืองสงขลาอย่างเห็นได้ชัด

ระหว่างทางยังพบพันธุ์ไม้ต่างๆ จัดเป็นพันธุ์ไม้สมุนไพรและพันธุ์ไม้มงคล อาทิ พันธุ์ไม้สมุนไพรชื่อ ต้นนมพิจิตร ลักษณะต้นนมพิจิตรจะเป็นเถาไม้เลื้อยลำต้นทรงกระบอกสีน้ำตาล แตกกิ่งก้านมาก ทุกส่วนของต้นมีน้ำยางสีขาว ใบ เป็นใบเดี่ยว เรียงวงรอบ ออกตามเถา ลักษณะใบหนาอวบน้ำ รูปไข่ รูปรี หรือรูปใบหอก แผ่นใบสีเขียว กว้างประมาณ 5-11 เซนติเมตร ยาวประมาณ 7.5-15 เซนติเมตร มีเส้นใบหลักประมาณ 3-5 เส้น สรรพคุณ บำรุงน้ำนม แก้ฝีในตับ พันธ์ุไม้มงคลชื่อ เสม็ดแดง หรือ มังกรแดง ลักษณะของต้นเสม็ดแดง เป็นไม้ต้น สูงได้ถึง 20 เมตร กิ่งอ่อนเป็นสี่เหลี่ยม ต้นแก่มักบิดงอ ขนาดของลำต้นค่อนข้างใหญ่และแข็งแรง สีเปลือกไม้ออกสีน้ำตาลแดง กิ่งก้านแตกออกเป็นทรงพุ่มที่มีใบหนา และเป็นต้นไม้มงคลซึ่งเป็นต้นไม้นำโชคที่นิยมนำมาปลูกไว้บริเวณรอบบ้านเพื่อความเป็นสิริมงคล เชื่อกันว่าต้นเสม็ดแดงเป็นที่สิงสถิตของเทพชั้นสูง จะล่วงเกินหรือลบหลู่ไม่ได้เด็ดขาด สรรพคุณ ใบ รสหอมร้อน ตำป่นปิดพอกแก้เคล็ดขัดยอก ฟกบวมได้ดี ใช้ผลมะกรูด หรือใบพลู รมควันใต้ใบเสม็ดพออุ่นๆ นาบท้องเด็ก แก้ท้องขึ้น ท้องอืด ท้องเฟ้อในเด็ก แก้ปวดท้องได้ดีมาก ใบเสม็ดมีประโยชน์หลายด้าน สามารถทานสดเป็นผักเครื่องเคียง เป็นผักทานสด ใช้เป็นอาหาร ยอดอ่อนหรือใบอ่อน จะมีรสฝาด มัน อมเปรี้ยว บริโภคเป็นผักสด เป็นเครื่องเคียงน้ำพริกต่าง ๆ หรือขนมจีนน้ำยา ทานกับลาบ หรืออาหารประเภทยำทุกชนิด หรือต้มดื่มแบบน้ำชาได้ ถ้านำใบสดมาบดละเอียดแล้วพอกตามผิวหนังก็จะลดฟกช้ำได้ดีและยังสามารถสกัดเอาน้ำมันเขียวแล้วทานเพื่อช่วยขับลม บรรเทาอาการท้องอืด และลดการระคายเคืองในช่องคอขณะที่มีเสมหะ

จากนั้น นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นายพงศ์ธันว์ สำเภาเงิน ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 11 สงขลา นายปองภพ ตุลยนิษก์ ตำแหน่ง เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน นายสืบสกุล ศรีสุข เลขานุการมูลนิธิมรดกโลก ปลัดเทศบาลสิงหนคร และเจ้าหน้าที่ อส.จังหวัดสงขลา ได้เดินมาถึงยอดเขาแดงที่เจดีย์องค์ขาวองค์ดำประดิษฐ์สถานอยู่ พร้อมกับเริ่มทำพิธีสักการะ

ประวัติความเป็นมาของเจดีย์องค์ขาวองค์ดำถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะในการรักษาขอบขัณฑสีมากรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นในเขตหัวเมืองชายแดนภาคใต้ ซึ่งเรียกกันว่า “เจดีย์สองพี่น้อง” องค์แรกจะเป็นเจดีย์องค์พี่ ลักษณะเป็นเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง ก่อด้วยหินฉาบปูน ยอดปรักหักพัง มีสีดำ คนทั่วไปเรียกว่า “เจดีย์องค์ดำ” สร้างเมื่อ พ.ศ.2375 โดยเจ้าพระยาพระคลัง (ดิศ บุนนาค) หรือสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ ส่วนเจดีย์องค์ที่สอง เป็นเจดีย์องค์น้องก่อด้วยอิฐฉาบปูนมีสีขาว เรียกกันว่า “เจดีย์องค์ขาว” สร้างขึ้นระหว่าง พ.ศ.2382-2484 โดยพระยาศรีพิพัฒน์รัตนราชโกษา (ทัด บุนนาค) หรือสมเด็จเจ้าพระยามหาพิชัยญาติ ผู้เป็นน้องร่วมมารดากับเจ้าพระยาพระคลังฯ ปัจจุบันองค์เจดีย์ทั้งสองได้รับการขุดแต่งบูรณะจากหน่วยศิลปากรที่ 9 สงขลา กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติเมื่อ พ.ศ.2525 และยังเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสงขลา อีกด้วย

ทางด้าน นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า จากกรณีเอาผิดกลุ่มผู้บุกรุกโบราณสถานนั้นตอนนี้มีความคืบหน้าไปมากซึ่งมีทั้งหมด 3 จุด โดยจุดแรกที่บริเวณหัวเขาแดง ได้ทำทางถนนขึ้นไปในแนวของเชิงเขา จุดที่สอง บริเวณหลังป้อมปืนหมายเลข 9 ซึ่งได้ทำลายแผ้วทางป่าทำเป็นทางซึ่งพื้นที่ได้รับความเสียหายโดนทำลายไปประมาณ 3 ไร่เศษ จุดที่สาม ใต้ฐานของเจดีย์องค์ดำ ซึ่งได้ถูกคนร้ายลักลอบเข้ามาขุดเจาะทำลายเพื่อหาวัตถุมงคลใต้ฐานเจดีย์  เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคาดว่ามีการบุกรุกในช่วงก่อนเดือนมกราคมและช่วงเดือนกุมภาพันธ์ทางกรมศิลปากรที่ 11 สงขลา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่ามีการบุกรุกพื้นที่โบราณสถานเขาแดง จึงได้มีการประสานหน่วยงานในพื้นที่เข้าตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆดำเนินการเข้าแจ้งความที่ สภ.สิงหนคร ซึ่งทั้ง 3 จุด ทาง สภ.สิงหนคร ได้รับเรื่องคดีทั้ง 3 คดีไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งทั้งหมดเป็นคดีอาญา การกระทำความผิดมีสามส่วนด้วยกันส่วนที่หนึ่งคือการบุกรุกบริเวณเขาแดงซึ่งได้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์และออกหมายจับผู้ต้องหา และหน้าที่ขอตนคือเร่งรัดให้การสอบสวนสามารถส่งฟ้องให้ได่โดยเร็วที่สุด ส่วนที่สองคือการบุกรุกบริเวณเขาน้อยซึ่งขณะนี้ได้ทราบกลุ่มผู้บุกรุกเรียบร้อยแล้วอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานและออกหมายเรียกและออกหมายจับ และส่วนที่สามคือการทุบทำลายองค์เจดีย์อยู่เพื่อขโมยทรัพย์สิน ในส่วนของบริเวณเขาแดงได้มีการออกหมายจับผู้กระทำความผิดและได้มีการเข้ารายงานตัวแล้ว ด้านบริเวณเขาน้อยขณะนี้ทราบตัวผู้กระทำความผิดแล้วเตรียมรวบรวมพยานหลักฐานและออกหมายจับในเร็วๆ นี้ ส่วนเจดีย์องค์ดำและองค์ขาวที่ถูกทำลายขณะนี้กรมศิลปากรได้เข้าดูแลและบูรณะซ่อมแซมเป็นที่แล้วเสร็จและทำการบวงสรวงในวันนี้เพื่อบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หลังจากนี้จะมีการร่วมกับหน่วยงานราชการทั้งนายอำเภอและเทศบาลเมืองสิงหนครเข้าป้องกันและป้องปรามเพื่อไม่ให้มีผู้กระทำความผิดเพิ่ม

นอกจากนี้ หลังเสร็จพิธีสักการะเจดีย์องค์ขาวองค์ดำ นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมคณะได้เดินทางไปที่ป้อมปืนหมายเลข 9 เพื่อตรวจสอบความเสียหายบริเวณด้านหลังป้อมปืนหมายเลข 9 ซึ่งมีการบุกรุกทำลายไถดินเข้ามายังเขตพื้นที่โบราณสถาน เบื้องต้นพบเสาปูนมีลวดหนามพันรอบและยังมีการปลูกต้นมะพร้าวซึ่งบ่งบอกมีการแอบจับจองเขตพื้นที่โบราณสถานเขาแดงมาเป็นของตนเอง  พบพื้นที่ที่ถูกทำลายไถดินเข้ามาซึ่งจากการวัดแนวคูเมืองเข้ามายังเขตพื้นที่โบราณสถาน พบได้รับความเสียหายประมาณ  20-30 เมตร

ภาพ/ข่าว อนุกูล บุญมี  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค  จ.สงขลา


Scroll to Top

แฉข่าวเด่น ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า