ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 21 ม.ค. 65 ที่หน้าสำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดศรีสะเกษ ได้มีประชาชน กลุ่มเยาวชน กว่า 20 คน ใน ต.กฤษณา อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ นำโดย น.ส. รัติกรณ์ สาระพักดี ทนายความ และ นายกลยุทธ วงษ์พินิจ ตัวแทนกลุ่มเยาวชนในตำบลกฤษณา เดินทางมายื่นหนังถึงสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อขอให้เข้าไปตรวจสอบพฤติกรรมของข้าราชการ เจ้าหน้าที่ พนักงาน ของ อบต.กฤษณา และการเบิกจ่ายเงินค่าเช่าบ้านให้กับข้าราชการ พนักงาน ใน อบต.
น.ส. รัติกรณ์ สาระพักดี เปิดเผยว่า ที่มาวันนี้ตนได้นำตันแทนชาวบ้าน มายื่นหนังสือ และนำข้อมูลบ้างส่วนมายื่นให้กับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อขอให้เข้าไปตรวจสอบการพฤติกรรมการวางตัวไม่เป็นกลางของข้าราชการ พนักงาน บุคลากร การนำห้างร้านต่างๆที่อาจจะไม่ได้จดทะเบียนอย่างถูกต้อง หรือไม่มีจริงมาทำโครงการใน อบต.กฤษณา ตำบลกฤษณา อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ และการเบิกจ่ายเงินค่าเช่าบ้านให้กับข้าราช พนักงาน บุคลากร ของ อบต. ดังกล่าว ว่าถูกต้องหรือ สำนวน ให้เบิลจ่ายไหม เพราะหลังจากที่ได้ข้อมูลและหลักฐานบ้างส่วนที่ได้มา พบมีการเบิกจ่ายเงินค่าเช่าบ้านให้กับข้าราชการ พนักงาน บุคลากร ของ อบต.แห่งนี้ไม่ถูกต้องและไม่ค่อยเหมาะสม เช่น มีการเบิกเงินค่าเช่าบ้านให้กับข้าราชการ พนักงาน บุคลากร ที่มีทำเอกสารหลังฐานการเช่าบ้านของ พ่อตา แม่ยาย หรือ บ้านของสามี ภรรยา มาขอรับเงินดังกล่าว ซึ่งดูจะไม่ค่อยเหมาะสอดคล้องกับเงินนี้เท่าที่ควร บ้างที่มีข้าราชการ พนักงาน บุคลากร ไปเช้าบ้านในตัวเมือง เพื่อจะได้ทำเอกสารหลังมาของรับเงินค่าเช่า ทั้งๆที่มีบ้านที่อยู่อาศัยในตำบล ในพื้นที่ตนทำงาน ซึ่งดูเหมือนว่าเป็นการทำเองสาร หลังฐาน ข้อเท็จ ปลอมมาขอรับเงินดังกล่าว ทำให้ภาครัฐศูนย์เสียเงิน ที่เป็นเงินภาษีของประชาชน ไปโดยไม่ได้ประโยชน์อะไร ซึ่งตนถือว่าเป็นวัยรุ่น เป็นเยาวชนคนรุ่นใหม่คนหนึ่งในตำบล ที่อยากจะเห็นการพัฒนาของตำบลของตำบลตัวเองให้มันมากกว่านี้ พอเห็นพอรู้พอได้ข้อมูลที่ไม่เป็น หรือ ส่อทุจริต ในตำบลตนเลยต้องออกมาแสดงจุดยืนของให้หน่วยงานที่เกี่ยวเข้ามาช่วยตรวจสอบด้วย เพื่อให้เงินภาษีของประชาชนได้ใช้จ่ายอย่างถูกต้อง ไม่ใช้เข้ากระเป๋าของใครก็ไม่รู้อย่างไม่ถูกต้อง
น.ส. รัติกรณ์ กล่าวต่อไปว่า ที่ตนต้องมาร่วมยื่นหนังสือในครั้งนี้ ก็เพราะได้รับการประสานจากชาวบ้าน กับกลุ่มเยาวชนที่มาร้อง ให้เข้ามาช่วยดูข้อมูลหลักการยื่นหนังสือหน่อย และให้เข้ามาดูหลักฐานเอกสารที่ได้มาว่าดูต้อง หรือ เข้าเกณฑ์ กากระทำไหม เพราะผู้ร้องส่วนมากจะเป็นเพียงชาวบ้านเท่าไร หรือ เยาวชน ในตำบล ที่ไม่ค่อยมีความรู้ด้านกฎหมาย เกรงว่าถ้าร้องไปจะผิดไหม หรือ จะถูกฟอร์มกลับไหม และจะเข้ามาช่วยด้านความปลอดภัย เพราะจะถูกคุกคามจากกลุ่มคนที่ไม่หวังดี และกลุ่มคนที่อาจจะได้จากผลประโยชน์เงินค่าเช่าบ้านนี้ ซึ่งเบื้องต้นจากการที่ได้ดูเอกสารหลักฐาน ที่ชาวบ้านให้มานั้นมีส่วนที่ส่อถึงการทุจริตเงินค่าเช่าบ้านของข้าราชการส่วนท้องถิ่น
อีกเรื่องหนึ่งที่มายื่นคือเรื่องอยากให้ ป.ป.ช. เข้าไปตรวจสอบห้างร้าน ต่างๆ ที่เข้ามาประมูลงาน หรือ เข้ามาทำงานทำโครงการต่างกับทาง อบต.กฤษณา ว่าเป็นได้จดทะเบียนถูกต้องไหม ว่าคนจดทะเบียน มีหน้าห้าง หน้าร้าน จริงไหม เพราะจากที่มีข้อมูล บ้างห้างร้านคนจดทะเบียนเป็นพระสงฆ์ก็มี บางรายเป็นเกษตรไม่มีหน้าห้าง หน้าร้าน ยังได้จดทะเบียนห้างร้านแล้วมีชื่อไปรับงานทำโครงการต่างๆใน อบต. ทั้งนี้จึงอยากจะร้องขอให้ ป.ป.ช. ได้รีบลงพื้นที่ตรวจสอบโดยเร็ว เพื่อผลประโยชน์ของรัฐ และของประชาชน” น.ส. รัติกรณ์ กล่าวในตอนท้าย.
ณัฐธรชนม์ สิริโชติสกุล / ศรีสะเกษ
