วันที่ 21 ม.ค. พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว. สระแก้ว พร้อมด้วย พ.ต.อ.อรรถพล พงษ์ สุพรรณ รอง ผบก.ภ.สระแก้ว รรท.ผกก.สภ.อรัญประเทศ พ.ต.อ.พีระพงษ์ เหล่าธนาวิน รอง ผบก.ภ. จว.สระแก้ว และ พ.ต.ท.วราวุฒิ นิตยวัน รอง ผกก.สภ.โคกสูง ร่วมกันแถลงผลการจับกุมขบวนการลักรถจักรยานยนต์ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน ที่บริเวณหน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว โดยได้ผู้ต้องหาจำนวน 2 ราย เป็นชาวไทย 1 ราย ชาวกัมพูชา 1 ราย พร้อมของกลางรถ จยย.ที่ใช้ก่อเหตุ รถจยย.ของกลาง อุปกรณ์ที่ไว้ใช้โจรกรรมจึงตรวจยึดทั้งหมด
พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 19 ม.ค. มี น.ส.ปารวรรณ ไพรัมย์ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22 ม.1 ต.โคคลาน อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อได้มาทำงานที่ อ.อรัญประเทศ และพักอาศัยอยู่ที่ห้องเช่าดวงพร ม.5 ต.บ้านใหม่หนองไทร อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังเลิกจากงานประจำได้ขับรถ จยย. ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน 1กฎ 2253 สระแก้ว มาจอดไว้ที่ข้างห้องเช่า ในเวลา 16.00 น. เข้าพักผ่อนแล้วเมื่อเวลา 07.00 น.ตื่นเพื่อจะออกไปทำงานแต่ปรากฎว่า รถจักรยานยนต์ได้หายไปจากที่จอดรถ จึงแจ้ง ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ ให้ช่วยติดตามเพราะว่าเดือดร้อนเป็นอย่างมาก จึงสั่งการให้ ชุดสืบสวน สภ.อรัญประเทศ ออกติดตามแกะรอยจากกล้องวงจรปิดกระทั่งพบว่ามีคนร้าย 2 คนขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวพร้อมรถอีกคัน มุ่งหน้าไปยัง อ.โคกสูง จึงประสานชุดสืบสวน สภ.โคกสูง ติดตามกระทั่งพบว่ารถที่ถูกโจรกรรมไปถูกซุกซ่อนอยู่ที่ป่ามันท้ายหมู่บ้านหนองจาน ม.3 ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ขณะกำลังจะนำออกขายประเทศเพื่อนบ้าน จึงเข้าจับกุมได้ตัวผู้ต้องหา ทราบชือต่อมาคือ นายบุญชม เพ็ญโคกสูง อายุ 38 ปี และ นายเอือน อาน อายุ 26 ปี ชาวกัมพูชา พร้อมของกลาง รถ จยย. ฮอนด้าคลิก สี น้ำเงินดำ ทะเบียน 1 กฮ 5094 ระยอง ที่ใช้ก่อเหตุและ รถ จยย.ฮอนด้าเวฟ ของกลาง คุมตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.โคกสูง
สอบสวนให้การว่า ก่อนหน้านี้ได้ทำงานเฝ้าสวนหลายปี แถวนิคมพัฒนา ใน จ.ระยอง และได้รู้จักกับชาวกัมพูชา ซึ่งเมื่อก่อนจะเป็นนักบินรับจ้างขับมาส่งที่ชายแดนได้คันละ 5,000 บาท ทำมาแล้วมากกว่า 10 ครั้ง โดยครั้งนี้ได้ผันตัวก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์กันเองและนำส่งข้ามไปขายประเทศเพื่อนบ้าน โดยชาวกัมพูชาจะเป็นคนติดต่อนายหน้าฝั่งกัมพูชา ให้มารับรถที่บริเวณช่องทางธรรมชาติ หากนำข้ามไปได้จะได้ค่าตอบแทนคันละ 20,000 บาทขึ้นไปและจะแบ่งค่าติดต่อให้กับชาวกัมพูชาต่อครั้งคันละ 3,000-5,000 บาท จากนั้นจึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้พาหนะ หรือร่วมกันรับของโจร ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.อรัญประเทศ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทางด้าน น.ส.ปารวรรณ เผยว่า หลังจากที่รถจักรยานยนต์ของตนหายไป รู้สึกเสียใจและเป้นทุกข์อย่างมากเนื่องจากรถคันนี้ยังต้องผ่อนส่งชำระอยู่ และในทุกๆวันต้องใช้ขับไปทำงาน ซึ่งทำให้ลำบากมากๆ แต่ก็รู้สึกดีใจที่ ตำรวจ ช่วยกันติดตามและจับกุคนร้ายพร้อมตามรถจักรยานยนต์กลับมาคืนให้ได้ ก็ขอขอบคุณ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว พร้อมมอบกระเช้าเพื่อเป้นคำตอบแทนและเป็นกำลังใจให้ตำรวจทุกๆนาย ให้เป็นที่พึ่งกับประชาชนต่อไป
นายยุทธนา พึ่งน้อย ผู้สื่อข่าวจังหวัดสระแก้ว
