ศาลฎีกาพิพากษายืนให้ประหารชีวิตผู้กองเหน่งฆ่าผอ.อ้อย แก้ให้ปรับลดดอกเบี้ยลงตามกฎหมายกำหนด พ่อแม่ญาติพี่น้องดีใจที่ได้รับความเป็นธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ เวลา 10.00 น.วันที่ 9 พ.ย. 65 นายบุญเลิศ อุ่นอ่อน และนางแหลม อุ่นอ่อน พ่อและแม่ของ น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน หรือ ผอ.อ้อย ผอ.กองการศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วยญาติพี่น้อง เดินทางไปที่ศาลจังหวัดกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อฟังคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่ ร.อ.ศุภชัย ภาโส หรือผู้กองเหน่ง ฆ่า น.ส.จุฑาภรณ์ โดยมีทนายความฝ่ายโจทย์เข้ารับฟังคำพิพากษาด้วย
สืบเนื่องจากคดีที่ น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน หรือ ผอ.อ้อย ผอ.กองการศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ที่หายตัวไป ตั้งแต่เดือน กรกฎาคม 2560 พ่อแม่ พร้อมด้วยสามี ได้แจ้งความคนหายกับพนักงานสอบสวน สภ.กันทรลักษ์ ตำรวจและญาติพี่น้องออกตามหา ผอ.อ้อยที่หายไปอย่างลึกลับ จนกระทั่ง วันที่ 23 ต.ค. 60 จึงพบกะโหลกศรีษะ โครงกระดูก เส้นผม เข็มขัด และนาฬิกาของ ผอ.อ้อยในป่าใกล้ชายแดนสามเหลี่ยมมรกต อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กลายเป็นคดีฆาตกรรมที่ซับซ้อน มี ร.อ.ศุภชัย ภาโส หรือผู้กองเหน่ง ตกเป็นผู้ต้องสงสัย พนักงานสอบสวนจึงได้เรียก ร.อ. ศุภชัย มาพบที่ บก.ภ.จว.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2560 พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา คือ 1.ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 2.หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 3.ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ
เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 2562 ศาลชั้นต้นได้พิพากษาลงโทษประหารชีวิต ร.อ.ศุภชัย ภาโส และให้จำเลยชดใช้เงินให้โจทย์ร่วม จำเลยอุทธรณ์ เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 63 ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น คือให้ประหารชีวิต ร.อ.ศุภชัย และวันนี้ เป็นขั้นตอนสุดท้ายของคดีที่โด่งดังไปทั่วประเทศ เนื่องจากจำเลยมีพฤติการณ์ก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยม ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ คือให้ประหารชีวิต ร.อ.ศุภชัย ภาโส ส่วนคดีทางแพ่ง ที่ให้ชดใช้เงินแก่โจทย์ร่วมซึ่งมีพ่อ แม่ สามีและลูกสาว ให้จำเลยชำระค่าปลงศพและค่าใช้จ่ายอันจำเป็น ค่าขาดไร้อุปการะและขาดแรงงานในครัวเรือนแก่ โจทย์ร่วมที่ 1-4 จากเดิมรวมเป็นเงิน 2,376,000 บาท เป็น 3,510,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ศาลฎีกาให้แก้ส่วนที่เป็นดอกเบี้ยจาก 7.5 ต่อปีเป็น 5 % ต่อปีตามกฎหมายที่แก้ไขใหม่ นอกนั้นยืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์
นายประสิทธิศักดิ์ ฝอยทอง ประธานสภาทนายความจังหวัดกันทรลักษ์ กล่าวว่า ก็ต้องขอขอบคุณทุกฝ่าย ทั้งพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่ร่วมกัน สืบสวนติดตามหาพยานหลักฐาน โดยเฉพาะทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ช่วยให้มีหลักฐานเอาผิดกับจำเลยได้.