ชาวบ้านโวยนักเรียนไปโรงเรียนฝ่าถนนโคลนตม ล้มลุกคลุกคลาน

ชาวบ้านโวย ถนนเละเป็นหลุมบ่อโคลน นักเรียนไปโรงเรียนฝ่าถนนโคลนตม ล้มลุกคลุกคลานแสนสาหัส วอนผู้เกี่ยวข้องแก้ไขด่วน ขณะที่นายก อบต.แจ้งว่าผ่านสภาแล้วแต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ดำเนินการ

วันที่ 20 กันยายน 2565  ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านแกน้อย ม.2 ต.แกใหญ่ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ถึงถนนที่เป็นบ่อโคลนสัญจรไปมายากลำบาก  ผู้สื่อข่าวรุเลงพื้นที่พบชาวบ้านรวมตัวกันมายืนอยู่กลางถนน ที่เต็มไปด้วยโคลนตมหลุมบ่อที่เละ  โคลนและน้ำท่วมขังเจ่อนองทั่งถนนยิ่งกว่าปลักควาย รถยนต์หรือรถมอเตอไซค์ แม้แต่คนเดินเท้าไปมาลำบากแสนสาหัส  ต้องลุยฝ่าโคลนตม หลบหลุม หลบบ่อ รถยนต์ติดหล่ม ติดบ่อโคลน เด็กนักเรียน ปั่นจักรยานไปโรงเรียนก็ไม่ได้ บางครั้งหกล้ม โคลนเปื้อนชุดนักเรียน ซึ่งถนนโคลนตมนี้มีระยะทาง 3 กิโลเมตรระหว่างบ้านแกน้อย ม. 2 –บ้านจักจรูญ  ต.แกใหญ่ อ.เมือง จ.สุรินทร์ เป็นเส้นทางสายหลักระหว่าง 2 หมู่บ้าน ที่ชาวบ้าน เด็กนักเรียนใช้สัญจร ไป-มา เข้าออกตลอดทั้งวัน

จากการสอบถามชาวบ้านที่สัญจรไปมาทราบว่า 2ปีมาแล้วที่ชาวบ้าน เด็กนักเรียนเดือนร้อนหนัก ต้องขับรถสัญจรไปมา ทาง อบต.เคยมาลงหินคลุกให้ก็เป็นเหมือนเดิม ร้องเรียนทำหนังสือร้องเรียนถึง อบต.แกใหญ่ อำเภอ แม้แต่จังหวัดก็ส่งเรื่องร้องเรียนไปแล้วแต่ก็เงียบหาย  ชาวบ้านต้องทนทุกข์ตามยถากรรมอีกนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้  วอนผู้เกี่ยวข้องแก้ไขด่วน

ชาวบ้านแกน้อย ม.2 กล่าวอีกว่า ช่วยหน่อยนะ ชาวบ้านเดือนร้อนมาก เด็กนักเรียนจะเดินทางไปโรงเรียน ผู้ใหญ่จะไปทำงานก็ต้องใช้เส้นทางนี้ตลอด ซึ่งเส้นนี้ใช้สัญจรไป-มาได้ช่องนิดเดียว ถนนเส้นนี้มีระยะทาง 3 กิโล แต่สัญจรผ่านไม่ได้เลย เดือนร้อนมากๆ  เด็กนักเรียนก็ลำบาก เด็กนักเรียนบางคนต้องทนลุยโคลน เพื่อกลับบ้าน บางครั้งฝนตกฟ้าร้อง เสื้อผ้าชุดนักเรียนต้องเอาไปสำรองใส่กันที่โรงเรียน เพราะกลัวเปื้อนโคลนตม ชาวบ้านเคยร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ไม่ได้รับความสนใจและไม่ได้รับการแก้ไข เหตุการณ์ก็ไม่ดีขึ้นมีแต่แย่ลงทุกๆวัน จึงขอร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน อยากให้นายสุวพงศ์  กิติภัทย์พิบูลย์  ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ หรือนายประภาส  ศรีจันทร์เวียง นายอำเภอเมืองสุรินทร์ ลงมาดูพื้นที่ให้หน่อย ว่าชาวบ้านเขาเดือนร้อนกันยังไง  และจะสามารถแก้ปัญหาความเดือนร้อนของชาวบ้านตรงนี้ได้หรือไม่

จากนั้น ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปยัง อบต.แกใหญ่ เพื่อขอพบนายพิสูตร ดีเลิศ นายก อบต.แกใหญ่ กล่าวว่า ที่ชาวบ้านได้ร้องทุกข์มาตนเองนั้น ตนได้เกษียณหนังสือให้ดำเนินการทุกโครงการแล้ว ซึ่งที่ยังไม่ดำเนินการนั้นตนก็ไม่ทราบว่ามันติดขัดตรงไหน โดยขบวนการนี้จะเป็นเจ้าหน้าที่ดำเนินการในการจัดซื้อจัดจ้างหรือหาผู้รับจ้าง ตนก็รออยู่ซึ่งตอนนี้ยังเอกสารการดำเนินงานยังไม่ถึงมือตนที่จะลงนาม ตนนั้นก็รู้สึกว่ามันล่าช้ามากซึ่งอีกไม่กี่วันก็จะปิดงบประมาณในวันที่ 30 กันยายนที่จะถึงนี้แล้ว ตนนั้นทุกข์ใจมาก โดยตนทราบว่าชาวบ้านได้ร้องไปยังนายอำเภอเมืองและผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ด้วยเช่นกัน ซึ่งตนได้สอบถามเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบทราบว่ายังอยู่ในขบวนการจัดซื้อจัดจ้าง แต่ก็ยังเป็นห่วงว่าในการจัดซื้อจัดจ้างมันจะอยู่ในระหว่างปีนี้หรือไม่ ตนเข้าใจและเห็นใจชาวบ้าน แต่ขบวนการมันติดขัดและช้า ซึ่งตนนั่นไม่ได้เป็นคนทำเอกสาร โดยตนรอเอกสารมาถึงตนแล้วจะได้ลงนามจะได้แก้ปัญหาชาวบ้านให้ได้ทันท่วงที แต่ขบวนการมันติดขัดที่เจ้าหน้าที่ของตน

นายพิสูตร ดีเลิศ นายก อบต.แกใหญ่ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ได้มีการประชุมสภาผ่านแล้วเรื่องการขอใช้เงินสะสม ทางสภาได้อนุมัติไปแล้วเมื่อเดือนเมษายน 2565 ทีนี้ขบวนการจัดซื้อจัดจ้างหาผู้รับจ้างตนยังไม่เห็นเลย ตนไม่เข้าใจว่ามันติดขัดอะไร ยังไงตนก็จะพยายามให้ขบวนการมันผ่านไปให้ได้ ชาวบ้านจะได้ใช้ถนนอย่างไม่ลำบากต่อไป

ภาพ/ข่าว: เขมชาติ ชุณหกิจขจร / รมิตา สิงหเสรี/ ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดสุรินทร์


Scroll to Top

แฉข่าวเด่น ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า