เด็กสาวโดนต่อหัวเสือนับ10 ตัวรุมต่อยแทบหมดสติ

วันที่ 5 มิ.ย.2565 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปทำบุญ ที่วัดบ้านยางเตี้ย ตำบลระแงง อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ได้พบกับกลุ่มเด็กๆกำลังวิ่งเล่นที่ถุนนบริเวณในวัด แต่มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งได้ล้มตัวลงและนอนดิ้นไปมา ซึ่งเข้าใจว่าเด็กๆคงกำลังเล่นกันอย่างสนุกสนาน แต่ได้ยินเสียงกรีดร้องอย่างดัง ผู้สื่อข่าวจึงได้วิ่งเข้าไปดู และได้ยินกลุ่มเพื่อนๆของเด็กหญิงดังกล่าวตะโกนขอความช่วยเหลือและพูดว่า “ช่วยด้วยเพื่อนหนูโดนต่อรุมต่อยเต็มตัวไปหมดแล้ว”

พอผู้สื่อข่าวเดินเข้าไปใกล้ๆได้สังเกตุว่าตามแขนและบริเวณหัวของเด็กหญิงดังกล่าวมีรอยคล้ายกลับกำลังถูกแมลงกัดต่อย ก่อนพบว่าไม่ใช่แมลงธรรมดาแต่เป็นตัวต่อ ได้รุมต่อยตามตัวและหัวก่อนเด็กหญิงคนนี้ จะกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ต่อมาชาวบ้านได้พาผู้สื่อข่าวไปดูรังต่อพอไปดูปรากฎว่าไม่ใช่ต่อพันธ์ธรรมดาเป็นต่อหัวเสือซึ่งมีพิษที่ร้ายแรง

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ให้กลุ่มเด็กๆที่อยู่บริเวณนี้ ให้ไปเรียกหาผู้ปกครองของเด็กหญิงคนดังกล่าวให้มาโดยด่วนเพราะเด็กหญิงคนดังกล่าวนั้น กำลังคล้ายกับจะหมดสติ และเด็กหญิงคนนี้ได้พูดออกมาว่าเจ็บปวดมากและหายใจไม่ออก ต่อมาผู้ปกครองได้เดินทางมาที่วัด ก่อนจะสำรวจตามตัวของน้องและเปิดดูตามเสื้อผ้าพบร่องรอยของการถูกต่อยนับ 10 จุดและมีตัวต่อหลายตัวติดอยู่ข้างในเสื้อ จึงนำยาหอมมาให้เด็กหญิงคนนี้สูดดม เพราะน้องคล้ายกับกำลังจะหมดสติ และเร่งประสาน 1669 ให้เร่งมาปฐมพยาบาลและเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยเร่งด่วน

น้องภูมิ อายุ 10ปี เป็นเพื่อนของเด็กสาวคนดังกล่าวที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ตนและเพื่อนๆรวมถึงเด็กหญิงคนที่โดนต่อต่อยกำลังวิ่งเล่นกันบริเวณลานวัด ก่อนจะวิ่งมาถึงบริเวณใกล้กับโบสถ์ซึ่งบริเวณดังกล่าวนั้นได้มีรังของต่อหัวเสืออยู่แต่เด็กๆไม่มีใครรู้ว่ามีรังต่ออยู่ ก่อนต่อหัวเสือจะบินมารุมต่อยเพื่อนของตนนับ 10 ตัวจนเพื่อนนอนดิ้นด้วยความเจ็บปวดกลางถนนจนแทบหมดสติ

นาง ทองศูนย์ ฉลาดมาก อายุ 60ปี ยายของเด็กหญิงคนดังกล่าว เล่าว่า หลานของตนได้มาเล่นกับเพื่อนๆที่บริเวณวัดและได้มีกลุ่มชาวบ้านไปตามให้มาดูหลานของตนและบอกว่าหลานถูกต่อต่อยตนจึงได้มาที่วัดอย่างเร่งด่วนและพบว่าหลานสาวนอนทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด จากการสอบถามทราบว่าน้องโดนต่อต่อยมากกว่า 10 ตัวตนจึงนำยาหม่องมาทาให้หลานสาวเพื่อบรรเทาอาการปวดก่อนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลศีขรภูมิต่อไป อย่างไรก็ตามขอเตือนเป็นอุทาหรณ์ในเคสกรณีนี้ถ้าพบเห็นให้รีบออกห่างเพราะอาจเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิติได้

ภาพ/ข่าว: เขมชาติ ชุณหกิจขจร / รมิตา สิงหเสรี/ ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดสุรินทร์


Scroll to Top

แฉข่าวเด่น ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า