“บิ๊กโจ๊ก” ลั่นจัดการเด็ดขาด เตรียมเช็คบิลย้อนเส้นทางขนแรงงานเถื่อน

“บิ๊กโจ๊ก” ลั่นจัดการเด็ดขาดขบวนการค้าแรงงานเถื่อน เตรียมย้อนเส้นทางขนแรงงานเถื่อนจากสงขลา- กาญจนบุรี พบมีเจ้าหน้าที่รัฐหลายระดับเอี่ยวหวั่นบานปลายเป็นขบวนการค้ามนุษย์รอบใหม่ หลังพบแรงงานที่จับกุมมีเด็กอายุ 6 ขวบ และอายุระหว่าง 17- 20 ปี เป็น ชาย 29 คน หญิง 32 คนทั้งหมดเป็นชาวมุสลิม ที่ต้องการไปทำงานในมาเลย์ พบเสียค่าหัวคนละ 1.5 แสนบาท เป็นราคาที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์

จากกรณีที่ กก.สส.บก.ตม.6 (สืบ ตม.6) สนธิกำลัง ชปข.ตชด.ร้อย 437  ทหาร ฉก.ร 5 และตำรวจ สภ.ทุ่งลุง นำกำลังเข้าจับชาวเมียนมาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย ขณะนอนรอนายหน้ามารับตัวเข้าไปทำงานในประเทศมาเลเซีย สามารถจับกุมตัวได้ภายในทุ่งลุงรีสอร์ท  ตำบลพะตง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จำนวน  61 คนมีทั้งหญิง ชายและเด็ก พร้อมคนขับชาวไทย และรถยนต์กระบะอีก 4 คัน ตกแต่งเสริมเหล็กกั้นยกสูงเหมือนรถขนผัก  เมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา

วันนี้ 29 มีนาคม เวลา 17.00 น พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้เดินทางมาที่ กองกำกับการ 9 ตำรวจตระเวณชายแดน ค่ายท่านทุก ถนนเพชรเกษม ต.เขามีเกียรติ อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อติดตามคดีที่ ตำรวจ และทหารร่วมกันควบตุมตัว 61 แรงงานชาวเมียนมา เพราะว่าหนึ่งในจำนวนนี้มีเด็ก 6 ขวบ 17 ปีหลายคน กำลังตรวจสอบสัญชาติที่มาตอนนี้ทราบว่ามีการตรวจสอบไปแล้วจำนวน 22 คนและยังไม่เข้าข่ายการค้ามนุษย์  พบว่ายังมีแรงงานเถื่อนรซุกตัวอยู่ในพื้นที่นับ 100 คนเปลี่ยนที่จะเข้าไปในประเทศมาเลเซียเบื้องต้นได้ทำการตัดวงจรเป็นการเร่งด่วน

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้ให้สัมภาษณ์ว่าในการดำเนินการของตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา กองบังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 6 และกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนหรือ ค่ายท่านมุก ได้ร่วมกันบูรณาการเคลื่อนย้ายกลุ่มแรงงาน ซึ่งแรงงานส่วนใหญ่เป็นเด็ก เด็กอายุมากสุด 18 ปี ซึ่งเรื่องนี้น่าเป็นห่วงมากในสถานการณ์ห้วงปัจจุบัน จากการคัดแยกเหยื่อคัดแยกได้ 22 ราย ซึ่ง 22 ราย ไม่เข้าข่ายเหยื่อค้ามนุษย์ เมื่อไม่เข้าข่ายเหยื่อค้ามนุษย์ก็ต้องดำเนินการกระบรวนการตามกฎหมายปกติ ในเรื่องการหลบหนีเข้าเมือง เปรียบเทียบปรับและผลักดันเนรเทศมาช่องทางไหนกลับช่องทางนั้นไปยังบ้านเกิดของเค้า เพราะฉะนั้นรูปแบบในการขนคนก็ยังเหมือนเดิม ซึ่งตนได้สั่งการ ให้ชุดสืบสวนทั้งหมด ผู้กำกับตรวจคนเข้าเมือง สืบสวนจังหวัดสงขลาและผู้กำกับสืบสวนภาค บูรณาการร่วมกันไล่ย้อนกลับเพื่อจะดูบุคคลที่อยู่ในเครือข่าย ตั้งแต่เอเยนต์ นายหน้าจนถึงผู้ที่ทำหน้าที่ขนคน ซึ่งพื้นที่จังหวัดสงขลาเป็นพื้นที่ของปลายทาง ซึ่งมีการดำเนินการมาหลายครั้งแล้วแต่ยังไม่มีการจับกุมต้นทางก็คือ เอเยนต์ นายหน้า วันนี้ผมขอเรียนว่าต้องเอาซักทีและวันนี้เรามีข้อมูลมากพอแล้วและจะดำเนินการขยายผลเพิ่มขึ้นเพื่อดำเนินคดีเอเยนต์และนายหน้า แล้วก็รวมถึงขบวนการขนและเจ้าหน้าที่รัฐ ขอเรียนว่าเอเยนต์มีไม่กี่คน ฝั่งเมืองกาญมีไม่กี่คนที่ทำอาชีพนี้หากพบว่าเอเยนต์เป็นคนไทยก็จะดำเนินคดีในส่วนนั้น

วันนี้ต้องยอมรับในฝั่งแม่สอดก็ตาม ในฝั่งเมืองกาญก็ตาม บริเวณแนวชายแดนซึ่งทางการข่าวสืบทราบว่ายังมีการขนคนมา รออยู่ฝั่งนูนอยู่ ซึ่งจะมีบ้านสร้างไว้และบ้านหลังนึงจุคนได้ประมาณ 3-400 คน ซึ่งมาตราการสกัดกั้นในวันนี้ ซึ่งทางนายกรัฐมนตรีได้สั่งการกำชับไปทุกหน่วยแล้วไม่ว่าจะเป็นหน่วยทหารพราน หน่วยตำรวจตระเวนชายแดน หน่วยตำรวจภูธรท้องที่และก็ฝ่ายปกครอง มาตราการสกัดกั้นเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องบูรณาการร่วมกัน แน่นอนการขนคนฝั่งนูนมีสถานการณ์พยายามจะข้ามมาฝั่งไทยและเดินผ่านข้ามไปยังประเทศมาเลเซียซึ่งรูปแบบยังเป็นแบบนี้อยู่ สิ่งสำคัญเมื่อเราตรวจสอบแล้วเราต้องย้อนกลับ เอเยนต์ใคร ใครขนมา เจ้าหน้าที่รัฐใคร เช่นกรณีที่แม่สอดซึ่งได้ดำเนินคดี สวป. ไป เมื่อมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังสถานการณ์ก็จะเบาลง หากไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังพื้นที่จังหวัดสงขลาก็จะตกเป็นเป้าหมายปลายทางตลอด

ภาพ/ข่าว อนุกูล บุญมี  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค  จ.สงขลา


Scroll to Top

แฉข่าวเด่น ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า