หลอน!! อาถรรพ์ก้อนหินจากเกาะหินงาม นทท.หยิบไปต้องรีบส่งคืน

อาถรรพ์ก้อนหินจากเกาะหินงาม นทท.หยิบไปหลอนต้องส่งคืนผ่านกล่องพัสดุ !!

วันที่ 9 มีนาคม 2565 เพจของสำนักงานอุทยานแห่งชาติตะรุเตา จังหวัดสตูล  ได้โพส์ข้อความคำว่า ยังกลับมาเรื่อยๆของหินงาม ไปเที่ยวเกาะหินงามทั้งที ยังเก็บภาพสวยๆไว้เยอะๆ แต่ไม่เก็บหินกลับบ้าน หรือเอาออกจากเกาะนะครับ พร้อมรูปภาพ หินทรงลายสวยงาม และข้อความกระดาษ1 แผ่นที่เขียนคำว่า  เมื่อ20 ปีที่แล้ว ได้มาเที่ยวที่เกาะหินงาม และได้เก็บก้อนหินก้อนนี้กลับไปเป็นของที่ระลึก  เพราะสวยงามมากและไม่ทราบว่ามีป้ายห้ามเก็บเมื่อทราบจึงได้ส่งคืนกลับมา และขอขมาเจ้าพ่อตะรุเตา ไม่มีเจตนา ขอได้โปรดอโหสิกรรม สาธุ

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่สำนักงานของอุทยานฯและได้เข้าพบนายมุมีน  มาลินี ผู้ช่วยอุทยานแห่งชาติตะรุเตา พร้อมกับนางจันทนา  หมีนหวัง  เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเกาะตะรุเตา ได้นำกล่องพัสดุ 2 กล่อง ซึ่งในกล่องนั้นบรรจุ ก้อนหินสีดำ ทั้งก้อนเล็ก ก้อนใหญ่ บางก้อนถูกจำไปเจียรในเป็นลูกกลมๆ บางกล่องหินมีขนาดใหญ่เท่ากำปั้นมือ มีกระดาษข้อความที่เขียน ขอขมาเจ้าพ่อตะรุเตา ที่ได้หยิบก้อนหินไปจากเกาะหินงาม

นายมุมีน  มาลินี ผู้ช่วยอุทยานแห่งชาติตะรุเตา กล่าวว่า ในแต่ละเดือนมีกล่องพัสดุบางกล่องจ่าชื่อเพียงแค่จังหวัดที่อยู่ภาคเหนือ กลาง อีสาน และบางกล่องมาจากต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา และประเทศเยอรมัน จีน ก็มี โดยในกล่องบรรจุก้อนหิน  ซึ่งก้อนหินเหล่านี้เป็นก้อนหินจากเกาะหินงาม ซึ่งเป็นเกาะสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเล อยู่บริเวณใกล้เกาะอาดัง – เกาะราวี ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมือง จังหวัดสตูล คาดว่านักท่องเที่ยวไปเที่ยวและเห็นความสวยงาม ยามที่น้ำทะเลคลื่นซัดกระทบหินทำให้หินถูกน้ำมีความแวววาว สวยงาม จึงทำให้นักท่องเที่ยวลักหยิบขโมยกลับไปจนกระทั้งเกิดอาถรรพ์จากหินเหล่านี้เพราะบนเกาะหินงามมีศาลเพียงตาที่มีการกราบไหว้บูชาต่างคนในพื้นที่รู้จักดีว่า ศาลเจ้าพ่อตะรุเตา

ซึ่งคาดการณ์ว่า นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ หยิบกลับไปไว้ที่บ้านเพราะความสวยงาม แต่กลับเจอดี เจออาถรรพ์จากก้อนหิน บางคนเกิดกับชีวิตครอบครัว เป็นโรคภัยไข้เจ็บ ทำมาค้าขายไม่ขึ้น เพราะคิดว่าเกิดจากหินก้อนนี้ที่เก็บกลับมา จนสืบเรื่องราวของหินจากเกาะหินงาม ว่า มีศาลเจ้าพ่อตะรุเตา จึงคิดว่า น่าจะเป็นอาถรรพ์ความน่ากลัวมาหลอนจึงต้องส่งหินกลับคืนอุทยานฯให้ช่วยนำกลับไปไว้ที่เดิม ส่วนนักท่องเที่ยวต่างประเทศมาเที่ยวและเก็บหินกลับไปก็ต้องส่งพัสดุบินข้ามประเทศคืนกลับมาและเขียนข้อความว่ามีคนไปเข้าฝันและชี้หน้าสั่งให้เอาหินส่งคืนกลับและเกิดความโชคร้ายในครอบครัวก็ส่งกลัยมาทันทีซึ่งคำเหล่านี้เป็นข้อความกระดาษคำบอกเล่าผู้ที่ส่งก้อนหินกลับคืนมา

ด้าน นางจันทนา  หมีนหวัง  เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเกาะตะรุเตา ผู้ที่คอยจัดเก็บส่งต่อให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯประจำเกาะนำกลับไปคืนที่เดิม กล่าวว่า กล่องพัสดุมีมาทุกเดือน และเดือนมีนาคมนี้ส่งมา 2 กล่อง เป็นของคุณยายวัย 80 ปี ที่ส่งหินกลับคืนมา โดยแนบเบอร์โทรไว้ ทางตนเองโอนกลับไปสอบถามว่า หินที่ส่งมาได้แล้ว ญาติทางคุณยายวัย80 ปี บอกว่า คุณยายรู้สึกผิด และขอขมาเจ้าพ่อตะรุเตาที่หยิบกลับไป โดยตนเองมาเที่ยวเมื่อ 20 ปี ก่อน แต่ไม่พูดอะไรมาก เพียงเขียนในกระดาษว่า ขอขมาเจ้าพ่อตะรุเตาที่หยิบกลับไป ส่วนปีที่แล้วก็มีการส่งพัสดุกลับคืนมาแบบนี้ ประมาณ 20 กว่ากล่อง บางกล่องหินมีขนาดใหญ่หนักถึงครึ่งกิโลกรัมก็มี ทางเราได้หินกลับคืนมาก็ส่งกลับคืนสู่เกาะธรรมชาติต่อไป และก็ติดป้ายไว้ที่เกาะ ห้ามหยิบกลับไป ถ่ายรูปได้ เพราะเกาะหินงามแห่งนี้มีอาถรรพ์เกาะหินงาม เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะอาดัง-ราวี อยู่ห่างจากเกาะอาดังประมาณ 2.5 กิโลเมตร ส่วนการเดินทางนั้น ถ้าจะให้สะดวกควรเหมา เรือหางยาวจากเกาะหลีเป๊ะไป ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ก่อนถึงเกาะหินงามจะผ่านเกาะจาบัง ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ จุดเด่นของเกาะแห่งนี้ ถึงแม้จะเป็นเพียงเกาะเล็กๆแต่เกาะหินงามก็มีความพิเศษที่หาเกาะใดเหมือน นั่นคือเป็นเกาะที่ไร้หาดทราย เป็นหาดหินทั้งเกาะ บริเวณด้านหน้าหาดนั้นมีหินก้อนกลมมีขนาดเท่าๆกัน ยามน้ำทะเลซัดขึ้นมา หินเหล่านี้จะเปียกชุ่มส่องประกายมันวาวสะท้อนไปทั่วหาด หินทุกก้อนที่หาดแห่งนี้มีคำสาปเจ้าพ่อตะรุเตา ห้ามนำ เคลื่อนย้ายออกจากเขตอุทยานแห่งชาติ

นิตยา แสงมณี // ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสตูล


Scroll to Top

แฉข่าวเด่น ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า