กล้องวงจรปิดบันทึกภาพชายเสื้อดำชกหน้าผู้หญิงกลางร้านอาหารดังกลางดึก ขณะที่หญิงที่โดนชกหน้าแจงเป็นแฟนเก่าเลิกมา 2 ปี เหตุเพราะบล็อกไม่อยากเจอเข้าแจ้งความดำเนินการถึงที่สุด
“จากกรณีเพจอยากดังเดี่ยวจัดให้ รีเทริน์ Part3”ได้โพสต์คลิปคลิปหนึ่ง ซึ่งเป็นคลิปที่มีผู้ชายใส่เสื้อสีดำ กำลังทำท่าทียืนเจรจาอะไรสักอย่างกับสาวที่กำลังนั่งอยูบนเก้าอี้กลางร้านอาหารชื่อดังเมืองช้าง ก่อนเกิดเหตุการณ์จะเริ่มชุลมุนและมีการใช้ความรุนแรงกันเกิดขึ้นตามมา ซึ่ง “เพจอยากดังเดี่ยวจัดให้ รีเทริน์ Part3” พร้อมโพสต์ระบุข้อความว่า “การใช้ความรุนแรงเป็นสิ่งผิดกฎหมาย เลิกกันแล้วก็จบไปดิ ตามรังควานทำไมมากับแฟนใหม่มาทำร้ายแฟนเก่าแบบนี้ได้อ่อ ไม่แมนเลยอะนี้คือคนที่มาทำร้ายเรา ณ.ร้านอาหารแห่งหนึ่ง อ.เมือง ต.ในเมือง จ.สุรินทร์”
หลังจากที่คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ลงเพจ Facebook ได้ไม่นานทำเอาชาวเน็ตแห่มาคอมเม้นถล่มทะลายและวิพากษ์วิจารณ์ชายเสื้อดำที่มาก่อเหตุดังกล่าว อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังผู้หญิงคนดังกล่าวแล้วตอนนี้กำลังจะไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล และต้องรอทางเจ้าหน้าตำรวจมาตรวจสอบต่อไป
ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังร้านอาหารปลาเผาพบกับพนักงานร้านที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า ผู้เสียหายนั่งอยู่กลางร้านส่วนคู่กรณีได้นั่งอยู่อีกโต๊ะ โดยเห็นคู่กรณีมาพูดคุยไม่นานก็เห็นว่าฝ่ายผู้ชายได้ชกเข้าไปที่หน้าของผู้เสียหาย แล้วผู้เสียหายได้ลุกขึ้นตอบโต้ กระทั่งผู้ชายฝ่ายผู้เสียหายได้ลุกขึ้นมาเข้าล็อคตัวของชายก่อเหตุแล้ว ผู้เสียหายได้บอกให้รอตำรวจก่อนแต่ทางคู่กรณีไม่รอได้หลบหนีไป จากนั้นทีมข่าวได้เดินทางไปที่ร้านขายทุเรียน ถนนหลักเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เพื่อขอพบคู่กรณีแต่ร้านได้ปิดเงียบพร้อมทั้งได้โทรศัพท์ไปแต่ก็ไม่มีผู้รับสายเลย
ล่าสุดวันที่ 23 ก.พ.2565 ทีมข่าวเดินทางไปที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดสุรินทร์ พบกับน.ส. อุ้ม ผู้เสียหายได้เล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนนั้นได้เลิกกับผู้ก่อเหตุ( นายแม๊ก นามสมมุต) มาประมาณ 2 ปีแล้ว มีความสัมพันธ์คบกันมาได้ประมาณเพียง 9 เดือน โดยปกตินิสัยของผู้ก่อเหตุก็เป็นคนดีไม่เคยทำร้ายตน และหลังจากเลิกกันได้เพียง 19 วัน ทางผู้ก่อเหตุ ก็ได้ไปแต่งงานใหม่ จนมาช่วงหลังระยะเวลา 4 เดือนหลังนี้ผู้ก่อเหตุเริ่มตามตนตลอด โดยมีพฤติกรรมชอบตามมาถ่ายรูปที่หน้าบ้านและใช้เบอร์โทรต่างๆโทรเข้ามาหารวมได้ 15 เบอร์ และคอยติดตามตนทางโซเชียลตลอด
วันที่เกิดเรื่องเมื่อคืน 22.ก.พ. 65 เวลา 19.41 น. ตนได้ไปนั่งทานข้าวกับแฟนหนุ่มที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดสุรินทร์ (ร้านป้าพิมปลาเผา) และได้พบกับผู้ก่อเหตุและแฟนสาวของผู้ก่อเหตุมาทานข้าวที่เดียวด้วยเช่นกัน ตอนแรกที่ตนเห็นก็คิดว่าคงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะเลิกรากันไปแล้ว แต่หลังจากนั้นประมาณสัก10 นาที ผู้ก่อเหตุ (นายแม๊ก)ก็เดินมาหาตนและพูดถามตนขึ้นว่า “บล็อกทำไม” ตนจึงบอกกับผู้ก่อเหตุว่า “ไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้วนะ” ทางผู้ก่อเหตุก็ตอบว่า ก็อยากคุยด้วย ตนจึงถามกลับไปว่าอยากคุยอะไร หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุ(นายแม๊ก) ก็ต่อยเข้าที่ปากของตนอย่างจังจนปากแตกเลือดกลบปาก และต่อยเข้าที่คออีกครั้ง หลังจากนั้นแฟนหนุ่มของตนจึงพยายามเข้ามาห้าม และทางแฟนสาวของผู้ก่อเหตุก็พยายามเหมือนจะเข้ามาทำร้ายตนเช่นกัน แฟนหนุ่มของตนจึงบอกกับผู้ก่อเหตุว่า จะรีบไปไหนอยู่รอตำรวจก่อน แต่ผู้ก่อเหตุบอกว่าให้ไปเจอกันที่สถานีตำรวจเลย ตนกับแฟนหนุ่มก็ตามไปที่สถานีตำรวจแต่ไม่พบผู้ก่อเหตุ ตนจึงได้แจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองสุรินทร์เพื่อจะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุอย่างถึงที่สุด และในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้ตนมาตรวจร่างกายเพื่อเป็นพยานหลักฐานในการดำเนินคดีต่อไป
นายแฟร์ ผู้อยู่ในเหตุการณ์ ได้เล่าว่าตนเป็นแฟน น.ส. อุ้ม ช่วงเกิดเหตุประมาณ 19.40 น. ตนและแฟนได้นั่งทานข้าวกันอยู่ ตนเห็นทางนายแม๊ก(นามสมมุติ) เดินเข้ามาคุยตอนแรกก็ไม่คิดว่าเขาลงมือ ช่วงเกิดเหตุตนได้เข้าไปล็อคตัวคู่กรณีไว้ พอหลังเกิดเหตุตนได้บอกกับคู่กรณีว่าให้รอเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนแต่เขาพยายามหลบหนีไป ตนกับ น.ส. อุ้ม ได้คบกันมาประมาณ 1 ปีแล้ว จะได้ติดต่อคนรอบข้างเราทุกคนเพื่อสืบหาว่าเราอยู่ที่ใหน พอคู่กรณีรู้ชอบมาถ่ายรูปที่หน้าบ้าน เรื่องคดีตนได้แจ้งไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการ ตนนั้นไม่ได้คิดเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ เพราะว่าเรื่องมันเป็นแบบฝ่ายหญิง ถ้าฝ่ายหญิงทะเลาะกันก็คงจะมีตบตีกันบ้าง ตนไม่คิดว่าฝ่ายชายจะลงมือกระทำอย่างนั้น
ภาพ/ข่าว: ทีมข่าวภูมิภาค จ.สุรินทร์
