เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 2 ก.พ.65 ที่สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรีพล.ต.ต.อุดร ยอมเจริญ รอง ผบช.ภ.1 พร้อมสืบสวนภาค 1 และสืบสวนสภ.ปากเกร็ด ร่วมกันจับกุม นายปุณณพัฒน์ ยอดทอง อายุ 25 น.ส.ฟีย้อน ชอง อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลนนทบุรี ข้อหา ฉ้อโกง นำเข้าสู่ระบบ คอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ อันประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน หรือ ฉ้อโกง
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.64 น.ส. รัชฎาภรณ์ คงสุวรรณ์ อายุ 45 ปี ผู้เสียหายได้ซื้อกล่องสุ่มของพิมรี่พาย ราคา 10,000 บาท เมื่อได้รับสินค้าแล้วไม่พอใจต้องการคืนสินค้าและขอเงินคืน จึงได้โพสต์ข้อความขอรับเงินคืนจากแอปพลิเคชั่น facebook ชื่อ “พิมรี่พายขายทุกอย่าง…” จากนั้นวันที่ 24 ธ.ค.64 ได้มีคนร้ายซึ่งใช้แอปพลิเคชั่น facebook ชื่อ “Pim Pim… ติดต่อมายังผู้เสียหายและแอบอ้างว่าตนเองเป็นแอดมินของเพจดังกล่าว จากนั้นได้ส่งคิวอาร์โค้ด หรือ QR Code มาให้ ผู้เสียหายโดยอ้างว่าเป็นการรับคืนยอดจาก บจก.พิมรี่พาย ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้สแกนคิวอาร์โค้ด จำนวน 2 ครั้ง ทำให้เงินออกจากบัญชีของผู้เสียหายไปยังบัญชีของคนร้าย จำนวนเงิน 39,990 บาท ผู้เสียหายจึงได้มาแจ้งความดำเนินคดี
จากการสืบสวนพบว่าคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุในคดีนี้คือ น.ส.ฟีย้อน ชอง และ นายปุณณพัฒน์ ยอดทอง จากการตรวจสอบยังพบอีกว่า นายปุณณพัฒน์ ติดอยู่ในกลุ่มผู้ขายสินค้าที่ควรระวัง ในบัญชีแบล็คลิสต์และเคยก่อเหตุหลอกลวงผู้เสียหายมาแล้วหลายราย และมีประวัติต้องโทษ คดีอาญาเกี่ยวกับทรัพย์อีกจำนวน 3 คดี จึงได้ขอหมายจับและติดตามจับกุมตัวมา ดำเนินคดีตามกฎหมาย
สอบสวนนายปุณณพัฒน์ ได้จ้างให้น.ส.ฟีย้อน เปิดบัญชีธนาคารไทยพานิช เพื่อเอาคิวอาร์โค๊ต หลังได้คิวอาร์โค๊ตมาแล้ว ก็นำไปหลอกผู้เสียหายให้โอนเงินพอผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินเข้ามาในบัญชีน.ส.ฟีย้อน ก่อนจะโอนกลับมาให้นายปุณณพัฒน์ โดยน.ส.ฟีย้อน ได้ค่าจ้าง 3,000 บาท ส่วนนายปุณณพัฒน์ สาเหตุที่ทำเพราะต้องการหาเงินมาใช้จ่ายและกินเที่ยว
พล.ต.ต.อุดร กล่าวอีกว่า อยากฝากแจ้งเตือนผู้ที่คิดจะก่อเหตุลักษณะแบบนี้ ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และสร้างความเสียหายให้กับประชาชน จะต้องถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด และนำ พ.ร.บ.ฟอกเงินมาใช้ควบคู่กันไปด้วย นอกจากนี้ยังได้ฝากให้ประชาชนที่ถูกหลอกลักษณะนี้ให้สแกนคิวอาร์โค๊ดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ข้อมูลทั้งหมดจะถึงมือเจ้าหน้าที่เพื่อง่ายต่อการตรวจสอบ