“เงินกู้ดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด” จำคุก 2 ปี ปรับ 200,000 บาท

วันที่ 22 ม.ค.65 พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า ในห้วงปัจจุบันแก๊งปล่อยเงินกู้ระบาดอย่างหนัก มีทั้งรูปแบบเชิญชวนโดยการแจกนามบัตร ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ หรือแอปพลิเคชัน ซึ่งบางครั้งมีการคิดดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด นั้น

พล.ต.ต.ยิ่งยศฯ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีนโยบายปราบปรามหนี้นอกระบบที่คิดอัตราดอกเบี้ยสูงเกินกฎหมายกำหนดซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของพี่น้องประชาชน เป็นวาระแห่งชาติ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เร่งกวาดล้างแก๊งปล่อยเงินกู้ที่คิดดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนดอย่างเร่งด่วน

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการจับกุมแก๊งปล่อยเงินกู้ที่คิดดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนดมาโดยตลอด และอยากขอฝากถึงพี่น้องประชาชนว่าก่อนที่จะกู้เงินจากที่ใดก็ตามขอให้ศึกษาข้อมูลเงื่อนไขรวมถึงดอกเบี้ยให้ดี¬ เพื่อไม่ให้ถูกเจ้าหนี้คิดดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด และอยากเตือนไปถึงเจ้าหนี้นอกระบบที่คิดดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด หรือมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายอื่น ๆ แอบแฝง นั้น อาจมีความผิดตามกฎหมาย

พระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2560 มาตรา 4 บุคคลใดให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใด ๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมเงินโดยมีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 2 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 200,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

(1) เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้

(2) กำหนดข้อความอันเป็นเท็จในเรื่องจำนวนเงินกู้หรือเรื่องอื่น ๆ ไว้ในหลักฐานการกู้ยืม หรือตราสารที่เปลี่ยนมือได้เพื่อปิดบังการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด

(3) กำหนดจะเอาหรือรับเอาซึ่งประโยชน์อย่างอื่นนอกจากดอกเบี้ย ไม่ว่าจะเป็นเงินหรือสิ่งของหรือโดยวิธีการใด ๆ จนเห็นได้ชัดว่าประโยชน์ที่ได้รับนั้นมากเกินส่วนอันสมควรตามเงื่อนไขแห่งการกู้ยืมเงิน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ ที่จะปราบปรามอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนี้นอกระบบที่ผิดกฎหมายดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด

และขอฝากความห่วงใยถึงพี่น้องประชาชน หากพบเบาะแสหรือพบการกระทำความผิดขอให้ท่านแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สถานีตำรวจในพื้นที่ใกล้ท่าน หรือ โทร.สายด่วน 191 หรือสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง


Scroll to Top

แฉข่าวเด่น ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า