ปวีณาบินด่วนไปจังหวัดตรังตามคดีตำรวจฉาว ร.ต.อ.ลวง เด็ก12 ปี และ16 ปี ข่มขืน

ปวีณาบินด่วนไปจังหวัดตรังตามคดีตำรวจฉาว ร.ต.อ. ลวง เด็ก 12 ปี และ16 ปี ข่มขืนประชุมหารือกับ ผวจ. จ.ตรัง  ผบก. จ.ตรัง  พมจ. และบ้านพักเด็กฯ  จ.ตรัง  เร่งรัดคดีให้ความเป็นธรรมและความปลอดภัยกับผู้เสียหายและให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูสภาพจิต และการศึกษาเด็กทั้ง 2 คนอย่างต่อเนื่อง

จ.ตรัง วันศุกร์ที่ 21 ม.ค. 65 เวลา 09.30 น.นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี และคณะได้เดินทางไป จ.ตรัง เยี่ยมยาย และเด็กผู้เสียหาย อายุ 12 ปี และอายุ 16 ปี ที่บ้านพักเด็กฯ จ.ตรัง โดยมี นางมณี  สารพล พมจ. จ.ตรัง  นางนูรียัน  นิเต๊ะ หน.บ้านพักเด็กฯ จ.ตรัง ให้การต้อนรับและร่วมประชุมหารือให้การช่วยเหลือเด็กทั้ง 2 คน โดยการฟื้นฟูสภาพจิตใจและการศึกษาอย่างต่อเนื่อง

และต่อมาเวลา 11.30 น. นางปวีณา  หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี  เข้าร่วมประชุมกับ นายขจรศักดิ์  เจริญโสภา ผู้ว่าราชการ จ.ตรัง พร้อม พล ต.ต. สันทัด วินสน ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง นางมณี  สารพล  พมจ. จ.ตรัง  นางนูรียัน  นิเต๊ะ หน.บ้านพักเด็กฯ จ.ตรัง  ยาย เด็ก  และส่วนราชการ ให้ตำรวจเร่งติดตามคดี หามาตรการ และให้การคุ้มครองพยานโดยมีข้อสรุปดังนี้ (1.) ให้ตำรวจเร่งสรุปสำนวนส่งฟ้องศาลให้เร็วที่สุด  (2.) ครอบครัว ยาย ต้องได้รับความปลอดภัย โดยให้กระทรวงยุติธรรมคุ้มครองพยาน และช่วยเงินเยียวยาผู้เสียหาย  (3.) มอบหมายให้เด็กผู้เสียหายทั้ง 2 คน อยู่ในความดูแลของ กระทรวง พม. จ.ตรัง ให้ได้รับการฟื้นฟูสภาพจิตและให้การศึกษา โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะร่วมกับ ผู้ว่าราชการ จ.ตรัง  ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค9  ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง  พมจ. และบ้านพักเด็กฯ  จ.ตรัง  ติดตามคดีและให้การช่วยเหลือครอบครัวนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป.

จ.ตรัง วันศุกร์ที่ 21 ม.ค 2565  เวลา 11:00 น. นางปวีณา หงสกุล  ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี  และคณะเดินทางไป จ.ตรัง  ประชุมร่วมกับ นายขจรศักดิ์  เจริญโสภา  ผู้ว่าราชการ จ.ตรัง   พล ต.ต. สันทัด  วินสน  ผู้บังคับการตำรวจภูธร  จ.ตรัง  นางมณี  สารพล พมจ. จ.ตรัง  นางนูรียัน  นิเต๊ะ หน.บ้านพักเด็กฯ จ.ตรัง  และส่วนราชการเร่งติดตามคดี  กรณี ยาย  เด็กร้องทุกข์มายังมูลนิธิปวีณาฯ ว่าหลานสาว 2 พี่น้อง ด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี และน้องเอ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ถูกตำรวจ ยศ รตอ. ข่มขืน ต่อเนื่องนานนับปีเด็กทนไม่ไหว จึงนำเรื่องมาบอกยายขอความเป็นธรรมมายังมูลนิธิปวีณาฯช่วยเหลือหลานทั้ง 2 คน และดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดซึ่งเป็นถึงนายตำรวจ  โดยนางปวีณา ได้ประสาน นางมณี  สาระพล พมจ. จ. ตรัง  และนางนูรียัน  นิเต๊ะ หน.บ้านพักเด็ฯ จ.ตรัง นำเด็กผู้เสียหายเข้าคุ้มครอง และนางปวีณาได้ ประสาน พล ต.ต.  สันทัด วินสน ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง ให้ยายเข้าแจ้งความ และให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย โดยดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง นอกจากจะติดตามคดีแล้ว นางปวีณาจะเข้าเยี่ยมเด็กทั้ง 2 คน ที่บ้านพักเด็ก จ.ตรัง เพื่อวางอนาคตการศึกษาร่วมกับ พมจ. และ หน.บ้านพักเด็ก จ.ตรัง

ยาย เล่าว่า ตนมีลูก 2 คน คนโตเป็นลูกชาย ชื่อ นายเอก (นามสมมุติ) มีลูกสาว ชื่อ น.ส.แก้ว (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี  ลูกคนที่สองของยาย ชื่อ นางอ้วน (นามสมมุติ) มีลูกสาว 2 คน ชื่อน้องเอ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี และด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี  เมื่อประมาณ 2 ปี ก่อน ตำรวจรายนี้ได้คบหาอยู่กินกันกับ น.ส.แก้ว (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี มาก่อนหน้านี้แล้ว  และต่อมานางอ้วน (นามสมมุติ) ได้ถูกตำรวจ จ.ตรัง จับกุมข้อหายาบ้า เดือน พ.ย.63 โดยมีตำรวจคนดังกล่าวอยู่ในชุดจับกุมด้วย (ปัจจุบัน นางอ้วน ต้องโทษอยู่ในเรือนจำ) ต่อมาช่วงเดือน ธ.ค. 63 ตำรวจรายนี้ให้ น.ส.แก้ว (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี มารับ ด.ญ.บี อายุ 12 ปี ซึ่งเป็นลูกของ นางอ้วน และเป็นลูกพี่ลูกน้องกับ น.ส.แก้ว ไปอยู่ด้วยโดยอ้างว่าสงสารเด็กเพราะแม่ติดคุก  เมื่อเด็กไปอยู่ได้ประมาณ 3 วัน ได้ถูกนายตำรวจรายนี้ ข่มขืน ข่มขู่ห้ามบอกใครและถูกข่มขืนมาเรื่อยๆ ซึ่งเด็กไม่กล้าบอกใครเพราะนายตำรวจรายนี้จะวางปืนอยู่บนหัวเตียงนอนประจำและข่มขู่  ระหว่างที่เด็กอยู่ด้วยยังถูกตำรวจรายนี้บังคับให้มีเพศสัมพันด้วยกัน 3 คน กับพี่สาว เวลาผ่านมาร่วมปี จนถึงวันที่ 8 ม.ค. 65  เด็กทนไม่ไหวจึงบอกกับ น.ส.แก้ว ว่าขอกลับบ้านไปหา ยาย น.ส.แก้ว จึงพามาส่งให้ที่บ้าน ยาย  เด็กจึงตัดสินใจเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ ยายฟัง  อีกทั้งน้องเอ อายุ 16 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆของ ด.ญ.บี อายุ 12 ปี ได้นั่งฟังอยู่ด้วย จึงได้เล่าให้ ยาย ฟังอีกคนว่าช่วงกลางเดือน ต.ค. 64 ที่น.ส.แก้ว มารับน้องเอ อายุ 16 ปี ไปที่ห้องพักตำรวจอ้างว่าจะพาไปเที่ยว น.ส.แก้ว ปล่อยให้น้องเอ อายุ 16 ปี อยู่ตามลำพังกับนายตำรวจดังกล่าว และได้ถูกตำรวจคนดังกล่าวข่มขืนในห้องนอนและได้ถูกขู่ห้ามบอกใครเช่นกัน และน.ส.แก้ว จะมารับน้องเอ ไปมีเพศสำพันธ์กับตำรวจรายนี้ด้วย  ตนได้ฟังหลานสาวเล่าแล้วตกใจมากและไม่เคยรู้ว่าหลานถูกย่ำยีขนาดนี้ ไม่รู้จะทำอย่างไรดี หากต้องเข้าแจ้งความก็กลัวว่าครอบครัวจะไม่ปลอดภัย และในทุกๆคืนตนต้องทนทรมานข่มตานอนสงสารหลานทั้ง 2 คน จึงตัดสินใจติดต่อมายังเพจเฟสบุ๊กของมูลนิธิปวีณาฯช่วยเหลือ

วันที่ 14 ม.ค.65 ยายจึงตัดสินใจติดต่อมายังเพจเฟสบุ๊กของมูลนิธิปวีณาฯ เมื่อ นางปวีณา รับเรื่องได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับ ยายทันที และทราบว่า น.ส.แก้ว (นามสมมุติ) ได้มารับ ด.ญ.บี อายุ 12 ปี กลับไปอยู่ด้วยที่ห้องพักตำรวจกับนายตำรวจคนดังกล่าวอีก  นางปวีณา จึงให้ ยาย ไปรับ ด.ญ.บีอายุ 12 ปี กลับมาบ้าน และนางปวีณา ได้ประสาน นางมณี  สาระพล พมจ. จ.ตรัง และนางนูรียัน  นิเต๊ะ หน.บ้านพักเด็ก จ.ตรัง  ขอให้รับเด็ก 2 คนพี่น้องคือ ด.ญ.บี และน.ส.เอ เข้ารับการคุ้มครองที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ตรัง ทันที

ต่อมาวันที่ 15 ม.ค.65 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสานให้ข้อมูลกับ พล ต.ต. สันทัด  วินสน  ผู้บังคับการตำรวจภูธร  จ.ตรัง  พล ต.ต. สันทัด  วินสน  ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงเข้าไปสอบเด็กผู้เสียหายที่บ้านพักเด็กฯ และให้เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ พายาย เข้าแจ้งความ และพาเด็กผู้เสียหายทั้ง 2 คน ไปตรวจร่างกาย

ในวันที่ 18 ม.ค.65  เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ จ.ตรัง ได้พาเด็กผู้เสียหายทั้ง 2 คน  เข้าสอบปากคำตาม สหวิชาชีพ ที่สำนักงานอัยการ จ.ตรัง  โดยเด็กทั้ง 2 คน  ให้การยืนยันชัดเจนว่าถูกนายตำรวจคนดังกล่าว ข่มขืน มาโดยตลอดจริง

ต่อมาวันที่ 19 ม.ค. 65 ตำรวจได้เรียก ร.ต.อ.คนดังกล่าวมารับทราบข้อกล่าวหา  และได้ปล่อยตัวไปชั่วคราว  โดยให้ออกจากราชการไว้ก่อน

ยาย ของเด็ก กล่าวอีกว่า  วันนี้ตนเครียดมากเมื่อรู้ว่าตำรวจรายนี้ได้รับการปล่อยตัว ทั้งๆที่เขาทำผิดกับหลานสาวของตน ทำไมถึงไม่มีการจับกุม ตนกลัวความปลอดภัยเกรงจะมาข่มขู่ทำร้ายบีบบังคับให้ถอนคดี ตอนนี้ตนเป็นห่วง น.ส.แก้ว (นามสมมุติ) มาก ไม่สามารถติดต่อได้ปิดมือถือ ก่อนหน้านี้ น.ส.แก้ว ได้ให้การเป็นประโยชน์กับตำรวจไว้แล้ว แต่ตอนนี้ตำรวจรายนี้ได้พา น.ส.แก้ว ไปอยู่ที่ไหน ตนต้องการเจอหลานขอให้ ตำรวจช่วยติดตาม น.ส.แก้ว กลับมาหายายด้วย

พล ต.ต. สันทัด  วินสน  ผู้บังคับการตำรวจภูธร  จ.ตรัง ได้สรุปถึงเหตุผล การเรียกตัว ร.ต.อ.ดังกล่าวมารับทราบข้อกล่าวหาแล้วปล่อยตัวไป  ว่าตำรวจได้ทำงานอย่างรวดเร็วหลังจากที่ได้รับแจ้งจากมูลนิธิปวีณาฯ ให้พนักงานสอบสวนหญิงเข้าไปสอบปากคำเด็กทั้ง 2 คน ที่บ้านพักเด็กฯ จ.ตรัง  จากนั้นเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯได้พายาย เข้าแจ้งความ และพาเด็กทั้ง 2 คน ตรวจร่างกาย และวันต่อมาได้นำเด็กเข้าสอบ สหวิชาชีพ ตำรวจได้ยื่นศาลขอหมายค้นบ้านพักของ ร.ต.อ.คนนี้ และเรียกตัว ร.ต.อ.มาสอบปากคำและรับทราบข้อกล่าวหา เห็นว่าพฤติกรรมของ ร.ต.อ.คนนี้ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี จึงได้ปล่อยตัวชั่วคราว และมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน

นางปวีณา  กล่าวว่าเรื่องการข่มขืนเด็กเป็นเรื่องใหญ่ หากข้าราชการตำรวจกระทำผิดจริง ก็ต้องถูกดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ใครทำผิดก็ต้องได้รับโทษ ในวันนี้ ตนและคณะจึงได้เดินทางมา จ.ตรัง เพื่อติดตามคดีและช่วยเหลือเหยื่อผู้เสียหายให้ได้รับความเป็นธรรมและปลอดภัย จึงขอขอบคุณ ผู้ว่าราชการ จ.ตรัง และทุกหน่วยงานที่ได้ร่วมประชุมเร่งรัดติดตามคดีและหาแนวทางช่วยเหลือผู้เสียหายร่วมกันในวันนี้  นางปวีณา  กล่าวว่า ผลการประชุมมีข้อสรุปดังนี้ (1.) ให้ตำรวจเร่งสรุปสำนวนส่งฟ้องศาลให้เร็วที่สุด  (2.) ครอบครัว ยาย ต้องได้รับความปลอดภัย โดยให้กระทรวงยุติธรรมคุ้มครองพยาน และช่วยเงินเยียวยาผู้เสียหาย  (3.) มอบหมายให้เด็กผู้เสียหายทั้ง 2 คน อยู่ในความดูแลของ กระทรวง พม. จ.ตรัง ให้ได้รับการฟื้นฟูสภาพจิตและให้การศึกษาอย่างต่อเนื่อง โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะร่วมกับ ผู้ว่าราชการ จ.ตรัง  ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค9  ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง  พมจ. และบ้านพักเด็กฯ จ.ตรัง  ติดตามคดีและให้การช่วยเหลือครอบครัวนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป.

ภาพข่าว คลิปวีดีโอ สมยศ-ลีลานุช   โสภณวิมลรัตน์ /ปทุมธานี


Scroll to Top

แฉข่าวเด่น ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า