เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 20 มค.65 พ.อ.ทวีพร คณะทอง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ในฐานะหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการณ์พิเศษร่วมปัตตานี ได้นำกำลัง 50 นายทำการปิดล้อมบ้านเลขที่ บ้านเลขที่ 41/1 หมู่ที่ 2 ตำบลละหาร อ.สายบุรี จ.ปัตตานี หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่ามีบุคคลต้องสงสัย จำนวน 2 คน เข้ามาขอหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านของชาวบ้านในพื้นที่ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการปิดล้อมบริเวณโดยรอบ โดยตัวบ้านลักษณะเป็นปูนชั้นครึ่ง และได้ตะโกนให้คนภายในบ้านออกมาแสดงตัว กระทั่งมีเจ้าของบ้านและครอบครัวต่างวิ่งหนีออกมาตรงออกมาหาเจ้าหน้าที่ และเมื่อทำการสอบถามทราบว่า ยังมีผู้ต้องสงสัย จำนวน 2 คนยังหลบอยู่ภายในบ้าน โดย 1 ในนั้นทราบว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับคดีความมั่นคง จำนวน 3 หมาย นอกจากนี้ทราบว่าทั้งสองมีอาวุธปืนสงครามติดตัวมาด้วย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องกันพื้นที่ไว้และให้ประชาชนที่มีบ้านพักอาศัยในระแวกใกล้เคียงบ้านเกิดเหตุออกมาอยู่ในที่ปลอดภัยเนื่องจากเกรงว่าการเจรจาไร้ผลและอาจะมีการยิงตอบโต้กันจนบานปลายกระทั่งเกิดการปะทะกันขึ้น
ด้าน พอ.ทวีพร คณะทอง ระบุว่า คนร้ายกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเดียวที่ร่วมก่อเหตุยิงแล้วเผาครอบครัวชาว จ.สงขลาเสียชีวิต 3 ศพที่ อ.สายบุรี เมื่อวันที่ 24 เมย.64 โดยมี นายหมัดไซฟูดิน เป็นแกนนำระดับปฏิบัติการณ์กลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ อ.สายบุรี ซึ่งได้ได้กำชับให้ทุกนายระวังตัวอย่าประมาทเพราะคนร้ายมีอาวุธปืน ซึ่งในการปฏิบัติการณ์ครั้งนี้ก็ได้มีการนำเครื่องขยายเสียงทำการเจรจาให้ทั้งสองคนที่หลบในบ้านออกมามอบตัวเพื่อลดความสูญเสียของทั้งสองฝ่าย ซึ่งการเจรจาครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังคงเชิญผู้นำศาสนา ผู้นำท้องที่มาร่วมเจรจาเกลี้ยงกล่อมเพื่อหวังว่าทั้งสองออกมามอบตัว
แต่ปรากฏว่า เมื่อเวลา 10.00 น. ขณะที่ผู้นำศาสนากำลังเกลี้ยงกล่อมให้ผู้ต้องหาทั้งสองคนออกมามอบตัวนั้น ปรากฏว่าผู้ต้องหาทั้งสองคนได้กระโดดออกจากหน้าต่างข้างบ้านพร้อมกับใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่เจ้าหน้าที่เพื่อหวังเปิดทางหลบหนี ทำให้เจ้าหน้าที่ซึ่งกำลังปิดล้อมต้องหลบคมกระสุนพร้อมกับยิงตอบโต้คนร้ายจนเกิดการปะทะกันขึ้นเสียงปืนดังสนั่น ปรากฏว่าผู้ต้องหาทั้งสองถูกวิสามัญเสียชีวิตทันที 2 คน ข้างกายมีอาวุธปืนอาก้าพร้อมกระสุนจำนวนหนึ่ง เบื้องต้นทราบว่า 1 ในคนร้ายที่เสียชีวิต ชื่อ นายมารวาน มีทอ มีหมายจับ จำนวน 3 หมาย คือ 1.กรณีปิดล้อมตรวจค้น ในพื้นที่ ต.เตราะบอน อ.สายบุรี เมื่อวันที่ 5 กค.64 2.เหตุลอบวางระเบิดรถกระบะ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารพราน เสียชีวิต 4 นาย บนถนนสายชนบท ม.1 ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี เมื่อวันที่ 22 ก.ย.60 และ 3. กรณียิงนายยุนกิพฟี ยูโซ๊ะ เสียชีวิต ในพื้นที่ ม.1 ต.มะนังดาลำ อ.สายบุรี เมื่อวันที่ 5 เมย. 59
ล่าสุดความคืบหน้าเหตุปะทะเดือดวิสามัญโจรใต้ดับ 2 ศพ หลังเข้ามาหลบซ่อนตัวในบ้านของชาวบ้านที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่พยายามเจรจาเกลี้ยกล่อมให้ยอมมอบตัว สุดท้ายกระโดดออกทางหน้าต่างยิงใส่เจ้าหน้าที่หวังเปิดทางหลบหนี
-สรุปผลการปฏิบัติเหตุปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายที่สำคัญ ในพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี วันนี้ (20 ม.ค.) ฉก.ทพ.44 สนธิกำลังร่วมกับ นปพ.ร่วม จว.ปัตตานี ,จนท.ตร.สภ.สายบุรี ชป.สส.ภ.จว.ปัตตานี และ จนท.ฝ่ายปกครอง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ทำการบังคับใช้กฎหมาย ติดตามกลุ่มบุคคลเป้าหมาย ผกร. ที่คาดว่าเข้ามาหลบซ่อนอยู่ภายในบ้านเลขที่ 41/1 ม. 2 ต.ละหาร อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.ระหว่าง จนท.ทำการพิสูจน์ทราบพื้นที่โดยรอบ และเกลี้ยกล่อมให้กลุ่มคนร้ายออกมามอบตัว นั้น กลุ่มคนร้ายที่หลบซ่อนตัวอยู่ในบริเวณบ้านเป้าหมายได้ใช้อาวุธปืนสงคราม ยิงใส่ จนท.พร้อมวิ่งหลบหนีเข้าไปภายในป่า จนท.จึงใช้อาวุธปืนประจำกาย ทำการยิงตอบโต้ ไล่ติดตามคนร้าย ภายหลังเสียงปืนสงบ จนท.เข้าทำการตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุโดยรอบพบเจ้าหน้าที่ถูกยิงที่กระสุนทะลุสะโพกได้รับบาดเจ็บ1นาย ทราบชื่อ ร.อ.สุริยะ บินญาวัง อายุ 44 ปี ตำแหน่ง น.ฝยก.ฉก.ทพ.43 /นปพ.ร่วม จ.ปัตตานี นำส่ง รพ.สมเด็จพระยุพราชสายบุรี (ส่งต่อ รพ.มอ.หาดใหญ่)
จากการตรวจสอบพื้นที่ปะทะโดยรอบ พบศพคนร้ายนอนจมกองเลือด เสียชีวิต 2 ราย
ทราบชื่อ 1.นายมารวาน มีทอ อายุ 32 ปี ภูมิลำเนา หมู่ที่ 1 ต.ปล่องหอย อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี มีพฤติกรรมเป็น สมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ มีหมายจับ ป.วิอาญาจำนวน 3 หมาย (หมายจับที่ 154/59,ที่ 589/60 และ ที่ 267/64) จำนวน 2 คนตรวจยึดอาวุธปืนสงครามจำนวน 2 กระบอก (AK-47 จำนวน 1 กระบอก , AK-102 จำนวน 1 กระบอก) พฤติกรรม สมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ มีหมายจับ ป.วิอาญาจำนวน 3 หมาย (หมายจับที่ 154/59 ,ที่ 589/60 และ ที่ 267/64)
2.ส่วนคนร้ายคนที่2 เพศชาย ยังไม่ทราบชื่อ-สกุล รอการตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคล
อย่างไรก็ตาม ในการปิดล้อมตรวจค้นครั้งนี้ พอ.ทวีพร คณะทอง ย้ำว่า ฝ่ายเจ้าหน้าที่ยังคงใช้มาตราการณ์จากเบาไปหาหนัก โดยการเจรจาเป็นหลัก ตามนโยบายที่ทางแม่ทัพภาคที่ 4 เน้นย้ำเพื่อลดความสูญเสียของทั้งสองฝ่าย ซึ่งการปฏิบัติในครั้งนี้ ทุกฝ่ายรวมไปถึงผู้นำท้องที่ผู้นำศาสนาก็มีความพยายามที่จะเกลี้ยงกล่อมให้ผู้ต้องหาทั้งสองออกมามอบตัวเพื่อออกมาต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม แต่ผู้ต้องหาต่อสู้โดยการกระโดดหน้าต่างพร้อมกับใช้อาวุธยิงใส่เจ้าหน้าที่ทำให้มีการตอบโต้จนผู้ต้องหาเสียชีวิตและมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บกระสุนเชียวที่สะโพกเจ็บเล็กน้อย 1 นาย
ภาพข่าว/ ตอริก สหสันติวรกุล ปัตตานี