วันที่ 26 ธ.ค.64 ร.ต.อ.อัสวิน จันโท ร้อยเวรสอบสวน สภ.หนองขาม จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุเพลิงลุกไหม้ ภายในบริษัท ไทย พีส พัลพ์ (ไทยแลนด์) จำกัด ม.3 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา ชลบุรี ซึ่งเป็นโรงงานบีบอัดกระดาษ โดยมีผู้บาดเจ็บหลายราย จึงรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์, และเทศบาลใกล้เคียง นำรถดับเพลิงเข้ามาช่วยเหลือในการดับเพลิงที่โหมไหม้ นอกจากนี้ยังมี น.ส.นริศรา ทิพยางกูร ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.ศรีราชา และ นายธนะพัฒน์ พันเฉลิมชัยโชค นายกเทศมนตรีนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ เข้าร่วมสังเกตการณ์อำนวยการดับเพลิงด้วย
ที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่โกดังขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นโรงงานบีบอัดกระดาษทั้งเตรียมอัดและอัดสำเร็จแล้วกว่า1หมื่นตัน พบกลุ่มควันไฟพวยพุ่งลอยพุ่งออกจากโกดังเป็นจำนวนมาก ก่อนที่จะลุกลามไปติดก้อนกระดาษที่วางทับถมกันเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงได้ระดมกำลังรถดับเพลิงกว่า 10 คัน ฉีดน้ำพลิงสกัดเพลิงตามจุดต่างๆ โดยขณะนี้ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ รถดับเพลิงต้องสลับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาดับเพลิง จากการตรวจสอบพบคนงานชาวกัมพูชา กว่า 32 คน แยกเป็นชาย 22 คน หญิง 10 กำลังช่วยกันขนของ และช่วยเหลือเพื่อนที่ได้รับบาดเจ็บ จากแรงระเบิดของหม้อแปลง จำนวน 10 คน แยกเป็นชาย 4 หญิง 6 ราย ออกมาจากโรงงาน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยเพียวเยี้ยงไท้ศรีราชาได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนแยกย้ายกันนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา และโรงพยาบาลแหลมฉบัง
สอบถามคนงาน ชาวกัมพูชารายหนึ่งกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและภรรยาได้ทำงานอยู่ภายในโรงงาน ปรากฎว่าได้เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นจากมอเตอร์เครื่องบีบอัดกระดาษเปลวไฟได้ไปติดกับกระดาษที่กำลังบีบอัดอยู่ หลังจากนั้นภรรยาตนเองที่ถูกแรงระเบิดแล้วเปลวไฟลวกได้วิ่งมาหา ก่อนที่จะพากันวิ่งหนีตายออกมาจากโกดัง ส่วนแรงงานระเบิดของมอเตอร์เครื่องบีบอัดกระดาษนั้น ก็ทำให้เพลิงลุกลามไปติดกองกระดาษที่วางทับถมกันอยู่ในโกดัง จนเกิดเหตุดังกล่าว
อย่างไรก็ตามขณะนี้ นายธนะพัฒน์ พันเฉลิมชัยโชค นายกเทศมนตรีนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ และ น.ส.นริศรา ทิพยางกูร ปลัดฝ่ายความมั่นคง อ.ศรีราชา พร้อมผู้นำท้องถิ่นได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและประสานรถดับเพลิงจากพื้นที่ใกล้เคียงเข้าช่วยในการดับไฟที่กำลังลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ซึ่งในขณะนี้ยังไม่สามารถดับเพลิงได้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ ทราบว่าภายในโรงงานมีเครื่องจักรบีบอัดกระดาษทั้งหมด 6 เครื่อง ถูกเพลิงเผาไหม้ทั้งหมด ในขณะที่มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 13 ล้านบาท ทั้งนี้เจ้าหน้าที่คงต้องรอให้เพลิงสงบลงก่อน ที่จะมีเข้าตรวจสอบหาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป