ผบช.ภ.1. ลงพื้นที่เมืองกรุงเก่า ปล่อยแถวดูแลความปลอดภัยช่วงเทศกาล 14 กุมภา วันวาเลนไทน์ แก่นักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ บริเวณวัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 เดินทางเป็นประธานพิธีปล่อยแถวรักษาความปลอดภัย วันวาเลนไทน์ นักท่องเที่ยวปลอดภัย พร้อมด้วย นายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.นฤนาท พุทไธสง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.อ.อ.สุวัฒน์ สรรพโกศลกุล รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ร่วมพิธี โดยมี หัวหน้าสถานีทั้ง 26 สถานี จาก 16 อำเภอ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา , หัวหน้าส่วนราชการ, เจ้าหน้าที่ตำรวจ, ทหาร, ฝ่ายปกครอง และอาสาสมัคร รวมทั้งสิ้น 250 นาย เข้าร่วม
พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับว่าพี่น้องประชาชนจะเดินทางออกมาท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ เนื่องในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นเทศกาลวันวาเลนไทน์ ซึ่งอาจจะมีกลุ่มมิจฉาชีพถือโอกาสก่อเหตุอาชญากรรมขึ้นได้ ก็ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับทางจังหวัดทำการระดมกวาดล้างอาชญากรรมทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นอาวุธสงคราม อาวุธปืน วัตถุระเบิด รวมทั้งยาเสพติด เพื่อเป็นการดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน นักท่องเที่ยว และรักษาความสงบเรียบร้อยในสังคม ตลอดจนการให้การบริการประชาชนในด้านต่าง ๆ ในช่วงเทศกาลดังกล่าว อย่างมีความสุขและมีความปลอดภัย
พร้อมกำชับสายตรวจให้มีความครอบคลุม แหล่งท่องเที่ยว ในทุกพื้นที่รับผิดชอบ โดยให้เพิ่มความถี่ในการ ออกตรวจเพื่อรักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกให้แก่ นักท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ตลอดจนเพื่อเฝ้าระวังเหตุ ที่อาจเกิดกับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ พร้อมประสานการปฏิบัติกับหน่วยร่วมปฏิบัติในการจัดกำลังพลสำรวจแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ โดยเฉพาะสถานที่ ที่มีความ เสี่ยงภัยต่อการเกิดอาชญากรรม และให้ประสานงานกับหน่วยเจ้าของ พื้นที่ เช่น กรมศิลปากร ท่องเที่ยวจังหวัด หรือผู้นำชุมชน/ท้องถิ่น เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายกองค์การบริหารส่วนตำบล เป็นต้น เพื่อกำหนดตัวเจ้าภาพในการช่วยเหลือตรวจตรารักษาความปลอดภัยให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว
รวมถึงตรวจสอบสถานที่ หรือร้านค้าที่จำหน่ายสินค้า หรือให้บริการนักท่องเที่ยวในเขตพื้นที่รับผิดชอบทุกแห่ง โดย ตรวจสอบอุปกรณ์ ยานพาหนะ สำหรับให้บริการนักท่องเที่ยวให้มี มาตรฐานด้านความปลอดภัย เช่น รถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ให้เช่า หรือ อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการ ให้บริการนักท่องเที่ยว ประสานการปฏิบัติกับเจ้าพนักงานขนส่ง ตรวจสอบและจัดทำข้อมูลผู้ประกอบการรถยนต์ รถจักรยานยนต์รับจ้าง เพื่อป้องกันเหตุ การเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวและรถรับจ้างผิดกฎหมาย
ทั้งนี้มีการบูรณาการกำลัง ในการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ในการสกัดกั้นและป้องกันการกระทำความผิด ในการหลบหนี เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยเฉพาะบุคคลหรือ กลุ่มบุคคลที่ต้องเฝ้าระวัง บุคคลต้องห้ามหรือมีหมายจับ บุคคลที่เดินทาง เข้าประเทศที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID –19) หรือโรคติดต่ออันตราย ให้มีการตรวจตราอย่างจริงจังและต่อเนื่อง หากพบการกระทำผิดให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย ให้เน้นการสืบสวนและปราบปรามอาชญากรรมที่อาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยกำหนดให้ระดมกวาดล้าง อาชญากรรมตามห้วงเวลาที่เหมาะสม
ทำการประชาสัมพันธ์ทุกช่องทางการสื่อสาร ให้ นักท่องเที่ยวทราบถึง ช่องทางการช่วยเหลือนักท่องเที่ยว เช่น ผ่านศูนย์บริการและแก้ไขปัญหานักท่องเที่ยว (Call Center 1155) ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือหากมีเหตุด่วน เหตุร้าย ให้แจ้ง 191 การประชาสัมพันธ์การจัดกิจกรรมวันวาเลนไทน์ให้มีความเสี่ยงน้อยที่สุด “ รักอย่างไร ไม่ติดโควิด ” ต้องปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข เชื่อฟังบิดามารดา เป็นสำคัญ ให้อยู่ในขอบเขตของวัฒนธรรม
ศักดริน พุทธคาวี ผู้สื่อข่าวอยุธยา