วันที่ 18 มี.ค.65 นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือ ไฮโซปอ และนายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ หรือ โรเบิร์ต เปิดการแถลงข่าวที่ ธรรมสถานวิโมกสิวาลัย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ว่าผมดีใจที่สามารถเดินขึ้นไปบนเขากระโจมได้ แต่ไม่สามารถขึ้นไปปักกลดได้ สุดท้ายยังสามารถเดินกลับลงมาได้ด้วยขา และเท้าของตัวเอง จังหวะนั้นยังพูดกับอาจารย์ว่า ดีใจที่ได้อย่างน้อยที่สุดบำเพ็ญเพียรมาฝึกความอดทน และอาจารย์บอกว่าเราไม่พักกันนะ เดี๋ยวอาบน้ำเสร็จจะไปต่อเลย
ทั้งปอ และโรเบิร์ต เปิดเผยว่า โดยส่วนตัวผมขอไม่ฝากอะไรถึงตำรวจโดยตรงแต่ว่าฝากถึงส่วนของกระบวนการยุติธรรม ส่วนของการสืบค้นความเป็นจริงต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมด และ 5 คนที่อยู่บนเรือให้เหมาะสมตามมาตรฐาน ตามครรลองต่างๆที่ควรจะเป็น อย่าให้มันมากหรือเกินส่วนที่ควรจะเป็นจะกระทำยังเชื่อว่าความยุติธรรมมีอยู่จริง ส่วนกรณีที่มีข่าวว่ามีการพกโทรศัพท์มือถือขึ้นไปด้วยนั้น ผมพกมือถือขึ้นไปเพราะไม่มีไฟฉายเดินทางแต่ไม่ได้มีการใช้
ส่วนหลวงพี่อุเทน บอกว่าเมื่อคืนทางตำรวจมาด้วย มาดูในเหตุการณ์ด้วย รับแจ้งความด้วย และมีรายชื่อมีบัตรเจ้าหน้าที่ด้วย เพราะมีการบอกอย่างเดียวว่านายเป็นคนสั่งมา ส่วนโทรศัพท์ได้ให้พราหมณ์ปอไว้ เพราะทางขึ้นเขามันมืด ต้องใช้ไฟฉายเดินทางต่างคนต่างเดิน อีกทั้งสัตว์มีพิษจะเยอะ เป็นเจตนาที่แจ้งไปว่าใช้ไฟฉายเพื่อจะส่องเดินทางขึ้นเขาที่มืดและอันตราย ส่วนกรณีที่การพูดว่าเท้าของปอบาดเจ็บได้อนุญาตให้ดูที่บริเวณเท้าได้ สภาพจะมีลักษณะคล้ายน้ำใสๆอยู่ข้างในบริเวณใต้เท้า ลักษณะเดินจนเท้าพอง จะเดินใช้เท้าเปล่าเดินขึ้นเขาเลย
หลวงพี่ยังพูดอีกว่า ใครจะจ้างตำรวจมาเบี่ยงประเด็นมันเป็นไปไม่ได้โยม ตอนนี้ได้แจ้งความไว้แล้วอยู่ที่โรงพักสวนผึ้ง ตำรวจรับแจ้งสว่างช่วงเวลาประมาณ 06.00 น. พอดี กรณีหากตำรวจจะขอตามไปกับทางคณะปฏิบัติธรรมด้วยสามารถไปด้วยกันได้ยินดีไม่มีปัญหา หรือ นักข่าวก็เชิญไปร่วมปฏิบัติธรรมกันด้วยก็ได้ยิ่งดี ที่โน่นของกาญจนบุรีจะโทรศัพท์ได้ แต่ไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกเลย จะไปที่ถ้ำลอด ต.ศรีมงคล จ.กาญจนบุรี
ส่วนกรณีมีการลอกสติ๊กเกอร์ของวัดท่าไม้ออกนั้น เราไม่สามารถไปบังคับจิตใจของโยมได้ แล้วแต่ลูกศิษย์เขา อาตมาทำดีที่สุดแล้ว ทำดีก็ไม่หวังสิ่งตอบแทนโยม และมองทุกคนเป็นมนุษย์เท่ากันหมดจะผิดหรือ ถูกให้กฎหมายตัดสิน คือ เขาเป็นคนธรรมดา จะจนจะรวยก็เป็นคน แต่วันนี้ทุกข์มาเราก็ให้ที่ยืน ถึงเวลากฎหมายจัดการก็จัดการไป เขานั้นไม่เกี่ยวอะไรกับอาตมา คือเราให้ที่ยืนคน เราไม่ได้คิดเรื่องผลประโยชน์ แต่คิดเรื่องเมตตา ผิดถูกให้เขาไปว่ากันในศาล ไปว่ากับตำรวจกันไม่เกี่ยวกับอาตมา เดี๋ยวถ้าบวชเสร็จแล้วให้เขาไปจัดการตัวเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับอาตมา แต่ขณะนี้บวชอยู่ ถือศีลอยู่ เขางดเว้นจากสุรา เว้นจากสิ่งมืดดำทั้งหลายก็เป็นกุศลของเขา ที่เหลือก็ไปอยู่แล้วกลับ หรือไม่กลับไม่เกี่ยวกับอาตมาแล้ว จริงๆอยากบอกว่าขอให้เขาได้ปฏิบัติขัดเกลาจิตใจ แต่เราไม่รู้ว่าเจ้านายที่เป็นตชด. สั่งให้มาตามเราอย่างนี้ แล้วมาตามเอารถมาปิดถนน
ปอ เปิดเผยว่าทำไมต้องปิดถนน เขาแจ้งว่าเป็นจังหวะที่จะออกตรงนั้นพอดี จอดขวางอยู่ตรงกลางถนนดำ เราเชื่อว่าเราจะหาวงจรปิดตรงนี้ หรือพี่ๆนักข่าวที่สามารถช่วยกันหาวงจรปิดตรงสี่แยกได้ ขออนุญาตรบกวนเป็นจุดที่ไฟแดงก่อนถึงช่วงโรงพัก ผมคิดว่าเขาต้องการจะกันปิดรถเรามากกว่า เป็นสิ่งที่เขาเล่าว่ากัน