บิ๊กแจ๊สปล่อยปลาและกุ้ง 1 ล้านตัวเฉลิมพระเกียรติและส่งเสริมคุณภาพชีวิตประชาชน
วันที่ 5 พฤษภาคม 2565 ที่บริเวณหน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลคลองห้า หมู่ที่ 13 ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี นายนรินทร์ มีวงศ์ ประมงจังหวัดปทุมธานี , นายมิตร บุญจันทร์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตเหนือ สำนักงานชลประทานที่ 11 , นายสิระพงษ์ สิริโพธินันท์ รองนายก อบจ.ปทุมธานี , นางรุจศลักษณ์ ธูปกระจ่าง ตั้งวงษ์เลิศ เลขานุการนายก อบจ.ปทุมธานี และข้าราชการ ประชาชน ร่วมเปิดโครงการฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติฯ ระหว่างวันที่ 5-6 พฤษภาคม 2565 ปล่อยพันธุ์ปลาและสัตว์น้ำ 1,042,950 ตัว ตั้งแต่คลองห้า จนถึง คลองสิบสาม
โครงการฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติฯ ในครั้งนี้ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ 28 กรกฎาคม 2565 และวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี วันที่ 3 มิถุนายน 2565 เพื่อส่งเสริมให้พสกนิกรทุกหมู่เหล่าร่วมกันทำความดีถวายพระราชกุศลและแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย อีกทั้งยังเป็นการดูแล อนุรักษ์ ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทางแหล่งน้ำธรรมชาติโดยการนำพันธุ์สัตว์น้ำพื้นถิ่น ปล่อยลงสู่แหล่งน้ำที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีได้ดำเนินการโครงการลอกคลองฯดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีได้สานต่อยอดโครงการพระราชดำริฯ จากนั้นได้ดำเนินการทางด้านจิตอาสาโดยมีกิจกรรมที่เราตั้งใจจะทำให้ยั่นยืนและทำทุกปี เราได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย ทางประมงจังหวัดปทุมธานี และโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตเหนือ สำนักงานชลประทานที่ 11 จากปัญหาเรื่องน้ำก็ช่วยกันลงมาดูแลเรื่องน้ำ ทางประมงจังหวัดก็ได้เตรียมพันธุ์ปลา จะเห็นว่าวันนี้คลองสวยน้ำใส ในคลองทั้งหมดทาง อบจ.ได้ดำเนินการจนไม่มีขยะวัชพืชหญ้าผักตบชวา และวิถีไทยต้องกลับมา ผมต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่มาร่วมกัน รวมถึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน เมื่อเราปล่อยพันธุ์ปลา พันธุ์กุ้งลงไปในคลองต่าง ๆ ตั้งแต่คลองห้าจนถึงคลองสิบสาม ขอให้พี่น้องประชาชนหยุดจับสัตว์น้ำ และช่วยกันดูแลประมาณ 8 เดือน จนถึงเดือนธันวาคม ปลาที่ปล่อยไปทั้งหมดจะเจริญเติบโตน้ำหนักตัวละประมาณ 1 กิโลกรัม จากนั้น 1 มกราคม 2566 เราจะเปิดเทศกาลให้ตกปลาในจังหวัดปทุมธานี โดยการตกปลาเป็นกีฬาอย่างหนึ่ง และปลาเป็นปลาธรรมชาติ ไม่มีจังหวัดไหนที่คลองเป็นระเบียบสวยงาม เนื่องจากล้นเกล้าราชการที่ 5 ที่ พระองค์ท่านมองการไกลเพื่อช่วยเหลือชาวเกษตร
นายนรินทร์ มีวงศ์ ประมงจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า พันธุ์ปลาที่นำมาปล่อยในวันนี้เป็นพันธุ์ปลาไทยหลายชนิด ประกอบด้วย พันธุ์กุ้งก้ามกราม ขนาด 5-7 เซนติเมตร จำนวน 297,500 ตัว , พันธุ์ปลาตะเพียนขาว ขนาด 5-7 เซนติเมตร จำนวน 160,650 ตัว , พันธุ์ปลายี่สก ขนาด 5-7 เซนติเมตร จำนวน 154,700 ตัว , พันธุ์ปลาสวาย ขนาด 5-7 เซนติเมตร จำนวน 157,250 ตัว , พันธุ์ปลาหมอไทย ขนาด 5-7 เซนติเมตร จำนวน 107,100 ตัว , พันธุ์ปลาดุกอุย ขนาด 5-7 เซนติเมตร จำนวน 107,100 ตัว , พันธุ์ปลาช่อน ขนาด 5-7 เซนติเมตร จำนวน 53,550 ตัว , พันธุ์ปลาบึก ขนาด 7-10 เซนติเมตร จำนวน 5,100 ตัว รวม 1,042,950 ตัว เราอยากจะให้คลองในทุก ๆ สายที่เราได้ปล่อยพันธุ์ปลาและสัตว์น้ำ ตามนโยบายของท่านนายก อบจ.ปทุมธานี ให้เกิดผลประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน รวมถึงสิ่งที่เราทำได้ในเบื้องต้นคือการอนุรักษ์ที่ถือว่าเป็นหัวใจ ของการที่จะทำให้พันธุ์ปลาเจริญต่อไปได้ โดยขอความร่วมพี่น้องประชาชนในการอนุรักษ์ ในช่วยฤดูน้ำแดง หรือฤดูปลามีไข่ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน เป็นต้นไป 3 เดือน จนถึงเดือนสิงหาคม เพื่อให้ปลาได้มีโอกาสผสมพันธุ์วางไข่ และเจริญเติบโตเพื่อให้พี่น้องประชาชนทั่วไปได้จับมาเป็นอาหาร หากเหลือก็สามารถขายเป็นอาชีพเสริมรายได้ตามนโยบายของนายก อบจ.ปทุมธานี ที่ต้องการให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ดีขึ้น
นายมิตร บุญจันทร์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตเหนือ สำนักงานชลประทานที่ 11 กล่าวว่า ทางด้านกรมชลประทาน โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตเหนือ เรายินดีและให้ความร่วมมือกับหน่วยงานส่วนราชการและพี่น้องประชาชน เพื่อที่จะดำเนินการเพราะพันธุ์สัตว์น้ำรวมถึงการควบคุมคุณภาพการดูแลรักษาคลอง ทางกรมชลประทานจะมีเจ้าหน้าที่ในการตรวจวัดคุณภาพน้ำ เพื่อให้เหมาะสมให้สัตว์น้ำสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ รวมทั้งระบบนิเวศต่าง ๆ เราก็ต้องขอความร่วมมือกับพี่น้องประชาชน ให้ร่วมด้วยช่วยกัน ไม่ดำเนินการให้เกิดมลภาวะที่จะทำให้สภาพน้ำเสียหายหรือส่งผลเสียต้องสัตว์น้ำ โครงการนี้ท่านนายก อบจ.ปทุมธานี สามารถทำให้หน่วยงานต่าง ๆ ได้ร่วมมือกันอย่างดีเพื่อความยั่งยืนของความเป็นอยู่ของประชาชนสืบต่อไป
ภาพ/ข่าว สมาคมนักข่าวจังหวัดปทุมธานี