พรรคสร้างอนาคตไทย เตรียมปักธงการเมืองภาคใต้ที่ จ.พัทลุง เป็นที่แรกดึงนักการเมืองรุ่นใหม่ที่มีบทบาทด้านเศรษฐกิจร่วมขับเคลื่อนอุดมการณ์
วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 65 ที่โรงแรมศิวารอยัล อ.เมือง จ.พัทลุง แกนนำและผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย ได้เดินทางเข้าร่วมประชุมพรรคภาคใต้ พร้อมเปิดตัว นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ขุนพลพรรคภาคใต้ และแนะนำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พัทลุงเขตเลือกตั้งที่ 2 คือ ดร.พลกฤษณ์ คล้ายวิตภัทร หรือ ดร.บอย ผู้ช่วยอธิการบดี ฝ่ายบริการวิชาการและชุมชนสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง
โดยมีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ แกนนำและผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย เดินทางพบกับสมาชิกพรรคสร้างอนาคตไทยภาคใต้ พร้อมแสดงวิสัยทัศน์แนวทางในการขับเคลื่อนพรรคสร้างอนาคตไทยในภาพรวมระดับประเทศ และเปิดตัวขุนพลพรรคภาคใต้ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ แกนนำและผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทยภาคใต้ ในขณะที่การดำเนินการสรรหาตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.ใน14จังหวัดภาคใต้ ภายใต้ความรับผิดชอบของ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ จนถึงขณะนี้มีการดำเนินการไปแล้วประมาณ 50-60 เปอร์เซ็นต์
นอกจากการประชุมของพรรคสร้างอนาคตไทยในวันนี้แล้ว นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ แกนนำและผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย ยังได้เดินทางลงพื้นที่เยี่ยมชมการดำเนินงานกองทุนสวัสดิการชุมชนเทศบาลตำบลบ้านนา อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง ในวันพรุ่งนี้ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2565 ด้วยเพื่อร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน
การประชุมพรรคสร้างอนาคตไทยในภูมิภาคภาคใต้ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่มีการประชุมพรรคและเปิดตัวขุนพลพรรคสร้างอนาคตไทยภาคอีสานไปก่อนหน้านี้แล้วด้วย
สำหรับ นายอุตตม สาวนายน ผู้ก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย ในวันนี้ไม่ได้มาร่วม แต่ได้พูดคุยกับเหล่าสมาชิกพรรคของพัทลุง ผ่านระบบซูมว่า ภาคใต้มีความสำคัญด้านเศรษฐกิจ และถือได้ว่าภาคใต้เป็นยุทธศาตร์สำคัญที่สุดของพรรคสร้างอนาคตไทย เราอาสามาทำงานให้กับประเทศชาติเนื่่องจากประเทศไทยกำลังเผชิญความท้าทาย และในวันนี้รู้สึกเป็นเกียรติ ที่นายนิพิฎฐ์ฯ ได้ ตัดสินใจมาร่วมกับพรรคสร้างอนาคตไทย ในขณะที่เศรษฐกิจติดลบ และผิดปกติ ต้นทุนราคาสินค้าที่เป็นปัญหาการค้าขายเป็นภาวะที่ถือว่า พรรคสร้างอนาคตไทย ขออาสา ร่วมสร้างอนาคต สร้างฐานรากของอนาคตที่ยั่งยืนแก่คนรุ่นต่อไป
นายอุตตมฯ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เรามีท่านสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และทีมงานด้านเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง สามารถขับเคลื่อนงาน โดยมีนายนิพิฎฐ์ฯ เป็นขุนพลหลักสำคัญ เรามีคนรุ่นใหม่ที่ก้าวเข้าสู่เส้นทางการเมืองไทย ที่ต้องการความเปลี่ยนแปลง เรายังมีเครือข่ายที่มีใจพร้อมทำงานกับพรรคสร้างอนาคตไทย ทั้งด้านวิชาการ ผู้บริหาร สตาร์ทอัพ ช่วยกันเพื่อให้ตกผลึกให้ได้นโยบาย คิดแล้วต้องปฏิบัติได้จริง
ด้าน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวว่า ถ้าพรรคการเมืองไม่เป็นแบบนี้ ก็คงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะตั้งพรรคการเมืองอีกครั้ง ไม่มีใครอยากตั้งพรรคการเมืองหลายครั้ง พรรคการเมืองที่มีอยู่เข้มแข็งหรืออ่อนแอหลายปีที่ผ่านมาผมอยู่ในฝั่งรัฐบาล แม้โควิดจะมาแต่มันไม่ควรจะเป็นอย่างนี้ มันเกิดขึ้นได้แต่มันก็ต้องแก้ไขได้ ตอนผมทำนโยบายปาล์มน้ำมัน โดยเฉพาะB10 และ B7 เพื่อให้กลไกราคาทำให้เกษตรกรอยู่ได้อย่างยั่งยืน แต่หลังจากนี้ผมพยากรณ์ว่าราคาปาล์มน้ำมันราคาจะตก อย่าทำลายวงจรที่มีอยู่แล้ว แต่ต้องควบคุมจุดยืนของเรา เราจะไม่ซ้ำเติมความแตกแยกของประเทศ หน้าที่ของเราจะมาประสาน แก้ปัญหา และหาทางออกให้กับประเทศของเรา เราถึงประกาศว่าเราเป็นขั้วตรงกลาง เพราะคือหัวใจของการเปลี่ยนแปลง และให้คำมั่นสัญญาว่า จะสร้างพรรคฯนี้เป็นพรรคสุดท้าย และจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นว่า การเมืองภาคใต้มีความอ่อนไหวมาก จึงเป็นที่มาของการเกิดพรรคใหม่ๆขึ้น และการเดินทางมาพัทลุงในครั้งนี้ถือเป็นการปักธงทางการเมืองในภาคใต้ และพร้อมขับเคลื่อนเพื่อนร่วมอุดมการณ์เดียวกันต่อไป
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ กล่าวว่า พรรคสร้างอนาคตไทย ไม่ใช่พรรคสุดขั้ว ไม่อิงกับคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และไม่เน้นสร้างศัตรูกับใคร อีกอย่างทางพรรคสร้างอนาคตไทยมีทีมที่มีความชำนาญ เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจที่ดีที่สุด เพื่อรองรับปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ดร.พลกฤษณ์ คล้ายวิตภัทร หรือ ดร.บอย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2พัทลุง พรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวว่า ต้องขอบคุณพรรคฯ ที่ได้มาเปิดตัวพรรคที่แรกที่ จ.พัทลุง และต้องขอบคุณผู้ร่วมก่อตั้งพรรคที่ได้ให้ความสำคัญ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ เป็นพื้นที่ของคนรุ่นใหม่ และคิดว่าตัวเองพร้อมที่จะขับเคลื่อน พร้อมลงพบปะกับพี่น้องประชาชน เพื่อรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชน รวบรวมข้อมูลด้านเศรษฐกิจฐานรากซึ่งมีฐานเสียงใน 4 อำเภอ คือ อ.ป่าพะยอม อ.ศรีบรรพต อ.ควนขนุน และ อ.ศรีนครินทร์ เรามีทุกองค์ประกอบทั้งเขา ป่า นา เล ซึ่งหลังจากนี้ ตนจะลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน ร่วมสร้างอนาคตพัทลุง อนาคตประเทศไทยไปพร้อมกัน.