ชาวบ้าน 7 หมู่บ้าน อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว รวมตัวคัดค้านไม่เอาที่ราชพัสดุ พร้อมยื่นหนังสือร้องเรียนนายอำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัด และ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ส.ส.เขต 2 สระแก้ว ด้านธนารักษ์ฯ ยืนยัน ต้องรอให้คณะกรรมการ คทช.เข้าไปตรวจสอบ เพื่อหาแนวทางการบริหารจัดการที่ดินตรงนี้ให้เกิดประสิทธิภาพและเหมาะสมกับพื้นที่มากที่สุด ก่อนมีมติอย่างเป็นทางการ จึงจะสามารถเข้าไปดำเนินการได้
วันที่ 21 มี.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่บริเวณถนนเกาะกลางถนนหน้าตลาดวังสมบูรณ์ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว ได้มีกลุ่มชาวบ้านพ่อค้าแม่ค้าในตลาดและเจ้าของที่ดินในพื้นที่ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว จำนวนกว่า 200 คน ตัวแทนชาวบ้านที่เดือนร้อนจากกระบวนบริหารจัดการที่ดินของรัฐกว่า 1,000 ราย ได้ออกมายืนถือป้ายเขียนข้อความว่า “ชาววังสมบูรณ์ ขอคัดค้าน ธนารักษ์” “เคยถามชาวบ้านไหม ก่อนมายึด” “ธนารักษ์มีสิทธิ์อะไร ให้เช่าที่ตนเอง” “เราต้องการ เอกสารสิทธิ์” โดยมีการปิดป้ายประท้วงคัดค้านบริเวณร้านค้าริมถนนสาย 317 สระแก้ว-จันทบุรี ตลอดสองฝั่งถนน เพื่อคัดค้านแนวทางดังกล่าว ซึ่งมีการติดตั้งเครื่องขยาย กล่าวถึงเรื่องราวความเป็นมาของพื้นที่ตลาดวังสมบูรณ์ จนเกิดความขัดแย้งกับทางกรมธนารักษ์ หลังมีการส่งเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจที่ดินของชาวบ้านใน อ.วังสมบูรณ์ ที่เคยอาศัยอยู่มานานกว่า 50 ปี เพื่อดำเนินการตามแนวทางมติของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ให้พื้นที่ดังกล่าวขึ้นตรงต่อกรมธนารักษ์และสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (สปก.)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาที่ดิน ได้เข้ามาทำการสำรวจพื้นที่ในบริเวณพื้นที่ตลาดวังสมบูรณ์และพื้นที่ใกล้เคียง รวม 7 หมู่บ้าน โดยอ้างว่า เป็นการดำเนินการตามมติการประชุมหารือการจำแนกประเภทที่ดินจังหวัดสระแก้ว เพชรบุรี และปัตตานี เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.64 โดยที่ประชุมมีมติ เห็นชอบการจำแนกประเภทที่ดินพื้นที่ป่าไม้ถาวร “ป่าปลายคลองห้วยไคร้-พระสทึง” จังหวัดสระแก้ว เนื้อที่ประมาณ 10,805 ไร่ ที่มีการจำแนกการใช้ประโยชน์ที่ดิน 2 ประเภท คือ 1.ประเภทที่อยู่อาศัยและร้านค้า ,ตลาด, ปั๊มน้ำมัน, วัด, สวนสุขภาพ, โรงงาน, ที่ว่างเปล่า และลานมัน เนื้อที่ประมาณ 1,256 ไร่ โดยให้กรมธนารักษ์ไปดำเนินการ 2.ประเภทพื้นที่เกษตรกรรม ,ทุ่งเลี้ยงสัตว์ ถนนและพื้นที่น้ำประเภทลำคลองต่าง ๆ เนื้อที่ประมาณ 9,549 ไร่ ให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร(สปก.) ไปดำเนินการ
ทั้งนี้ ตัวแทนชาวบ้านรายหนึ่ง ระบุว่า ที่พวกเราชาวบ้านวังสมบูรณ์ออกมารวมตัวกันนี้ เหตุเพราะทางเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาแจ้งให้ชาวบ้านบริเวณตลาด ออกไปชี้พิกัดที่ดินของตนเอง พร้อมแจ้งว่า ต่อไปจะนำเข้าไปเป็นที่ราชพัสดุ โดยกรมธนารักษ์จะเข้ามาดำเนินการ ซึ่งทางกรมธนารักษ์ ไม่มีการมาสอบถามชาวบ้าน ไม่มีการทำประชาคมชี้แจงให้ชาวบ้านรับทราบถึงความเป็นมา แต่จู่ ๆ ก็เข้ามาทำการยึดที่ดิน โดยชาวบ้านจะถูกเปลี่ยนฐานะจากเจ้าของที่ดินเป็นผู้เช่าที่ดินราชพัสดุทันที เช่นนี้ชาวบ้านจึงไม่ยินยอม พวกเราทั้ง 7 หมู่บ้าน จำนวนกว่า 2,000 ครัวเรือน จึงมารวมตัวกัน เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านแนวทางนี้ ผ่านทางนายกิจจา เสาวรส นายอำเภอวังสมบูรณ์ และเดินทางไปยื่นหนังสือกับนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีศีกษาฯ ซึ่งเป็น ส.ส.ของจังหวัดสระแก้ว เพื่อคัดค้านแนวทางดังกล่าว “อยู่กันมา 50 ปี เอกสารสิทธิ์ก็ยังไม่มี แล้วยังจะมายึดอีก ต่อไปจะอยู่กันยังไง ทุกวันนี้หาอยู่หากินก็ยาก ไม่ใช่ว่า หากินกันได้ง่าย ๆ “ชาวบ้านเจ้าของที่ดินอายุ 70 ปี กล่าว
ทางด้าน นายกิจจา เสาวรส นายอำเภอวังสมบูรณ์ กล่าวระหว่างเดินทางมาในจุดที่กลุ่มชาวบ้านรวมตัวกันและรับหนังสือร้องเรียน พร้อมบัญชีรายชื่อชาวบ้านเกือบ 2,000 ราย ที่คัดค้านแนวทางดังกล่าว โดยตนจะนำเสนอเรื่องนี้ไปทางหน่วยเหนือต่อไป จากนั้นกลุ่มชาวบ้านได้สลายตัว พร้อมเดินทางไปที่ศาลากลางจังหวัด และสำนักงาน ส.ส.ตรีนุช เทียนทอง เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนด้วย โดยระหว่างที่มีการพูดคุยดังกล่าวกับนายอำเภอวังสมบูรณ์ แกนนำชาวบ้านแจ้งว่า หากไม่มีการช่วยเหลือชาวบ้านในเรื่องนี้จะเดินทางไปรวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัดด้วย ซึ่งจากการพูดคุยเบื้องต้น ชาวบ้านต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ปัญหาที่ดินดังกล่าว โดยใช้แนวทางของการจัดตั้งนิคมสหกรณ์ ที่ดำเนินการในพื้นที่ อ.เขาฉกรรจ์ อ.วังน้ำเย็น และ อ.วังสมบูรณ์ ในพื้นที่ ต.วังใหม่ ที่ดำเนินการไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยยึดทางหลวงหมายเลข 317 จากแนวถนนออกไปฝั่งละ 2 กิโลเมตร ตั้งแต่บ้านแก่งสำราญ ไปจนถึงเทศบาลตำบลวังสมบูรณ์ เพื่อออกเอกสารสิทธิ์ให้กับเจ้าของที่ดิน ตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
นายกฤษดา ระวีเผ่าพงษ์ ธนารักษ์พื้นที่สระแก้ว กล่าวว่า ปัจจุบันนี้ทาง คทช.ที่มาจากส่วนกลางได้มีผู้แทนเข้ามาตรวจสอบในพื้นที่และมอบหมายให้ทางสำนักงานพัฒนาที่ดินจังหวัดสระแก้ว ทำการตรวจสอบพื้นที่ ส่วนทางธนารักษ์ตอนแรกประสานให้เข้าไปตรวจสอบพื้นที่แต่ปัจจุบันยังไม่ได้ดำเนินการ ดังนั้น คงต้องรอให้คณะกรรมการ คทช.เข้าไปตรวจสอบก่อนว่า แนวทางดำเนินการตามที่ คทช.มีมติไว้เบื้องต้นว่า จะมอบให้ธนารักษ์เป็นคนดูแลในเรื่องของที่ราชพัสดุ หรือมอบให้ทาง สปก.เป็นผู้ดูแล ก็ยังไม่ได้ข้อยุติ ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้ หลังคณะกรรมการที่ลงตรวจสอบพื้นที่นำกลับเข้าไปพิจารณาหารือกับ คทช.ชุดใหญ่ ว่าแนวทางและข้อเท็จจริงในพื้นที่เป็นอย่างไร เมื่อได้ข้อยุติที่เป็นทางการแล้ว ก็น่าจะประสานมายังกรมธนารักษ์ และแจ้งให้สำนักงานธนารักษ์พื้นที่สระแก้ว ดำเนินการต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายกฤษดา กล่าวอีกว่า หากจะมีการเปลี่ยนแปลงแนวทางการดำเนินการจากกรมธนารักษ์และ สปก. ไปเป็นแนวทางอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับ คทช.ชุดใหญ่ ซึ่ง ณ ขณะนี้แนวทางที่กำหนดมา 2 รูปแบบคือ ให้เป็นที่ราชพัสดุกับ สปก.เท่านั้นเอง ซึ่งความจริงรูปแบบการบริหารจัดการที่ดินมีหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับแนวนโยบายของ คทช.ว่า ในการบริหารจัดการเนื้อที่ที่อยู่ในตัววังสมบูรณ์ควรจะใช้รูปแบบไหนจึงจะเหมาะสมกับพื้นที่มากที่สุด เมื่อทาง คทช.มีข้อยุติมาเป็นทางการแล้ว คงจะมอบให้คนที่อยู่ในพื้นที่ดำเนินการต่อไป ไม่ว่าจะเป็น ธนารักษ์พื้นที่ หรือ สปก.คงจะต้องมีการหารือร่วมกันอีก 1 ครั้ง ส่วนที่ชาวบ้านคัดค้านนั้น ไม่แน่ใจว่าชาวบ้านเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ใช้การบริหารจัดการรูปแบบอื่น เช่น นิคมสหกรณ์ ขึ้นอยู่กับแนวนโยบายของ คทช.ส่วนกลางว่า มีแนวนโยบายอย่างไร อยากจะบริหารจัดการที่ดินตรงนี้อย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพและเหมาะสมกับพื้นที่มากที่สุด ซึ่งจะให้เป็นที่ราชพัสดุ หรือไม่เป็นก็ได้แล้วแต่นโยบาย จึงอยากให้ทุกท่านทำความเข้าใจในเรื่องของกระบวนการ ข้อเท็จจริงให้ครบถ้วนก่อน หรือมีอะไรสงสัยก็สอบถามมายังธนารักษ์พื้นที่ จ.สระแก้ว โทร.037-425100 น่าจะตอบคำถามเบื้องต้นได้
นายยุทธนา พึ่งน้อย ผู้สื่อข่าวจังหวัดสระแก้ว
