กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกพืชผักรวมตัวยื่นหนังสือผู้การเชียงใหม่ หลังถูกบริษัทแห่งหนึ่งฉ้อโกงเงินค่าผลผลิตทางการเกษตร เกือบล้านบาท
เมื่อวันที่ 2 ก.พ.65 เวลา10.30 น. เกษตรกรนับสิบรวมตัวยื่นหนังสือถึงผู้การเชียงใหม่ ภายหลังโดนบริษัทรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรเบี้ยวจ่ายเงิน น.ส.กมล ขอปิดนามสกุล อายุ 36 ปี พร้อมด้วยกลุ่มเกษตรกรผู้เสียหายอีก 9 รายเดินทางมาที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เข้าร้องเรียนกับ พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรเชียงใหม่ ภายหลังจากที่ ได้มีการตกลงขายพืชผลทางการเกษตรให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งให้ราคาสูงกว่าท้องตลาด แต่เมื่อมีการนำผลผลิตทางการเกษตรมาส่งให้ทางบริษัทและมีการตกลงว่าจะมีการวางบิลชำระค่าใช้จ่ายภายใน 7 วัน ทางบริษัทกลับปฏิเสธการชำระ และพยายามบ่ายเยี่ยงการชำระเงินรวมผู้เสียหายตอนนี้มีทั้งหมด 9 ราย ยอดความเสียหายเกือบ 1 ล้านบาท
นางสาวกมล หนึ่งในเกษตรกร (ผู้เสียหาย) เปิดเผยว่า ได้รู้จักกับบริษัทรับซื้อพืชผลทางการเกษตรแห่งนี้ ผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก จากนั้นได้มีการตกลงซื้อขายกะหล่ำปลีพันธุ์ช้าง ในราคากิโลกรัมละ 13 บาท โดยมีการวางบิล 7 วันและจะโอนเงินมาให้ในวันที่ 8 หลังจากส่งสินค้า จากนั้นตนได้นำกะหล่ำปลีพันธุ์ช้าง จำนวน 402 ถุง ถุงละ 10 กิโลกรัมใส่รถกระบะบรรทุกมาส่งให้ทางบริษัทโดยมีการตรวจสอบสินค้าโดย QC ของบริษัทซึ่งทาง QC ได้แจ้งว่าถุงผักที่ใส่มาในรถนั้นเปื้อนและมีไอน้ำติดต้องทำการเปลี่ยนถุงจึงมีการตกลงให้บริษัทเปลี่ยนถุง ซึ่งทางบริษัทก็ไม่ได้มี การแจ้งเงื่อนไขและค่าใช้จ่ายใดๆในการเปลี่ยนถุงผักในครั้งนี้แจ้งให้ทราบเพียงว่าบริษัทจะคิดค่าใช้จ่ายแค่ค่าเปลี่ยนเท่านั้น จากนั้นทางบริษัทก็ได้มีการเซ็นรับสินค้าและตรวจสอบสินค้าเรียบร้อยหลังจากที่ลงของเสร็จ
จากนั้น ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดซื้อของบริษัทแห่งนี้ได้ส่งข้อความหาตน ให้เดินทางมาเซ็นเอกสารที่บริษัท เมื่อ มาถึงบริษัททางผู้เสียหายได้อ่านสัญญาและใบสรุปยอดสินค้าที่ได้นำไปส่งปรากฏว่าในสัญญาไม่ระบุเงื่อนไขการซื้อขายและดูเหมือนเป็นการผลักภาระให้ผู้ส่งสินค้าดูแล้วผู้เสียหายกลายเป็นผู้เสียเปรียบและไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงไม่ได้มีการเซ็นเอกสารใดและมาจนถึงวันนี้ยังไม่มีการโอนเงินจากทางบริษัท ในส่วนของค่า พืชผลทางเกษตรที่นำไปส่งให้แต่อย่างใด
นายพันธ์ ขอปิดนามสกุล (ผู้เสียหาย) อีกรายได้เปิดเผยว่า ตอนนั้นรู้จักกับบริษัทแห่งนี้ผ่านทาง facebook จากนั้นก็ได้นำพืชผลทางการเกษตร เอามาตกลงขายให้กับบริษัทแห่งนี้และโดนบริษัททำแบบเดียวกับผู้เสียหายรายอื่น โดยการนำสินค้าลงก่อนแล้วจะวางบิลภายใน 7 วันแต่เมื่อเลย 7 วันกลับไม่ได้เงินเลยสักบาทมาจนถึงวันนี้ และที่ตัดสินใจนำมาขายให้บริษัทนี้เนื่องจากให้ราคาสูงกว่าท้องตลาดโดยท้องตลาดจะรับซื้อในราคาประมาณ 10 บาทแต่บริษัทแห่งนี้ให้ราคาสูงถึง 13 บาทต่อ 1 กิโลกรัม
ทางด้านพล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากกลุ่มผู้เสียหายเอาไว้ และจะได้มีการประสานกับ ศูนย์ดํารงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากทราบมาว่าทางกลุ่มผู้เสียหายได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรมไปก่อนหน้านี้แล้วแต่กลัวคดีจะไม่คืบจึงเดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนในครั้งนี้และจะได้ปนะสานไปทางศูนย์ดำรงธรรมในการช่วยเหลือ และในส่วนของภ.จว.เชียงใหม่จะได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานและต้องดูเรื่องของข้อกฏหมายว่าเข้าข่ายใดบ้าง ซึ่งได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวนดูในเรื่องของเอกสารหลักฐาน เพื่อดำเนินการช่วยเหลือต่อไป