วันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 ร.ต.อ.สมบัติ ขอดทอง รอง สว.สอบสวน สภ.ศรีมหาโพธิ ได้รับแจ้งว่ามีรถกระบะชนเด็กนักเรียนได้รับบาดเจ็บ จึงลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมด้วยอาสาสมัครกู้ภัยสว่างบำเพ็ญ ก่อนนำร่างเด็กนักเรียนส่งโรงพยาบาล และได้รับแจ้งว่าเด็กเสียชีวิต
จากการตรวจสอบในพื้นที่เกิดเหตุพบคราบเลือดขนาดใหญ่ 2 กอง และพบรถกระบะยี่ห้อ ford ranger สีดำทะเบียน นครนายก จอดอยู่บริเวณด้านหน้าศูนย์เด็กเล็กของโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 7 ตำบลท่าตูม อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่ารถกระบะคันดังกล่าวได้นำอาหารมาให้ทางโรงเรียนช่วงเวลา 9:00 น. หลังจากนั้นเมื่อเวลา 12:00 น. ได้เดินทางมาเก็บถาดและเก็บหม้ออาหารเพื่อกลับไปยังบ้าน พอมาถึงที่เกิดเหตุได้ขับรถถอยออกเพื่อเข้าไปเก็บถาดอาหารหลังจากนั้นจึงได้ชนเข้ากับเด็ก
จากการสอบถามนายธีรศักด์ อายุ 26 ปี ผู้ขับรถได้กล่าวว่า ตนขับรถมารับถาดอาหารที่โรงเรียนและกำลังจะเดินหน้าตั้งลำรถหลังจากนั้นรถกระตุกเหมือนชนอะไรบางอย่าง พอถอยออกมาจึงพบว่ารถของตนเหยียบเด็ก โดยมีสภาพคว่ำหน้าอยู่ตนจึงวิ่งลงไปจากรถและพลิกร่างของเด็กขึ้นมาโดยทำ CPR และจับชีพจรของเด็ก ก่อนที่ทางกู้ภัยจะนำร่างของเด็กส่งโรงพยาบาล โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ตนเสียใจและตกใจเป็นอย่างมาก
จากการสอบถามเด็กนักเรียนที่อยู่ในโรงเรียนและเห็นเหตุการณ์ได้เล่าให้ฟังว่า รถคันดังกล่าวได้ขับมาในบริเวณโรงเรียนก่อนที่จะถอยมาเหยียบน้องซึ่งเป็นเด็กนักเรียนอนุบาล 2 ตอนนั้นพวกตนอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุและเห็นภาพ โดยรถคันดังกล่าวได้เหยียบร่างของน้องจนมีเลือดไหลออกปากออกจมูกและตรงบริเวณหัว หลังจากที่เกิดเหตุทางคนขับลงมาช่วยเด็กซึ่งตอนนั้นเด็กยังหายใจอยู่ หลังจากนั้นไม่นานเด็กคนนั้นก็แน่นิ่งไป
จากนั้นทางผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลศรีมหาโพธิ พบว่าทางเจ้าหน้าที่ได้ทำบาดแผลให้กับเด็กที่เสียชีวิตโดยมีบาดแผลบริเวณหน้าผากด้านขวา และมีรอยถลอกบริเวณใบหน้า จากการสอบถามญาติของเด็กทราบว่าเด็กคนที่เสียชีวิตมีอายุ 4 ขวบและกำลังเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 7 ตำบลท่าตูม โดยทางญาติจะนำร่างของเด็กที่เสียชีวิตไปบำเพ็ญกุศลศพที่บ้านเกิดจังหวัดสระแก้ว
เบื้องต้นทางญาติผู้ขับรถยนต์กระบะส่งอาหารได้มอบเงินให้ทางญาติของเด็กที่เสียชีวิตเบื้องต้นเป็นเงินจำนวน 50,000 บาท พร้อมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำผู้ขับรถที่เกิดเหตุไปตรวจหาสารเสพติดและผลแอลกอฮอล์ที่โรงพัก แล้วจะทำการสอบสวนหาสาเหตุที่เกิดขึ้นและจะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
