แก๊งทวงหนี้โหดบุกทำลายข้าวของถึงบ้านขู่อุ้มฆ่าลูกหนี้

แก๊งทวงหนี้โหดบุกทวงหนี้ลูกหนี้ถึงบ้านแต่ไม่พบเกิดความไม่พอใจทำลายข้าวของ โยนตู้ไปรษณีย์ที่แขวนบนราวรั้วใส่หลังคาบ้าน ไม่พอขู่อุ้มฆ่า คนในบ้านผวาหนักหิ้วเด็ก 4 ขวบหนีไปอยู่ที่อื่นหวันไม่ปลอดภัย ขณะที่สมาชิกในบ้านบางคนไม่กล้าแม้กระทั่งเข้ามาเก็บเสื้อผ้าต้องหนีไปอยู่กับญาติต่างจังหวัด ขณะกลุ่มชายฉกรรจ์ ขับรถวนมาทวงหนี้วันล่ะหลายรอบระรานเพื่อนบ้านและญาติลูกหนี้จนต้องหนีไปอยู่ที่อื่นเป็นครอบครัวที่สอง

วันที่ 23 ก.ค.65 ภาพวงจรปิดจากบ้านชาวบ้านหลังหนึ่งย่านถนนจามเทวี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ลำพูน บันทึกภาพเหตุการณ์ชายฉกรรจ์สองคนขับรถเก๋งโตโยต้า สีบรอนซ์ มาจอดบ้านหลังหนึ่งในย่านชุมชนถนนจามเทวี ก่อนที่ชายที่สวมเสื้อสีเหลืองจะกดกริ่งเรียกให้เจ้าของบ้านออกมาพบ ระหว่างนั้นทั้งสองคนจะตะโกนเรียกเจ้าของบ้านเสียงดังโหวกเหวก เมื่อไม่มีเสียงตอบรับจึงทุบกริ่งหน้าบ้าน ส่วนผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดง จึงคว้าตู้ใส่จดหมายที่แขวนอยู่บนรั้วขว้างใส่หลังคาบ้าน หลังจากนั้นจึงคว้าราวตากผ้าและของเล่นเด็กที่วางอยู่หน้าบ้านเขวี้ยงเข้าไปในบ้าน เพื่อระบายอารมณ์ หลังไม่มีคนในบ้านตอบรับ

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เพื่อสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยได้พบกับนายดอน  นามสมมุติ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน ได้เล่าว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา ขณะนั้นตนกำลังทำงานอยู่ในบ้านซึ่งอยู่ติดกับบ้านหลังที่เกิดเหตุ ขณนั้นได้ยินเสียงผู้ชายทั้งจะตะโกนเรียกหานางสาลี   นามสมมุติ เจ้าของบ้าน และได้ยินเสียงทุบทำลายข้าวของจึงเดินออกมาดู เห็นผู้ชายทั้งสองคนกำลังทำลายข้าวของพร้อมโดนสิ่งของเข้าไปในบ้านหลังดังกล่าวก่อนที่ทั้งสองจะขับรถผ่านมาที่หน้าบ้านพร้อมกับตะโกนใส่ว่ามองทำไมอยากมีปัญหาเหรอ ตนจึงรีบเดินเข้าไปในบ้านเนื่องจากกลัวว่าจะเกิดอันตรายกับตนและคนในครอบครัว ต่อมาทราบว่าชายทั้งสองคนเป็นขบวนการปล่อยเงินกู้นอกระบบมาทวงเงินกับเจ้าของบ้าน จึงทำให้ตนและสมาชิกในครอบครัวอยู่ด้วยความหวาดกลัวทั้งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกู้เงินของเพื่อนบ้าน ประกอบกับ ตนมีอาชีพค้าขายต้องเดินทางไปตลาดตั้งแต่เช้ามืดเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับคนในครอบครัวได้

หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้พบกับนายเติม  นามสมมุติ สามีเจ้าของบ้านและนายเอ็ม  นามสมมุติ สมาชิกที่อาศัยอยู่บ้านหลังที่เกิดเหตุมาสอดส่องดูแลบ้านหลังที่เกิดเหตุและให้ข้อมูลว่าตนทั้งสองประกอบอาชีพค้าขายอยู่ตลาดแห่งหนึ่งในตัวเมืองลำพูน นางสาลีฯเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ค้าขายอยู่ตลาดอีกแห่งหนึ่งก่อนหน้านี้นางสาลีฯได้ไปกู้เงินนอกระบบมาหลายราย แต่ไม่ทราบรายละเอียดว่าเป็นเงินเท่าไหร่ และต้องจ่ายรายวันเท่าไหร่ หลังจากนั้นแก๊งทวงหนี้ได้มาที่บ้านได้มาทวงหนี้และข่มขู่ทุกวันจนทำให้นางสาลีฯ เกิดความกลัวและหนีออกจากบ้านนานกว่า 1 สัปดาห์และไม่ยอมบอกว่าไปอยู่ที่ไหน ส่วนรถมอเตอร์ไซค์ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีราโน่สีเหลืองหมายเลขทะเบียน 1 กจ 744 ลำพูน ของนางสาลีฯก็หายไปวันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม ที่ผ่านมาคาดว่าถูกแก๊งเงินกู้อีกรายยึดไปแล้ว

ต่อมากลุ่มชายฉกรรจ์ ได้มาติดตามหานางสาลี วันล่ะหลายครั้งทำให้สมาชิกในครอบครัวที่เหลือประกอบด้วยเด็กหญิงวัย 4 ขวบพร้อมผู้ปกครอง และเด็กสาววัย 20 กว่าปี ซึ่งเพิ่งเรียนจบต้องขนข้าวของหนีออกจากบ้านไปอยู่ที่อื่นเพื่อความปลอดภัย ขณะที่ญาติของนางสาลีฯ ที่มีบ้านอยู่ติดกันมีสมาชิกอาศัยอยู่ 6 คน หนึ่งในนั้นมีเด็ดอายุ 4 ขวบ และ 8 ขวบ ต้องขนข้าวของหนีไปอยู่ที่อื่นด้วยเนื่องจากกลัวว่าจะได้รับอันตรายจากกลุ่มชายฉกรรจ์กลุ่มดังกล่าวที่แวะมาทวงหนี้จากนางสาลีฯและข่มขู่ญาติที่อยู่บ้านติดกันบางครั้งถึงขั้นขู่อุ้มฆ่าคนในครอบครัวอีกด้วย

ด้านนายเติมฯ ยืนยันว่าตนไม่ทราบเลยว่านางสาลีนได้ไปกู้เงินนอกระบบมาจากไหนแต่กลับได้รับผลกระทบจากการถูกชายฉกรรจ์กลุ่มนี้ทวงหนี้ ทั้งข่มขู่อุ้มฆ่า ซึ่งในวันที่เกิดเหตุการณ์กลุ่มชายฉกรรจ์ทำลายข้าวของตอนนั้นไม่มีคนอยู่บ้านเมื่อมาเห็นภาพจากกล้องวงจรปิดทำให้คนในครอบครัวเกิดความกลัวไม่กล้าอยู่บ้านเนื่องจากกลัวว่าจะได้รับอันตราย นอกจากนี้ตนต้องเดินทางไปค้าขายและออกจากบ้านแต่เช้ามืดก็กลัวว่าจะถูกกลุ่มคนดังกล่าวมาดักทำร้ายหรือบังคับให้บอกที่อยู่นางสาลีฯ ซึ่งตนไม่รู้จริงๆว่าตอนนี้เขาไปอยู่ที่ไหน

ขณะที่นายเอ็มฯ เปิดเผยว่า สมาชิกในครอบครัวที่เป็นเด็กสาววัย 20 กว่าปี หลังจ่ากได้เห็นคลิบวีดีโอดังกล่าว ถึงขั้นกับเกิดอาการผวา ต้องไปอาศัยอยู่กับญาติที่ต่างจังหวัด ไม่กล้าแม้กระทั้งที่จะเดินทางกลับมาบ้านเพื่อเก็บข้าวของเนื่องจากหวาดระแวงว่าถ้าหากกลับมาจะพบกลับชายฉกรรจ์กลุ่มดังกล่าว อย่างไรก็ตามหลังจากที่ตนและคนในครอบครัวย้ายไปอยู่ที่อื่นได้ติดต่อสอบถามเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงพบว่าชายฉกรรจ์กลุ่มดังกล่าวได้แวะเวียนมาที่บ้านวันล่ะประมาณ 4-5 รอบ เมื่อมาถึงก็พยายามที่จะบุกเข้าไปในบ้านบ้างครั้งก็ใช้สิ่งของ ถุงขยะที่วางอยู่หน้าบ้าน และก้อนหิน ที่ขว้างเข้าไปในบ้านและโวยวายส่งเสียงดัง จนทำให้ญาติที่อยู่บ้านติดกันอีกหลังขนของหนีไปอยู่ที่อื่นชั่วคราว


Scroll to Top

แฉข่าวเด่น ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า