ถ่านขึ้นราคา แถมขายดีผลิตแทบไม่ทัน แม้แต่วัดก็ต้องสต๊อกถ่านไว้เผาศพ

วันนี้ 29 มิ.ย.65  ผู้สื่อข่าวได้ไปที่เตาเผาถ่านของนางสาวชูศรี  จำปาทอง  อายุ 66 ปี  ซึ่งตั้งอยู่ที่ 38/4  หมู่ 1  ต.น้ำพุ  อ.เมือง  จ.ราชบุรี  ซึ่งเป็นแหล่งเผาถ่านที่ใหญ่ในตำบลน้ำพุ  และขายดีจนผลิตแทบไม่ทัน ซึ่งคนที่จะมาซื้อต้องสั่งจองล่วงหน้า หรือบางรายก็ต้องจ่ายเงินไว้เป็นค่าประกันว่า หลังนำถ่านออกมาจากเตาจะต้องนำไปให้เจ้าของเงิน

โดยได้พบกับนางสาวชูศรี  ก็ได้พาไปดูเตาเผาถ่านซึ่งเป็นเตาดินปั้น มีอยู่หลายเตาโดยทุกเตานั้นกำลังทำการเผาถ่านทั้งหมดซึ่งจะใช้ เวลาประมาณไม่เกิน 15 วัน ก็จะได้เป็นก้อนถ่านใส่กระสอบเตรียมส่งขายได้ แต่นางสาวชูศรี บอกว่าทุกเตาที่เห็นนั้นถ่านที่อยู่ข้างในมีคนสั่งจองหมดแล้ว ไม่สามารถขายให้ขาจรได้เลย แม้ว่าถ่านจะขึ้นราคาถึงกระสอบละ 30 บาท จากเดิมที่เคยขายในราคากระสอบละ 150 บาท  ตอนนี้ขาย 180 บาท เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่ทำให้ต้นทุนเพื่อสูงขึ้น  ทำให้ต้องขึ้นราคาแต่ก็ยังขายดี

ซึ่งนางสาวชูศรี บอกว่า ในปัจจุบันมีความต้องใช้ถ่านมากขึ้น ทำให้ขายดี แต่คนเผาถ่านก็จะได้เงินไม่เท่าไหร่   ส่วนพ่อค้าคนกลางที่มารับไปขายต่อจะมีรายได้ดีกว่าคนเผา  ส่วนที่ต้องขึ้นราคาถ่านเพราะน้ำมันขึ้นราคาเพราะต้องใช้น้ำมันในการเติมเลื่อยตัดไม้   ค่าน้ำมันรถที่ขนส่ง  และต้นไม้ก็แพงขึ้น แม้ว่าค่าแรงจะยังไม่ขึ้น คือในราคา 300 บาท ต่อวัน แต่ราคาน้ำมันขึ้นก็ทำให้ต้องขึ้นราคาถ่าน เพราะน้ำมันเป็นปัจจัยสำคัญ  ส่วนคนที่จะนำถ่านไปเผาศพนั้นก็ใช้ถ่านแบบเดียวกันกับถ่านที่ใช้หุงต้ม เพราะไม่ได้แยกว่าถ่านดิบหรือถ่านสุก  แต่มีบางพื้นที่ใช้ถ่านดิบเพราะไฟแรงและลุกได้นาน  ตอนนี้ขายดีมากมีการจ่ายเงินจองล่วงหน้า ซึ่งบางครั้งก็เผาแทบไม่ทัน ตนใช้ไม้ลำไยในการเผาเป็นถ่านเพราะเป็นไม้เนื้อแข็ง  หาง่าย  ไฟแรง ติดไฟนาน เพราะในตำบลน้ำพุ นั้นชาวบ้านส่วนใหญ่จะปลูกลำไย และเมื่อต้นแก่  หรือมีกิ่งมากเกินไป หรือบางรายก็เลิกปลูก ก็จะตัดออก  ตนก็จะไปรับซื้อมา  ทำอย่างนี้มากกว่า 5 ปี แล้ว   ซึ่งเผาถ่านครั้งหนึ่งใช้เวลาประมาณ 15 วันก็จะได้เป็นถ่านมาใส่กระสอบเตรียมไว้ขายได้เลย  โดยขายครั้งหนึ่งก็ประมาณ 50-80 กระสอบ   ซึ่งตอนนี้แม้ว่าราคาถ่านจะแพงขึ้นก็ขายดีมากกว่าเดิมจนเผาแทบไม่ทัน

จากการสอบถามนายสุพล  รสจันทร์วงษ์   สับปเหร่อที่วัดโคกหม้อ  ต.โคกหม้อ  อ.เมือง  จ.ราชบุรี  ก็บอกว่า ที่วัดรับเผาศพผู้ที่ตายจากติดเชื้อโควิด ไปแล้วจำนวนมากซึ่งเชื้อเพลิงที่ใช้ก็จะเป็นถ่านดิบ (หัวถ่าน)  ซึ่งเป็นถ่านที่เผายังไม่ทันสุก  เนื่องจากถ่านดิบนั้นไฟแรงจะช่วยทำให้ไฟลุกได้ดี  ไม่สามารถนำไปใช้หุงต้มได้  เพราะแรงเกินไป   ใช้เผาศพได้อย่างเดียว ซึ่งในการเผาแต่ละศพนั้นจะใช้ถ่านไม่เกิน 4 ถุงปุ๋ย    สำหรับที่วัดนี้ใช้ถ่านเป็นเชื้อเพลิงมาตลอด เพราะเป็นเตาโบราณ  หรือบางครั้งก็ใช้ฟืนแทนบ้าง  ไม่สามารถใช้เชื้อเพลิงอย่างอื่นได้เลย

ในปัจจุบันประชาชนหันมาใช้ถ่านในการหุงต้มมากกว่า เชื้อเพลิงอย่างอื่นซึ่งเป็นการประหยัด  แต่อาจจะสร้างมลพิษบ้าง  ส่วนตามวัดก็จะมีการนำถ่านที่ได้จากประชาชนที่นำมาร่วมทำบุญเก็บไว้ เพื่อใช้ในการเผาศพ  โดยให้ทางญาติของผู้ตายได้ทำบุญกับทางวัด เพราะนับวันถ่านก็จะยิ่งหายาก และมีราคาแพง เมื่อมีเหตุที่จำเป็นจะต้องใช้ถ่านในการเผาร่างของบุคคลอันเป็นที่รักก็อาจจะไม่สะดวกในการไปหาซื้อ ทางวัดจึงมีบริการไว้ให้


Scroll to Top

แฉข่าวเด่น ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า