จากกรณีนายณัฐชาหรือเม้าส์ จันทพันธ์ นักแสดงชื่อดัง พร้อมครอบครัวและทนายความ ได้เดินทางเข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับคนที่รู้จักกันสนิทคนหนึ่ง ที่ชักชวนให้ร่วมลงทุนเล่นเทรดหุ้นทองคำทางออนไลน์ ซึ่งอ้างว่าสามารถทำกำไรได้จำนวนมาก จึงหลงเชื่อชักชวนครอบครัวลงทุนไป แต่กลับไม่ได้ผลกำไรอย่างที่กล่าวอ้าง และเมื่อพยายามขอถอนเงินที่ลงทุนคืนก็ถูกบ่ายเบี่ยงและไม่ได้เงินคืนแต่อย่างใด รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 5.2 ล้าน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 14 ธ.ค.นายณฉัตรหรือนิกกี้ จันทพันธ์, นายณัชชาหรือเม้าส์ จันทพันธ์ พร้อมแฟนสาว และมารดาได้เดินทางเข้าพบร.ต.ท.คมกฤช กาญจนชาติ รองสว.(สอบสวน)สน.ประเวศ เพื่อเจรจากับทางคู่กรณีนายเสกสรร ใบบัว อายุ 39 ปี ชาวจ.ราชบุรี โดยในการเจรจานั้นทางนายเสกสรร ผู้ถูกกล่าวหาได้นำเอกสารแจ้งความดำเนินคดีกับเว็บเทรดทองดังกล่าวมาแสดง และอ้างว่าตนเองก็เป็นผู้เสียหายเช่นเดียวกัน แต่ทั้งนี้ตนก็ยืนยันตนจะรับผิดชอบในฐานะพี่คนหนึ่ง ที่ได้ชักชวนน้องมาร่วมลงทุน แต่ไม่ได้รับผิดในฐานะผู้กระทำความผิด เนื่องจากผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีโบรกเกอร์ ไม่ได้โอนเงินเข้าบัญชีตนเอง อย่างไรก็ตามในส่วนน้องสปอย(แฟนเม้าส์) ที่ได้โอนเงินเข้าบัญชีตนนั้น ตนยอมรับ ซึ่งเป็นการลงทุนร่วมกันและตนได้โอนต่อไปยังบัญชีโบรกเกอร์ทันที ไม่ได้เก็บไว้แต่อย่างใด และในวันนี้ตนได้โอนเงินในส่วนของน้องสปอยคืนไปหมดแล้วและในวันที่ 20 ธ.ค.นี้จะคืนเงินให้ของคุณแม่จำนวน 1.3 ล้านบาท ส่วนเงินอีก 3.9 ล้านบาทที่เหลือ ตนขอเวลา1ปีในการคืนเงิน
ด้านทนายไพศาลและนิกกี้ พร้อมกลุ่มผู้เสียหายอื่น ยังคงยืนยันว่าจะให้เวลาเพียง 15 วันในการคืนเงิน 5.2 ล้านบาท หากไม่ได้เงินคืนก็จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ซึ่งบรรยากาศการเจรจาค่อนข้างดุเดือด เนื่องจากระหว่างที่เจรจา คู่กรณีได้นำบุคคลท่านหนึ่งมาร่วมรับฟังด้วย โดยช่วงแรกทนายไพศาล ได้ถามว่าเป็นทนายใช่หรือไป บุคคลดังกล่าวรับว่าเป็นทนายความ ทางด้านทนายไพศาล จึงขอดูบัตรทนายความ แต่พบว่าบุคคลดังกล่าวไม่ยอมให้ดู พร้อมรับว่าเป็นเพียงทีมทนายความที่ได้รับมอบหมายให้ร่วมรับฟัง ไม่ใช่ทนายความ ทางทนายไพศาลจึงรู้สึกไม่พอใจที่มีการแอบอ้างว่าเป็นทนายความ และขอแจ้งความกับบุคคลดังกล่าวที่ทำให้ภาพลักษณ์ทนายเสียหาย จากนั้นทั้ง 2 ฝ่ายจึงของเจรจาเป็นการส่วนตัว โดยใช้เวลากว่า 30 นาที จึงได้ข้อสรุป
ด้านทนายไพศาล เปิดเผยว่าผลการเจรจาคู่กรณียังยืนกรานว่าไม่สามารถหาเงินมาใช้คืนได้ภายใน15วัน ทางลูกความ(นิกกี้และเม้าส์ พร้อมผู้เสียหาย)จึงประสงค์ให้ดำเนินคดี ในข้อหาฉ้อโกงไปตามกฎหมาย ซึ่งทางลูกความตนไม่ได้กำหนดระยะเวลาที่คู่กรณีจะคืนเงิน ซึ่งถ้าคู่กรณีหาเงินมาคืนได้หมดก็จะถอนแจ้งความทุกกรณี ทั้งนี้ยืนยันว่าจะดำเนินคดีในลักษณะคดีอาญาเท่านั้น ไม่ประสงค์จะให้ดำเนินคดีทางแพ่งแต่อย่างใด และไม่ได้รู้สึกหนักใจอะไร ให้ไปสู้กันในชั้นศาล
ด้านนิกกี้และเม้าส์ เปิดเผยว่า หลังจากได้พูดคุยกับคู่กรณีก็รู้สึก สบายใจขึ้น แต่ไม่เคยได้รับคำขอโทษจากคู่กรณี หลังจากนี้หากคงเข็ดกับการลงทุนเทรดหุ้นทางออนไลน์ และอยากฝากเตือนผู้ที่อยากลงทุนว่าคงต้องศึกษาให้ดีก่อน คนที่จะรวยจากการเทรดหุ้นมีจริง แต่คงไม่มากนัก หาเงินจากลำแข้งตนเองน่าจะดีกว่า
เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหากับนายเสกสรร ในข้อหาฉ้อโกง แต่เนื่องจากผู้ต้องหาเดินทางเข้ามาพบกับพนักงานสอบสวนด้วยตัวเองจึงได้ทำการปล่อยตัวชั่วคราว โดยในวันพรุ่งนี้ (15 ธ.ค.)เวลา 10.00 น. พนักงานสอบสวนได้นัดผู้ต้องหา ไปยังศาลจังหวัดพระโขนง เพื่อทำการผัดฟ้องครั้งที่หนึ่ง