ภาพบรรยากาศที่หน้าสถาบันิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี โดยมีสื่อมวลชนหลายสำนักเฝ้าติดตามประเด็นการเสียชีวิต ของน้องกอหญ้า เด็กผู้หญิงอายุ 6 ขวบ ที่เสียชีวิตบนเตียงนอน โดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งเป็นที่สงสัยในสังคม หลังมีการเปิดเผยข้อมูลว่า ตามร่างกายมีบาดแผลฉกรรจ์หลายจุด โดยทางคุณยายที่เลี้ยงดู ให้ข้อมูลว่าเกิดดจากอุบัติเหตุ วิ่งขนกรงเลี้ยงสุนัข จึงมีการนำร่างเด็กผู้เสียชีวิตมาชันสูตรพลิกศพที่ นิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ และวันนี้ทางญาติจะเข้ามาเพื่อรับศพของน้องกอหญ้า ไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 24 มิ.ย.65 นายจาตุรงค์ พากล้า อายุ 31 ปี พร้อมด้วยนางสาวณิชารีย์ แดหวา อายุ 26 ปี พ่อกับแม่เด็กหญิงนรภัทร ภากล้า (น้องกอหญ้า) อายุ 6 ขวบ ที่เสียชีวิตภายในห้องแถวให้เช่า ซอยวัดสะแก ม.1 ต.สามโคก อ.สามโคก จ.ปทุมธานี โดยมีบาดแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะ และขมับขวายุบ ขอบตาซ้ายเขียว ชายโครงซ้ายเขียวช้ำ หน้าท้องบวม อวัยวะเพศเขียวช้ำ นิ้วมือซ้ายบวมช้ำเลือดช้ำหนอง แขนซ้ายมีรอยคล้ายถูกของมีคม ตามร่างกายมีบาดแผลตกสะเก็ด ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ซึ่งวันนี้ทางพ่อกับแม่น้องกอหญ้าจะนำศพลูกสาวไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดชินวรารามวรวิหาร ต.บางขะแยง อ.เมือง จ.ปทุมธานี โดยแพทย์ระบุการเสียชีวิตว่าสมองกระทบกระเทือนจากศีรษะได้รับบาดเจ็บสันนิษฐานจากการทารุณกรรม
ด้านนายจาตุรงค์ พากล้า อายุ 31 ปี พ่อได้ให้สัมภาษณ์ว่าตนเองได้เลิกกับแม่น้องกอหญ้านานแล้วต่อมาตนเองถูกดำเนินคดีและติดคุกซึ่งลูกสาวได้อยู่กับแม่ของตนเองที่จังหวัดภูเก็ตและได้เข้าโรงเรียนประจำ ซึ่งระหว่างที่ตนเองอยู่ในเรือนจำทางด้านยายของลูกสาวได้มาขอเอาไปเลี้ยงซึ่งแม่ของตนเองก็บอกว่าถ้าเอาไปแล้วก็เลี้ยงให้ดี แต่ถ้าเอากลับมาคืนก็จะแจ้งความจับ ซึ่งตนเองไม่เชื่อหรอกว่าลูกสาวตนเองจะล้มใส่กรงหมาและได้แยกกับแม่ของลูกสาวได้สามปีแล้ว และตนเองก็เลี้ยงลูกตนเองตลอดจนผมติดคุกและลูกสาวมีนิสัยร่าเริง ใครๆก็ชอบซึ่งตนเองสอนลูกสาวตลอด ซึ่งตนเองก็คุยกับลูกสาวบ้างซึ่งเมื่อตนเองโทรศัพท์ไปหาลูกสาวทางยายก็จะให้เปิดลำโพงและพูดนำลูกสาวตลอด ซึ่งเมื่อตนเองออกจากเรือนจำวันแรกตนเองถามหาลูกสาวก่อนเลยซึ่งถ้าผลชันสูตรศพออกมาว่าลูกสาวถูกทำร้ายจนเสียชีวิตตนเองก็จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเพราะลูกทั้งคนตนเองยอมไม่ได้
ด้านนางสาวณิชารีย์ แดหวา อายุ 26 ปี แม่ของน้องกอหญ้า บอกว่าน้องกอหญ้าเป็นคนร่าเริงและมาอยู่กับยายได้1 ปี ซึ่งเมื่อตนเองทำงานอยู่ที่ภาคใต้และเมื่อโทรศัพท์มาหาลูกสาวทางยายก็บอกว่าลูกสาวนอนแล้วและลูกสาวก็ไม่เคยฟ้องว่าถูกยายตีตอนมาส่งอยู่กับยายก็ร่าเริงปกติ และก็ไม่ทราบว่าสาเหตุการตายเกิดมาจากอะไร และตนเองก็ยังไม่เห็นบาดแผลลูกมีแต่กู้ภัยให้ดูเท่านั้นซึ่งตนเองก็ยังไม่เห็นบ้านใหม่ของแม่ว่าไปอยู่ที่ใหนซึ่งตอนนั้นพ่อของน้องมีปัญหาตนเองจึงไปรับมาเลี้ยงเองกับแม่และแม่ก็บอกว่าจะช่วยเลี้ยงให้ ส่วนตาก็เป็นสามีใหม่ของแม่
ซึ่งกำหนดการในวันนี้ นางสาวณิชารีย์แจ้งว่า จะมีการนำร่างไปจัดพิธีกรรมทางศาสนาที่วัดวัดชินวรารามวรวิหาร จังหวัดปทุมธานี แต่ยังไม่ได้มีการวางแผน ว่าจะจัดพิธีกรรมกี่วัน อย่างไรก็ตาม นางสาวณิชารีย์ ยืนยันขอรอข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ในชี้ตัวคนกระทำความผิด และปฏิเสธตั้งข้อสังเกตว่า ใครเป็นผู้กระทำ เพราะคิดว่าเธอเป็นคนกลาง จึงต้องละเอียดละอ่อนกับการตีความ เพราะอีกคนก็แม่ อีกคนก็ลูกสาว ขอให้กระบวนการ ทางหลักฐานเป็นเครื่องพิสูจน์ต่อไป
หลังมีการรับศพจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯในช่วงสาย ทางนางสาวณิชารีย์ ได้นำร่างของน้อยผู้เสียชีวิต ไปยังวัดชินวรารามวรวิหาร จังหวัดปทุมธานี โดยเบื้องต้น มีแผนจะมีการจัดฌาปนกิจในเย็นวันนี้ แต่พอมาถึงวัด ทางนางสาวณิชารีย์ ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า จะยังไม่เผาศพน้องกอหญ้าวันนี้ เพราะทางสถาบันนิติเวชฯ ได้ให้เอกสารรับรองการตาย และระบุข้อมูลการชันสูตรศพเบื้องต้นว่า “สมองกระทบกระเทือนจากศรีษะได้รับบาดเจ็บจากการทารุณกรรม” ซึ่งเป็นเพียงผลชันสูตรเบื้องต้นเท่านั้น ต้องรออีกประมาณ 45 วัน ถึงจะได้ผลชันสูตรเชิงลึกต่อไป ตนจึงไม่เผาในวันนี้ เพราะอาจจะเป็นการทำลายหลักฐานอะไรบางอย่าง ทั้งนี้เธอคิดยืนว่ารอผลชันสูตร โดยละเอียดก่อน ถึงจะสามารถหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงได้ หลังให้ข้อมูลเสร็จนางสาวณิชารีย์ ได้เดินทางไปแจ้งตายที่อำเภอสามโคก และนายจาตุรงค์ ภากล้า อดีตแฟน หรือพ่อของน้องกอหญ้า อายุ 31 ปี ได้เดินทางมายัง สภ.สามโคก เพราะคาใจเรื่องบาดแผลที่เกิดขึ้น และจะแจ้งความผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด
ล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าว่าหลังเกิดเหตุ พนักงานสอบสวนได้รวบรวมหลักฐาน พร้อมสากกระเบือที่ยายใช้ก่อเหตุ โดยยายให้การรับสารภาพว่า ตีหลานจริง แต่ไม่คิดว่าจะถึงชีวิต จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งเรือนจำจังหวัดปทุมธานี ส่วนศพของน้อง ทางแม่เด็กได้มารับไปไว้ที่วัดชินวราราม อ.เมือง จ.ปทุมธานี เป็นเวลา 15 วัน จึงขอฝากศพลูกสายไว้ที่วัดก่อน เพื่อไปทำงานหาเงิน ที่จ.ภูเก็ต ก่อนจะกลับมาประกอบพิธีฌาปนกิจน้องต่อไป
