หนุ่มเมากร่างกลางร้านโต้รุ่ง ใช้เท้าถีบลูกค้าล้มคว่ำคาโต๊ะ ก่อนใช้อาวุธปืนยิงใส่ กระสุนพลาดถูกขอบฟุตบาธ เหยื่อโร่แจ้งความ
เมื่อช่วงเที่ยงคืน วันที่ 8 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา ร.ต.อ.วัลลภ ยั่งยืน ร้อยเวร สภ.เมืองพัทลุง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณหน้าร้านโต้รุ่งกลางเมืองพัทลุง ห่างจากป้อมตำรวจประมาณ 60 เมตร หลังได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่ร้าน ลูกค้าพร้อมพนักงานในร้านพากันวิ่งหนีเอาชีวิตรอด โชคดีกระสุนพลาดไปโดนขอบฟุตบาธถนน ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบโต๊ะเก้าอี้ล้มอยู่จำนวน 1 ตัว มีผู้เสียหายจำนวน 3 คน ยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ตรวจสอบพบร่องรอยกระสุนปืนบริเวณฟุตบาธ จำนวน 1 จุด และมีปลอกกระสุนปืนขนาด .45 จำนวน 1 ปลอก ตกอยู่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
นายกีรติ มณีคันธวงศ์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 ถ.เขาแดง ต.คูหาสวรรค์ อ.เมือง จ.พัทลุง เล่าว่าก่อนเกิดเหตุตนพร้อมเพื่อนอีก 2 คน แวะทานข้าวที่ร้านโต้รุ่งดังกล่าว ซึ่งขณะนั้นมีลูกค้าที่นั่งอยู่ไม่มากนัก จู่ๆก็มีชายอายุประมาณ 30 ปี เดินมาด้านหลังมีลักษณะคล้ายคนเมาใช้เท้าถีบตนจนโต๊ะล้มคว่ำ อาหารหล่นกระจัดกระจาย ตนรีบลุกขึ้นและเดินเข้าไปถามว่าเรารู้จักกันไหม ชายคนดังกล่าวพูดจาคล้ายคนเมาตนจับใจความไม่ได้ จากนั้นชักอาวุธปืนขนาด .45 มม ทำท่าทีคล้ายจะตบตนด้วยปืน ก่อนจะเล็งมาบริเวณขาของตนและลั่นกระสุนยิงใส่ 1 นัด โชคดีกระสุนพลาดไปถูกฟุตบาธ เมื่อยิงเสร็จก็เดินไปขึ้นรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีขาวหมายเลขทะเบียน กฉ 863 พัทลุง ที่มีแฟนสาวยืนรออยู่ก่อนขับออกไปอย่างรวดเร็ว
นายกีรติฯ ยังเล่าอีกว่าขณะที่ตนพร้อมเพื่อนเดินเข้าในร้านเห็นชายคนดังกล่าวลักษณะผิวขาว ตัดผมเกรียน สูงประมาณ 175 ซม. นั่งดื่มอยู่ในร้านพร้อมแฟนสาวก่อนแล้ว และยังจำได้ว่าก่อนหน้านี้ก็นั่งอยู่ในสถานบันเทิงริมถนนสายเอเชียแห่งเดียวกัน โดยห่างจากโต๊ะตนเล็กน้อย แต่ชายดังกล่าวพร้อมแฟนสาวลุกออกจากร้านไปก่อน ตนไม่ได้สนใจเพราะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน จนกระทั่งสถานบันเทิงปิดตนพร้อมเพื่อนได้เดินออกไปขึ้นรถ ก็มีพี่ผู้ชายที่เป็นการ์ดดูแลความปลอดภัยของร้านเดินมาพูดกับตนว่า ก่อนหน้านี้ชายคนที่นั่งโต๊ะใกล้กับตน ได้ขับรถเก๋งสีขาวออกจากร้านและมีเสียงปืนดังขึ้นจำนวน 5 นัด ไม่มีผู้บาดเจ็บและความเสียหาย คาดว่าเป็นการยิงขึ้นฟ้า กระทั่งมาเจอที่ร้านโต้รุ่งอีกครั้งจนเกิดเหตุดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกันและมีเรื่องกันมาก่อน เพราะปกติตนทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ นานๆจะกลับมาบ้าน จึงนัดเพื่อนมาพบปะแต่ตนไม่ได้ดื่มเหล้า เพราะพรุ่งนี้ต้องไปวัดเพื่อทำบุญให้น้องชายที่เสียชีวิต และจะเดินทางกลับกรุงเทพฯในวันพรุ่งนี้ แต่มาเกิดเรื่องเสียก่อน
อย่างไรก็ตามผู้เสียหายทั้ง 3 คน เข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับชายดังกล่าวที่ สภ.เมืองพัทลุง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะเร่งหาหลักฐานเพิ่มเติมจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุและตามเส้นทางที่ผู้ก่อเหตุใช้หลบหนี เพื่อสืบหาและนำตัวผู้ก่อเหตุมาสอบสวนเพิ่มเติมและดำเนินคดีต่อไป