เมื่อเวลา 11.30 น วันที่ 25 พฤษภาคม นางสาวลินลี่ พิริยนันทพงศ์ อายุ 32 ปี พร้อมผู้เสียหายกว่า 20 คนเดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.สุทิน มีนำพันธุ์ รอง สารวัตร ( สอบสวน ) สน.บางชัน เพื่อ แจ้งความดำเนินคดีกับคลีนิกเสริมความงาม ย่านรามอินทรา ที่มีการเปิดแชร์รายวันทำศัลยกรรม และแชร์เงิน แล้วปิดไม่ยอมทำศัลยกรรม บางรายได้ทำแล้วนมเน่าแต่กลับไม่รับผิดชอบ เมื่อขอเงินคืนเงินอ้างเปลี่ยนเจ้าของคลีนิคใหม่แล้ว จนมีผู้เสียหายนับ 100 ราย มูลค่านับล้านบาท
นางสาวลินลี่ ตัวแทนผู้เสียหายเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนอยากทำหน้าอก จึงได้หาตามที่ลงโซเชียล จนพบคลีนิกแห่งนี้โฆษณาเปิดผ่อนศัลยกรรมหน้าอก จึงติดต่อสอบถามไปทางคลีนิก โดยข้อความรายละเอียดให้ส่งวันละ 200 บาท หากได้คิวทำแล้วต้องจ่ายวันละ 250 บาท โดยจะมีการจับฉลากคิวทำทุก 15 วัน วันละ 2 คน ตอนแรกยังไม่ได้ตัดสินใจ แต่พอได้ดูรีวิวพบว่าคลีนิดมีการดูแลลูกค้าดีจึงตัดสินใจ โดยตนเองผ่อนจ่ายไปทั้งหมด 55 งวด เป็นเงิน 11,000 บาท ซึ่งยังไม่ได้คิวทำ
แต่ปรากฏว่าเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เจ้าของคลีนิกที่ตั้งวงแช์ศัลยกรรมได้เสียชีวิตลง ตนจึงทักไปยังแอดมินวงแชร์เพื่อสอบถามว่าจะต้องทำยังไง จะต้องส่งต่อหรือทางคลีนิกจะคืนเงินที่ผ่อนไป แต่ปรากฏว่าทางคลีนิกส่งข้อความมาบอกว่าทางคลีนิกขอยุติแชร์ศัลยกรรม โดยอ้างว่าทางคลีนิกได้เปลี่ยนเจ้าของแล้ว
ที่ผ่านมามีผู้เสียหายบางรายเคยเข้าทำศัลยกรรมกับวงแชร์ศัลยกรรมแล้วปรากฏว่านมเน่า ผิดรูป ไม่เท่ากัน แต่ทางคลีนิกได้ปัดความรับผิดชอบแล้วให้ไปติดต่อกับทางญาติเจ้าของคลีนิกที่เสียชีวิต แต่เมื่อสอบถามทางแม่ผู้ตายไปกลับได้รับคำตอบว่าไม่รู้เรื่องการดำเนินธุรกิจของลูกให้ไปตามที่คลีนิก ที่ผ่านมาเราไม่ทราบว่าผู้ตายเป็นเจ้าของคลีนิแห่งนี้หรือไม่ เมื่อตรวจสอบทางคลีนิกพบว่ามีรายชื่อเจ้าของคลีนิกคนปัจจุบันมีการจดทะเบียนคลีนิกไว้ตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งตนก็ไม่เคยเห็นหน้าตา ตนอยากให้คลีนิกออกมาชี้แจงว่าจะรับผิดชอบให้กับผู้เสียหายอย่างไรไม่ใช่ปัดความรับผิดชอบกันไปมา
น.ส.กัญญารัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี หนึ่งในผู้เสียหายที่ทำศัลยกรรม กล่าวว่า ตนเองส่งเงินได้ครึ่งทาง 4 หมื่นกว่าบาท อยู่ๆแจ้งว่าเปลี่ยนเจ้าของแล้วยกเลิก ซึ่งตนขอเงินคืนแต่ถูกปฏิเสธ จึงส่งต่อจนได้ทำศัลยกรรมนม แต่ปรากฏว่าหลังจากที่ทำมาเมื่อจับที่นมตนเองแล้วโดนที่ซิลิโคน รู้สึกเจ็บ เมื่อถามกลับไปแจ้งว่าเป็นเรื่องปกติเดี๋ยวก็หาย จากนั้นตนได้เข้าไปคุยกับคนในกลุ่มที่ทำศัลยกรรมพบว่ามีหลายคนที่ทำแล้วมีผลกระทบ แต่ทางคลีนิกปัดความรับผิดชอบโดยบอกว่าคนที่ตายไม่ใช่เจ้าของคลีนิกแล้ว ที่ผ่านมามีผู้เสียหายที่ทำแล้วเกิดผลกระทบเยอะมาก แต่คลีนิกยังไม่รับผิดชอบใดๆ
ด้านร.ต.ท.สุทิน กล่าวว่า เบื้องต้นทางสน.บางชัน ได้รับเรื่องไว้และสอบปากคำเบื้องต้น แต่เนื่องจากผู้เสียหายมีจำนวนมาก จึงขอลงบันทึกเพื่อ ร้องทุกข์กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยความเสียหายแบ่งเป็น 2 ส่วนคือความเสียหายทางทรัพย์สินที่มีการออมเงิน จะเดินทางร้องทุกข์กับกองปราบปราม ส่วนความเสียหายจากการทำศัลยกรรมแล้วเกิดผลกระทบทางร่างกาย ก็จะเข้าร้องทุกข์กับ บก.ปคบ. เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป