เมียโร่แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าช่วยสามีหลังโดนจับตัวกักขังเรียกเงินค่ายาเสพติด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงสาย วันที่ 6 พ.ค.65 ที่ผ่านมา พ.ต.ท.วิรัตน์ จีนเมือง หน.ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด ภจว.พัทลุง นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในชุด ร่วมกับ พ.ต.ต.สมบัติ มุสิกิม สว.หน.สภ.โคกชะงาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบ ภาค 9 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ. โคกชะงาย วางแผนเข้าช่วยเหลือนายดุสิต หรือ เอ็ม อายุ 37 ปี และนายศักดิ์ดา หรือ เจ อายุ 25 ปี ทั้งคู่เป็นชาวตำบลโคกชะงาย อ.เมือง พัทลุง หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งจากนางกนกรัตน์ อายุ 40 ปี ภรรยาของนายเอ็มว่า นายเอ็ม และนายเจ ถูกนายอภิรัตน์ หรือติ๊ก อายุ 37 ปี กักตัวไว้ที่บ้านเลขที่ 123 ตำบลโคกชะงาย อ.เมืองพัทลุง เพื่อให้นำเงิน จำนวน 11,000 บาท ซึ่งอ้างว่าเป็นเงินที่ค้างค่ายาเสพติดไปให้ แล้วจะปล่อยตัวทั้งคู่
หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางแผนเข้าตรวจค้นที่บ้านหลังดังกล่าว พร้อมช่วยเหลือนายเอ็ม และ นายเจ ตัวประกันสำเร็จ ทั้งได้จับกุมตัวนายอภิรัตน์ หรือติ๊ก เจ้าของบ้าน ได้พร้อมอาวุธปืนสงคราม เอส เค 33 จำนวน 1 กระบอก ซองบรรจุกระสุนปืนขนาด 40 นัด จำนวน 2 ซอง และกระสุนปืนขนาด 5.56 จำนวน 184 นัด
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า ในช่วงเย็นของวันที่ 5 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา นายติ๊ก ขับรถยนต์เก๋งโตโยต้า สีดำ หมายเลขทะเบียน กต 2508 นครศรีธรรมราช ไปรับนายเอ็ม มาจากงานศพเพื่อนบ้านในพื้นที่ ตำบลโคกชะงาย เพื่อไปอยู่ที่บ้านหลังเกิดเหตุ และนายติ๊ก ยังวางแผนโทรไปหานายเจ บอกว่าให้เข้าไปรับนายเอ็ม ที่บ้านของตน ในช่วงเย็นวันเดียวกัน เมื่อนายเจไปถึงที่บ้านของนายติ๊ก ปรากฏว่า นายติ๊ก ไม่ยอมให้นายเอ็ม และนายเจ กลับบ้าน โดยอ้างจะต้องหาเงินให้ตนก่อน 11,000 บาท เป็นจังหวะกับที่ในช่วงตอนค่ำ นางกนกรัตน์ ฯ ภรรยานายเอ็ม โทรไปหานายเอ็ม เพราะเห็นว่าค่ำแล้วไม่กลับบ้าน นายเอ็มบอกว่า เขาอยู่ที่บ้านนายติ๊ก และนายติ๊ก ไม่ยอมให้กลับบ้าน โดยบอกว่าให้เอาเงินจำนวน 11,000 บาทไปให้นายติ๊ก เพื่อแลกกับการปล่อยตัว
นางกนกรัตน์ ฯ ภรรยานายเอ็ม พยายามหาเงิน แต่ยังหาไม่ได้ ตอนดึกนายเอ็ม โทรกลับมาที่ภรรยาของเขาอีกครั้ง โดยครั้งนี้ระบุว่า เขาถูกนายติ๊ก ซ้อมทำร้ายร่างกาย จนกระทั่งตอนเช้าด้วยความห่วงสามีนางกนกรัตน์ ฯ จึงเข้าไปขอความช่วยเหลือทางตำรวจ
นางกนกรัตน์ ฯ ภรรยานายเอ็ม บอกด้วยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงประมาณ 2 เดือนเศษ นายติ๊ก ใช้วิธีนำตัวนายเอ็ม มากักตัวไว้ที่บ้านแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งแรก เรียกเงิน 5,000 บาท และครั้งที่ 2 เรียกเงิน 7,000บาท ซึ่งทั้งสองครั้งก่อนหน้านี้ นายติ๊ก บอกว่านายเอ็มค้างค่ายาเสพติด ซึ่งตนก็นำเงินไปให้ทั้งสองครั้ง จนกระทั่งมารอบนี้ หาเงินไม่ได้จึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายเจ ฯ เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตนถูกนายติ๊ก หลอกให้เข้าไปรับนายเอ็มที่ บ้าน แต่กลับถูกนายติ๊ก ฯ ใช้อาวุธปืนยาวข่มขู่ ไม่ให้ตนและนายเอ็ม ออกจากบ้าน จนกว่าจะนำเงินหนึ่งหมื่นกว่าบาทให้เขาก่อน ไม่เช่นนั้นจะยิง หากเขาและนายเอ็ม ดื้อดึงจะออกจากบ้าน
ด้านนายติ๊ก เจ้าของบ้าน ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ยังให้การวกไปวนมา และอ้างว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกายนายเอ็ม และไม่ได้กักตัวนายเอ็ม และนายเจ แต่ยอมรับว่า ยอดเงิน 11,000 บาท เป็นยอดเงินที่ค้างค่ายาบ้าจริง แต่เป็นลูกเลี้ยงของนายเอ็ม ที่เป็นคนค้าง และยอมรับว่าเป็นคนไปรับนายเอ็ม มาที่บ้านด้วยตนเอง ส่วนอาวุธปืน ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดได้ก็ไม่ใช่ของตน ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปตรวจลายนิ้วมือดูว่าเป็นของใคร พร้อมให้การยอมรับว่าก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าจับกุมเขาเสพยาบ้ามาแล้ว 3 เม็ด
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัว ทั้งสามคนมาสอบปากคำที่ สภ.โคกชะงาย โดยละเอียดอีกครั้ง พร้อมแจ้งข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวกับนายติ๊ก และข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ส่วนอาวุธปืนหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ว่าเคยใช้ก่อเหตุในคดีไหนหรือไม่อย่างไร ทั้งจากการสอบประวัติ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบนายติ๊ก เพิ่งพ้นโทษในคดีพยายามฆ่ามาเมื่อปี 2561 และทั้งนายเอ็มและนายติ๊ก เคยถูกจับในข้อหายาเสพติดด้วย
