ตำรวจนำหมายศาลเข้าตรวจสอบบ้านเจ๊ข้าว

ตำรวจนำหมายศาลเข้าตรวจสอบบ้านเจ๊ข้าว ยอมรับไม่อยากให้เจ็บ แต่อยากให้จำ

วันที่ 3 พ.ค.65 พ.ต.อ.ไกรศร ศรีอำพร ผกก.สืบสวน จ.สระบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภูธรภาค 1 และสืบสวนเมืองสระบุรี กว่า 30 นาย เข้าตรวจค้น บ้านเลขที่ 29/71 ซ.7 หมู่บ้านพันดารา2 ม.2 ต.โคกสว่าง อ.เมือง จ.สรบุรี ตามหมายศาลจังหวัดสระบุรี เข้าตรวจค้น บ้าน น.ส.เพ็ญศิริ วิเชียร อายุ 32 ปี(เจ๊ข้าว) เพื่อหาพยานหลักฐานตามที่ผู้เสียหายได้ร้องต่อกองปราบว่า เจ๊ข้าว เป็นเจ้าแม่ปล่อยเงินกู้ เป็นท้าวแชร์ และมีพ่อเป็นผู้มีอิทธิพล ซึ่งจากการตรวจค้นไม่พบหลักฐานใดๆ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำผู้ที่อาศัยอยู่ภายในบ้าน 4 คนตรวจหาสารเสพติด ซึ่งผลการตรวจก็ไม่พบว่ามีฉี่สีม่วง พร้อมตรวจสอบ รถเบ็นซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 1 ขธ 9562 กรุงเทพมหานคร และรถเก๋งฮอนด้า สีขาว หมายเลขทะเบียน กร 5624 สระบุรี ซึ่งเป็นของ เจ๊ข้าว จากการตรวจสอบไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย

ซึ่งจากการตรวจค้นในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ นำสมุดหนังสือมอบอำนาจ เช็คเงินสดจำนวน 300,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่องซึ่งเป็นของ น.ส.เพ็ญศิริ(เจ๊ข้าว) และนาย จิรายุทธ บุญใจ(สามี) พร้อมด้วย เซฟเวอร์กล้องวงจรปิด เข้าไปตรวจสอบด้วย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เชิญตัว น.ส.เพ็ญศิริ และนาย จิรายุทธ (สามี) ไปยัง สภ.เมืองสระบุรี เพื่อสอบหาสาเหตุเกี่ยวกับการที่ไปยืนฉี่รดหน้านาย อนันตพล (อาร์ม)ถุงทรัพย์ จนนายอาร์ม ได้ไปร้องเรียนที่กองปราบปราม

ทางด้าน น.ส.เพ็ญศิริ (เจ๊ข้าว) เผยว่า อาร์มนั้นเป็นลูกน้องของตน คอยซื้อของให้ และเข้านอก ออกในบ้านได้ตลอด ซึ่งในวันนั้นอาร์มได้เอากระเป๋า แบรนด์เนม มาขายให้ 3 ใบในราคา 80,000 บาท ซึ่งกระเป๋าที่เอามาขายให้นั้นเป็นรุ่นที่ตนเองซื้อไว้แล้วทุกรุ่น ตนจึงได้บอกไปว่าสภาพของแบบนี้นะไม่ถึง 80,000 บาทหรอก ซึ่งอาร์มก็ถามกลับมาว่าจะให้ราคาเท่าไร ลองเสนอมา เราก็ไม่บอกไป เพราะไม่คิดที่จะซื้อ จากนั้นอาร์มได้ขึ้นสเตตัส ว่าคนจริงไม่พูดเยอะ 3 ใบ 90,000 บาท ทำเหมือนว่าขายได้แล้ว ซึ่งจริงแล้วกรเป๋า 3 ใบยังขายไม่ได้ ซึ่งตนก็รู้ว่าเป็นกระเป๋าของใคร และอยู่กับใคร ซึ่งลักษณะนิสัย ของ อาร์ม ถ้าใครที่ติดตามจะรู้ว่าเขามีปัญหากับคนไปทั่ว เหมือนคนที่ปากไม่ค่อยดี พอเราเห็นเขาโพสต์แบบนี้จึงเกิดความโมโห ว่าคุณส่งกระเป๋ามาขายให้เราแล้วมาโพสต์แบบนี้ ว่าเราหรือเปล่า ตนยอมรับว่าโมโหที่ถูกแขวะ ตนจึงบอกว่าขายกระเป๋าได้เงินแล้วให้เอาเงินมาใช้หนี้นะ เราก็ไม่คิดว่าจะถูกด่าขนาดนี้ คือด่าต่างๆ นาๆ จากนั้นก็มีการท้าทายกันยอมรับว่าเยี่ยวรดหน้าจริง เนื่องจากเจ็บใจที่ถูกท้าทาย แต่ตนเองไม่ได้นั่ง ซึ่งตนเองใส่ชุดนอน แล้วนุ่งผ้าเช็ดตัวยาวถึงเข่าทับอีกที แล้วก็เดินตั้งแต่เท้าขึ้นไปใบหน้า แล้วก็เดินลงมา ซึ่งตนยอมรับสารภาพว่าทำจริง แต่ไม่ได้นั่งฉี่กรอกปาก ซึ่งตนโมโหมากที่ถูกท้าทาย ว่าเราไม่มีปัญญา น้ำหน้าอย่างมึงจะทำอะไรกูได้ ซึ่งตนเองก็เลยทำแบบนี้ซึ่งไม่อยากให้เขาเจ็บตัว แต่อยากให้จำ ซึ่งตนมีความแค้นมากจึงได้ทำแบบนี้ออกไป ตนก็รู้ว่าที่ทำลงไปเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ และรู้ว่าที่ทำไปก็ผิด  ซึ่งตนก็ยอมรับในข้อกล่าวหาที่ทางตำรวจตั้งไว้ คือ หมิ่นประมาท ทำร้ายร่างกายโดยไม่ได้รุนแรง ดูหมิ่นโดยการโฆษณา ซึ่งทางตนก็ยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา

ส่วนในเรื่องกรณีของปั๊บนั้น เป็นเลขาของตน และโกงเงินตนเองมา 3 รอบแล้ว ตนก็ให้อภัยมาโดยตลอด ซึ่งเจ๊ปั๊บนี่โกงตนเองไปเยอะมาก และยอดเงินก็ไม่เป็นไปตามที่กล่าวอ้าง ตนเองจะไม่ขอพูดถึงปั๊บ แต่ตามเนื้อข่าวที่เขาพูดไม่มีมูลความจริงเลย ยอดเงินก็ไม่ตรง ตัวตนเองก็จะต้องปล่อยให้เป็นไปตามขบวนการของกฏหมาย แต่ที่บอกว่าเป็นหนี้ 50,000 นั้นไม่ใช่แน่นอน ซึ่งตนก็มีหลักฐาน และขอให้การกับตำรวจเป็นการส่วนตัว ซึ่งเงินที่ยืมไปในแต่ละครั้งเป็นเงินแสน ซึ่งครั้งแรกประมาณ 4-5 ปีมาแล้วตนเองไม่มีหลักฐานก็ยกยอดไป ซึ่งตอนนี้ยอดเงินคงเหลืออีกประมาณ 6 หมื่นกว่าบาท ครั้งที่ 2 เป็นเงิน แสนห้าหมื่น ใช้มาบ้างแล้วเหลือประมาณ แสนหนึ่งหมื่นบาท และครั้งที่ 3 ล่าสุดที่เลิกคบกันแล้วไล่ออกไป 6หมื่น แต่ใช้มาแล้วประมาณ 3หมื่น สรุปแล้วยังคงเหลือยอดอยู่อีกประมาณ แสนกว่าบาทซึ่งรายละเอียดตนเองไม่ขอพูดถึง

ทางด้าน พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.สระบุรี ซึ่งในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว น.ส.เพ็ญศิริ (เจ๊ข้าว) มาสอบสวน ซึ่งทางเจ๊ข้าวก็ให้การเป็นประโยชน์ กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทางเจ๊ข่าวก็ยอมรับว่าทำผิดจริง ตาที่มผู้เสียหายได้มาแจ้งไว้ ซึ่งก็จะดำเนินการตามกฎหมาย ในฐานความผิดที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งข้อกล่าวหายังอยู่ระหว่างการสอบสวนอยู่ เนื่องจากว่าทางตัวผู้เสียหายยังสอบสวนไม่เสร็จ ต้องรอสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมดก่อน และก็จะสอบสวนทั้ง 2 ฝ่าย พร้อมจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งเรื่องที่เกิดเป็นเรื่องที่ไม่ถูกใจกันจึงเกิดการทะเลาะกัน ซึ่งในเบื้องตนที่สอบสวนไว้ก็จะมี ข้อหาทำร้ายร่างกายไม่ถึงกับได้รับอันตรายแก่กาย และจิตใจ ดูหมิ่นซึ่งหน้า และหมิ่นประมาท ด้วยการโฆษณา ตามที่ข้อเท็จจริงปรากฏอยู่ในขณะนี้ ซึ่งจะต้องสอบสวนให้แน่ชัดอีกครั้ง ส่วนในเรื่องแชร์ หรือเงินกู้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะต้องตรวจสอบทั้งหมด ซึ่งจะต้องตามทางฝ่ายผู้เสียหายมาสอบสวนอีกครั้ง

ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ จังหวัดสระบุรี


Scroll to Top

แฉข่าวเด่น ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า