นายอำเภอทุ่งเสลี่ยมยืนยันกองทุนหมู่บ้านในอำเภอไม่มีนฤมลเป็นคนทำบัญชี
วันที่ 25 เมษายน 65 จากการเปิดเผยของนายกฤชทิพ ชะนิดไทย นายอำเภอทุ่งเสลี่ยม ถึงเหตุการณ์หายตัวไปอย่างของครอบครัวนายนิรุตน์ และน.ส.นฤมล พร้อมลูกอีก 2 คน และมีกระแสว่า น.ส.นฤมล ทำงานบัญชีให้กับกองทุนหมู่บ้าน หลายแห่งใน อ.ทุ่งเสลี่ยม นั้นทางตนเอง และเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจที่บ้านของครอบครัวนี้ ปรากฏว่าบ้านหลังดังกล่าวไปถูกปิดเงียบซึ่งตนเองก็ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งเสลี่ยม มาโดยตลอด สำหรับกระแสข่าวที่ว่าครอบครัวนี้ที่ได้หลบไปสาเหตุที่มีการหลบหนีของครอบครัวนี้ปัญหาน่าจะมาจากเรื่องเงินกองทุนหมู่บ้าน หนีหนี้หรือถูกทวงหนี้จึงหายตัวไปทั้งครอบครัวนั้น ตนได้มีการตรวจสอบข้อมูล ของครอบครัวนี้ และได้ตรวจสอบไปยังหน่วยงานราชการ กลุ่มออมทรัพย์ หรือกลุ่มกองทุนหมู่บ้านต่างๆในพี้นที่ อ.ทุ่งเสลี่ยม ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วและสอบถามข้อมูลจากกองทุนหมู่บ้านทุกกองทุนใน อ.ทุ่งเสลี่ยม ก็ไม่พบว่า น.ส.นฤมล มีรายชื่อหือเกี่ยวของในการทำบัญชีของกองทุนหมูบ้านแต่อย่างใด ยังอีกทั้งในโอกาสที่ตนเอง ได้ไปเป็นประธานเปิดการประชุมชี้แจงอบรมสามัญใหญ่ของกองทุนหมู่บ้านอำเภอทุ่งเสลี่ยม ก็ได้สอบถามในที่ประชุมพบว่าไม่เคยมีบุคคลเหล่านี้มาเกี่ยวข้องกับกองทุนหมู่บ้านแต่อย่างใต
ล่าสุดผู้สื่อข่าวทราบว่า น.ส.นฤมล เพ็ชรบุญ มีรายชื่อโผล่เป็นเลขานุการคณะกรรมการกลุ่มออมทรัพย์ เพื่อการผลิตบ้านไร่ ประทานกลองทุนหมู่บ้าน และ มีรายชื่อ น.ส.นฤมล เพ็ชรบุญ ในตำแหน่งเลขานุการ / บัญชี ในคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและสถาบันการเงินชุมชน หมู่ที่ 3 ต.บ้านไร่ อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย และทั้ง 2 กองทุนนี้มีนายล้วน บุญชู เป็นประทานกองทุนทั้ง2กองทุน
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้สื่อข่าวจะลงพื้นที่ตรวจสอบตามหาผู้เสียหายรายต่อไป เพื่อให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น หลังมีกระแสข่าวว่าน.ส.นฤมล นำเงินที่ระดมทุนมาจากนายทุนหลายรายไปหมุนเวียนซื้อทรัพย์สิน ส่วนตัวจำนวนหลายล้านบาท ทั้งบ้าน รถยนต์ รถบิ๊กไบค์ รถจักยานยนต์ไฟฟ้า และอื่นๆอีกหลายรายการ จนกลายเป็นหนี้สิน ซึ่งอาจทำให้เป็นสาเหตุให้ ครอบครัวของ น.ส.นฤมล นายนิรุตน์ และลูกต้องทำการหลบหนี จนสืบทราบว่าครอบครัวนี้ได้เดินทางออกนอกประเทศโดยเดินทางไปยังประเทศตุรกีแล้วเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา
ฤดี ธนวณิชย์วรชัย จังหวัดสุโขทัย