ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นประธานในพิธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม ยาเสพติด ขับขี่ปลอดภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2565 ณ ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
วันเสาร์ที่ 9 เมษายน 2565 พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นประธานในพิธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม ยาเสพติด ขับขี่ปลอดภัย ช่วงเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2565 โดยร่วมบูรณาการกับเจ้าหน้าที่ทหาร, ฝ่ายปกครอง, หน่วยงานต่างๆ , อาสาสมัคร และองค์กรภาคีเครือข่ายรณรงค์ ขับขี่ปลอดภัย พร้อมทั้งได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยมี พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่, พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมพิธี ณ ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. เผยว่า “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่ปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2565 เริ่มตั้งแต่วันที่ 13-17 เมษายน 2565 ซึ่งมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา และพักผ่อนในจังหวัดเชียงใหม่จำนวนมาก ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการสัญจรของประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ประกอบกับสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด19) ที่ยังไม่น่าไว้วางใจ ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่จึงได้ดำเนินการต่างๆภายใต้นโยบายรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค 5 ในการป้องกันอุบัติภัยทางถนน และยังคงเฝ้าระวังความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจากมิจฉาชีพที่อาจฉกฉวยโอกาสวันหยุดยาวนี้ในการก่ออาชญากรรม
ด้วยสาเหตุหลักของอุบัติเหตุคือ ความประมาท และ ขับขี่ด้วยความมึนเมา ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ จึงดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจภูธรภาค 5 ดังนี้ เน้นจับ 10 ข้อหา พ.ร.บ.จราจร บังคับใช้กฎหมายจราจร 10 ข้อหาหลัก (10 รสขม) ดำเนินคดีอย่างจริงจังกับผู้ที่ขับรถในขณะเมาสุรา ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด เข้มข้นบังคับใช้กฎหมายกับการขับขี่รถจักรยานยนต์ที่มีลักษณะก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ใช้รถใช้ถนน 5 ข้อหาสำคัญ ได้แก่ 1)ขับรถย้อนศร 2)ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร 3) ขับรถจักรยานยนต์บนทางเท้า 4)ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว และ 5)ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น และ บังคับใช้กฎหมายข้อหาที่เกี่ยวกับทางม้าลาย 1)การฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจร “เส้นทางข้าม” 2)ไม่ข้ามถนนตรงทางข้าม 3)จอดรถในทางข้าม 4)ขับรถโดยใช้ความเร็วบริเวณเส้นทางข้ามเกินกฎหมายกำหนด
จับตรวจแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ทุกรายกรณีเกิดอุบัติเหตุ มีการตรวจจับการกระทำผิดโดยตั้งจุดตรวจกวดขันวินัยจราจร จุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ตามมาตรฐาน (Standard Operation Procedure) รวมถึงการใช้ชุดสายตรวจจราจรออกตรวจในพื้นที่เสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุหรือมีสถิติการกระทำผิด และกรณีเกิดอุบัติเหตุ ตำรวจจะตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ทุกรายกรณีเกิดอุบัติเหตุ
เด็กดื่มเหล้าเมาขับรถ คนขายโดนด้วยกรณีเด็กอายุไม่ถึง 20 ปีถ้ามีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ให้ถือว่าเมาสุรา และเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการสอบสวนขยายผลในกรณีที่เด็กหรือเยาวชนดื่มสุราแล้วมาขับรถ เพื่อดำเนินคดีกับผู้ขายสุราตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ และดำเนินคดีกับบุคคลที่ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอม ให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรฯ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ และบังคับใช้กฎหมาย พ.ร.บ.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 อย่างเข้มงวด (การห้ามจำหน่ายสุราในเวลาห้าม และ ห้ามดื่ม-ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในสถานที่กฎหมายกำหนด และห้ามขายให้บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี)
โดยนอกจากอุบัติเหตุทางถนนแล้ว ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ใคร่ขอฝากความร่วมมือประชาชนในการป้องกันอาชญากรรม การประทุษร้ายต่อทรัพย์ หรืออันตรายที่จะเกิดขึ้นในช่วงวันหยุดยาวดังกล่าว โดยเฉพาะ ดังนี้
1)การออกจากบ้านพักโดยทิ้งเด็ก ผู้สูงอายุอยู่บ้านเพียงลำพัง ให้มีการแจ้งเตือนถึงภัยจากกลุ่มมิจฉาชีพที่เข้ามาและใช้อุบายแอบอ้างในรูปแบบต่างๆ
2) การออกไปทำธุระนอกบ้านหรือท่องเที่ยว ไม่ควรใส่เครื่องประดับ หรือวางทรัพย์สินมีค่าไว้ในรถยนต์อันเป็นเหตุจูงใจให้มีการประทุษร้ายต่อทรัพย์ได้ง่ายรวมทั้ง ให้ระมัดระวังการถูกมอมยาเพื่อปลดทรัพย์ การใช้ธนบัตรปลอมในการใช้จ่ายซื้อสินค้า
3)เพิ่มความระมัดระวังการถูกโจรกรรมเงินจากบัตรเอทีเอ็ม (Skimmer) โดยหลีกเลี่ยงการกดเงินจากตู้เอทีเอ็มที่อยู่บริเวณที่เปลี่ยว ไม่มีคนพลุกพล่าน ไม่มีแสงสว่างเพียงพอและไม่มีกล้องวงจรปิด
ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ขอประชาสัมพันธ์และขอความร่วมมือจากประชาชนทุกท่าน ร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเดินทางอย่างสุขใจกับชีวิตวิถีใหม่ ห่างไกลอุบัติเหตุ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2565 และหากพบปัญหาด้านการจราจร สามารถแจ้งได้ที่ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 หรือศูนย์วิทยุจราจรเชียงใหม่ 053-235-595 ตลอด 24 ชั่วโมง.
