เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 23 ก.พ. พ.ต.ต.นาวิน สนิทผล สารวัตร(สอบสวน) สน.ดอนเมือง รับแจ้งเหตุเด็กพลัดตกบ่อปลาคาร์ฟ ภายในโรงงานท้ายซอยโกสุมรวมใจ 36 แยก 17 แขวงและเขตดอนเมือง กทม.จึงรุดตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงดอนเมือง หน่วยกู้ชีพมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุอยู่ภายในบริษัท อาร์ บี ครีเอชั่น จำกัด เลขที่ 53 ซึ่งประกอบกิจการทำกระเป๋า เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงก็พบคนงานกำลังช่วยกันปั๊มหัวใจ ด.ช.วายุ อายุ 1 ปี 11 เดือน สัญชาติเมียนม่า เพื่อช่วยชีวิต จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงเร่งให้การช่วยต่อโดยใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจใช้เวลากว่า 30 นาทีไม่เป็นผลเด็กไม่มีชีพจร ทำให้ทั้งพ่อและแม่เด็กรวมถึงคนงานชาวเมียนม่า ร้องไห้ระงมเป็นที่น่าสลดใจ
จากการสอบถามคนงานให้การว่าก่อนหน้านี้เวลาประมาณ 09.00 น. นางสาวนาน อี๊ปิว อายุ 33 ปี สัญชาติเมียนม่า ได้นำด.ช.วายุ มานั่งป้อนข้าวหน้าบ่อปลาคาร์ฟ ยาว 7 เมตร กว้าง 2.5 เมตร ลึก 65 เซนติเมตร หลังป้อนข้าวเสร็จทางแม่ก็ได้กลับไปทำงานเย็บกระเป๋าในโรงงานซึ่งห่างกันประมาณ 10 เมตร กระทั่งเจ้าของโรงงานมาพบเด็กนอนหงายอยู่ในบ่อปลาจึงช่วยกันนำขึ้นจากบ่อและแจ้งเจ้าหน้าที่มาให้การช่วยเหลือ
ปกติแล้วเด็กจะมีพี่เลี้ยงดูแลตลอดโดยจัดพื้นที่ให้อยู่อีกฝั่งของตัวโรงงาน ซึ่งจะมีรั้วกั้นไม่ให้เด็กข้ามมาตรงบ่อปลาได้เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุไม่ดี แต่วันนี้แม่เด็กได้พาน้องวายุ มานั่งป้อนข้าวฝั่งทางเข้าที่มีบ่อปลาหลังป้อนเสร็จตัวของแม่ก็ได้กลับเข้าไปทำงานแล้วปล่อยให้น้องวายุ เล่นรถม้าที่เพิ่งซื้อมาเมื่อวานเพียงลำพัง ปกติแล้วจะไม่ค่อยให้เด็กมาเล่นแถวนี้เพราะจะเป็นทางขึ้นของ และมีรถวิ่งเข้าออกตลอดทั้งวัน ตอนเกิดเหตุก็ไม่มีใครเห็นว่าน้องตกไปในบ่อตั้งแต่เมื่อไหร่
พ.ต.ต.นาวิน กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นคาดว่าหลังแม่เด็กทำการป้อนข้าวเสร็จก็ปล่อยเด็กเล่นอยู่คนเดียว ซึ่งเด็กอาจจะพยายามที่จะไปดูปลาในบ่อที่ไม่มีอะไรกั้นขอบบ่อก่อนจะพลัดตกลงไป อย่างไรก็ตามจะส่งศพไปตรวจพิสูจน์การเสียชีวิตที่นิติเวชรพ.ภูมิพลอดุลยเดช เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตและส่งมอบญ่ตินำกลับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป