หายไปหลายปี วนเวียนกลับมาอีกแล้วแก็งค์หลอกขายขนมเก่า พอเผลอแอบเป็นโจร หยิบของมีค่าในร้านหรือไม่หลอกขายขนมเก่าเสียหมดอายุ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 โดยมีผู้ใช้ facebook ชื่อสุรีรัตน์ อินทศรี โพสต์ข้อความพร้อมทั้งคลิปและภาพนิ่งที่ปรากฏเป็นชายใส่เสื้อแขนสั้นสีส้มกางเกงยีนส์ขายาวขับรถกระบะสีแดงมาจอดหน้าบ้านพร้อมทั้งหิวขนมที่เป็นข้าวเกรียบ และ ป๊อปคอร์นมาเสนอขายสินค้าให้ โดยมีรายละเอียดที่โพสต์ใน facebook ว่า “เตือนภัยพ่อค้าแม่ค้านะคะ รถสีแดง มี 2 ผัวเมียทำทีมาลงขนม ชวนคุยนู่นนั่นนี่ ไปหลอกเอาเงินจากป้าที่แกอยู่ร้านคนเดียวไม่ค่อยรู้เรื่องหลอกแกว่าจะเอาชั้นมาให้ลงขนมไว้ให้ก่อนได้เงินไป1,500 ขนมมีแต่ของเก่าๆเสียดายกล้องเรามองไม่เห็นป้ายทะเบียน”
ล่าสุดวันนี้ 18 ก.พ.65 ผู้สื่อข่าวจึงเดินทาง ที่ร้านขายของที่สามารถบันทึกคลิปเหตุการณ์ไว้ได้ ซึ่งอยู่บ้านหนองตะกวด ม.5 ต.โคกไทย อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี ไปสอบถามนางสาวสุรีรัตน์ อินทศรี อายุ 23 ปี โดยนางสาวสุรีรัตน์ได้กล่าวว่า มิจฉาชีพมาประมาณช่วง 09:00 น เอาขนมพวกข้าวเกรียบป๊อปคอร์น โดยมากัน 2 คนเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายอายุประมาณสามสิบกว่าปี ซึ่งทางร้านไม่ได้รับซื้อไว้เพราะที่ร้านไม่รับลงของกับพวกขายของจร ซึ่งจากอาการของคนที่นำขนมมาขายนั้นเดินลงมาจากรถก็มีอาการเซเหมือนคล้ายกับคนเมามา ซึ่งป้าสายคนที่เสียรู้ให้กับมิจฉาชีพเดินทางออกมาบอกกับตน จึงได้เปิดกล้องวงจรปิดดูทั้งนี้นางสาวสุรีรัตน์ยังได้กล่าวถึงมิจฉาชีพ 2 รายนั้นว่า ให้ทำมาหากินสุจริตกว่านี้หน่อยนะคะอย่าเอาเปรียบคนอื่นเพราะคนอื่นเขาก็ลำบากเหมือนกัน
จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปสอบถามป้าสายผู้ที่เสียรู้ให้กับมิจฉาชีพโดยเสียเงินไปเป็นจำนวนเงิน 1,500 บาท โดยร้านป้าสายอยู่ห่างกับร้านนางสาวสุรีรัตน์ประมาณ 500 เมตร พบว่าเป็นร้านขายของชําเล็กๆอยู่ริมถนนโดยภายในร้านยังพบสามีของป้าสายซึ่งป่วยติดเตียงอยู่ภายในบ้าน จากการสอบถามนางสาย สุรพล อายุ 53 ปี 344 ม.5 ต.โคกไทย อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี โดยป้าสายได้กล่าวว่า มิจฉาชีพเขาจะมาลงขนมให้เขาจะเปลี่ยนขนมให้ถ้ามันเสีย และมีการเสนอชั้นวางของให้แต่ต้องซื้อของในวงเงิน 2,000 ตนก็บอกว่าไม่ลงถึง 2,000 บาทหรอกตนจะลงแค่ 1,500 บาทเพราะมีเงินแค่นั้น ทางมิจฉาชีพจึงตอบตกลงว่า1500 ก็เอา
หลังจากนั้นจึงนำขนมลงมาให้ โดยขนมมีถั่วตัด 1 แผง ข้าวเกรียบ 2 พวง ข้าวโพดอบ 2 พวง ปลาหวาน 1 แผง บ๊วยดอง 1 แผง ถั่วตัด 1 แผง ลูกโป่ง 1 แผง ลูกแก้ว 1 แผง พอจ่ายเงินให้กับมิจฉาชีพในนั้นแล้วเขาก็บอกว่าจะเดินทางไปเอาชั้นวางของมาให้ โดยบอกว่า 13:00 น จะนำชั้นและขนมมาเปลี่ยนให้ ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็เงียบไปเลย จึงคุยกับหลานๆว่าโดนคนโดนหลอกแล้วล่ะ ทั้งนี้ก่อนที่มิจฉาชีพรายนั้นจะออกไปยังซื้อของที่ร้านโดยมีเบียร์ 1 ขวด มีเหล้าและเอ็มร้อยอีกขวด โดยป้าสาย ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอให้มิจฉาชีพอย่าไปทำกับใครกับที่อื่นเลย ให้จบแค่นี้พอเพราะกว่าจะขายของได้กำไรแต่ละบาทต้องขายเป็นอาทิตย์ ถึงจะได้เงินถึง 1,500 บาท ซึ่งหลังจากนี้ตนจะเดินทางไปแจ้งความที่สภ.ศรีมโหสถ เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามมิจฉาชีพรายนี้มาลงโทษตามกฎหมายต่อไป
ข่าว-ภาพ สายชล หนูแดง ดิเรกฤทธิ แสงสุวรรณ / ปราจีนบุรี
