น้องซัน โดนงูเห่ากัดพ้นขีดอันตรายแล้ว พ่อเผยเป็นบทเรียน

น้องซัน ด.ช.วัย 2 ขวบ ที่ถูกงูเห่ากัดข้อมือขวา ระหว่างพ่อพามาเยี่ยมบ้านยายที่ อ.โนนดินแดง บุรีรัมย์ พ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ต้องเฝ้าระวังการติดเชื้อ พ่อเผยดีใจลูกดีขึ้น ถือเป็นบทเรียนราคาแพงที่ปล่อยให้ลูกเล่นโดยไม่ตรวจสอบรอบด้าน ขณะแพทย์แนะวิธีการปฐมพยาบาลเมื่อถูกงูพิษกัด

วันที่ 10 ก.พ.65 กรณีเฟชบุ๊คชื่อ “Munggie D Lufie “ได้โพสต์คลิปภาพลูกชายระหว่างนั่งเล่นดิน และคลิประหว่างการรักษาที่โรงพยาบาล พร้อมระบุข้อความเตือนภัยเนื่องจากลูกชายถูกงูเห่ากัด ชื่อด.ช.ปุณณพัฒน์ หรือน้องซันซัน กังสดาล อายุ 2 ขวบ 5 เดือน ตอนนี้ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนางรอง ล่าสุดอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่หมอต้องให้เฝ้าดูอาการเพื่อป้องกันการติดเชื้อ

นายกังสดาล กังสดาล อายุ  45 ปี เลขที่ 153  ซ ประชาอุทิศ 5 แยก 3-3 แขวงดอนเมือง ดอนเมือง กรุงเทพฯ พ่อน้องซัน ซัน เล่าว่า ตนมีลูก 2 คน คนเล็กอายุ ขวบเศษ ให้ฝากให้แม่ภรรยาเลี้ยงที่บ้านโคกเพชร อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ และเมื่อวันที่ 8 ก.พ.ได้พาน้องซัน มาเยี่ยมยายและเยี่ยมน้องที่บุรีรัมย์ หลังจากมาถึงบ้านแม่ยาย น้องซัน ซึ่งไม่เคยเล่นดินมาก่อน มาเห็นดินจึงไปคุ้ยเขี่ยเล่นตามประสาเด็ก จึงเอาโทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปไว้ หลังจากนั้นเวลาประมาณ 19.00 น.ได้นั่งล้อมวงกินข้าวกับครอบครัว แต่ยังปล่อยให้น้องซัน เล่นดินต่อให้หนำใจ แต่ห่างกันประมาณ 5 เมตร ทันใดนั้นได้ยินเสียงลูกร้องจ๊าก จึงคิดว่าน่าจะถูกแมลงอะไรกัด จึงวิ่งเข้าไปดู พบบริเวณข้อมือขวา มีแผลเขี้ยวสัตว์ 2 เขี้ยว รู้ทันทีเป็นเขี้ยวงู จึงรีบเอาผ้ารัดข้อมือน้องไว้

จากนั้นได้เปิดแผ่นปูนฝาท่อที่แม่ยาย วางเอาไว้เป็นทางเดินขึ้น พบงู 1 ตัว ตรวจสอบแล้วเป็นงูเห่า จึงตีงูให้ตายแล้วใส่ถุง พาลูกชายพร้อมกับงูส่งโรงพยาบาลโนนดินแดง แล้วถูกส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลนางรอง ซึ่งเป็นโรงพยาบาลใหญ่กว่า ตอนนี้รู้สึกสบายใจขึ้น ที่ลูกพ้นขีดอันตรายแล้ว และจะจำประสบการณ์นี้ไปจนวันตาย จึงอยากจะฝากเตือนผู้ที่เลี้ยงเด็กเล็ก ให้ระวังเรื่องพื้นที่ที่เด็กจะเล่น ว่าน่าจะมีสัตว์มีพิษไปอาศัยอยู่หรือไม่ เพราะท่านอาจจะไม่โชคดีเหมือนตน ที่ลูกปลอดภัย

ด้านนายแพทย์ กฤตยา อู่วิเชียรอง ผอ.รพ.นางรอง กล่าวว่า งูเห่าเป็นสัตว์มีพิษ เบื้องต้นถ้าถูกงูมีพิษกัด เบื้องต้นควรจะทำความสะอาดแผล  ด้วยน้ำสะอาด ,น้ำเกลือ หรือใช้แอลกอฮอล์เช็ดแผล แล้วรีบส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด ไม่ควรจะใช้เหล้า ไปเทใส่แผล หรือใช้ปากดูด เพราะจะทำให้แผลติดเชื้อปนเปื้อนได้ ควรใช้ผ้ารัดเหนือแผลเพื่อไม่ให้พิษงูวิ่งไปหาหัวใจได้ช้าลง แต่ไม่ควรรัดแน่นจนเกินไป สำหรับงูจะมีพิษอยู่ 2 ชนิด คือมีผลต่อประบบปราสาท และมีผลต่อระบบหลอดเลือด ส่วนงูที่กัดน้องซันเป็นงูเห่าพิษจะมีผลต่อระบบปราสาท ทั้งนี้ถ้าได้ตัวงูที่กัดมาให้แพทย์ดู จะรักษาได้เร็ว สำหรับอาการน้องซัน ตอนนี้อาการปลอดภัยแล้ว แต่จะต้องเฝ้าดูการติดเชื้อ

วาทิตย์ แสนธุปี/ ผู้สื่อข่าวบุรีรัมย์


Scroll to Top

แฉข่าวเด่น ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า