จากกรณีที่มีชายขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างตระเวณลักทรัพย์และขโมยตู้เติมเงินโทรศัพย์ของชาวบ้านในพื้นที่ บ้านสระดู่ ต.กบินทร์ ต.นนทรี บ้านโคก ต.หนองกี่ และล่าสุดเป็นร้านของสาวใน ต.วังตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี และได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
คืบหน้าวันที่ 31 ม.ค.65 ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.กบินทร์บุรี ได้รวบรวมพยานหลักฐานและตรวจสอบจากภาพกล้องวงจรปิด และพยานหลักฐานอื่นๆในที่เกิดเหตุ ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กบินทร์บุรี นำโดย พ.ต.ต. นิติพัฒน์ เหมะกุลเศรษฐ์ สว.สส.สภ.กบินทร์บุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.กบินทร์บุรี สามารถติดตามตัวผู้ต้องสงสัยและได้จับกุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้ได้ในขณะที่ผู้ต้องสงสัยกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น เวฟิ125 เอ็กซ์ พ่วงข้าง สีดำแดง หมายเลขทะเบียน 1 กฒ 7239 อยู่บนถนนทางหลวงหมายเลข 33 บริเวณทางเข้าหมู่บ้านเกาะแดง ม.5 ต.นนทรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ทางเจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวและขอตรวจค้นพบมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีขาวใส จำนวน 3 ถุง มีน้ำหนักรวมสุทธิ 2.82 กรัม พร้อมทั้งยังพบเครื่องมือช่างสำหรับใช้งัดแงะซุกซ่อนอยู่ภายในรถด้วย และยังพบเสื้อผ้าและรองเท้าที่ใส่ก่อเหตุงัดห้องฟิตเน็สของสองสาว 2 พี่น้องที่ ต.วังตะเคียนอีกด้วย
ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมและนำตัวมาทำการสอบสวนที่ สภ. กบินทร์บุรี ทราบว่าได้มีการไปลักทรัพทย์(ตู้เติมเงินบุญเติม) ที่ร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ในซอยข้างปั๊ม ปตท.สระดู่ ม.6 ต.กบินทร์ , ตู้เติมเงินสบาย ม.5 ต.นนทรี , ตู้เติมเงินบุญเติม ทางเข้าบ้านเลียบ ต.เมืองเก่า , และร้าน 20 บาท อร่ามเรืองเครื่องครัว ม.8 ต. เมืองเก่า โดยรถจักรยานยนต์พ่วงข้างคันดังกล่าวนี้จะมีเพื่อนอีกคนนึงเอาไปใช้ก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับเพื่อนำตัวมาดำเนินคดี ส่วนนายสมชาย บุญเจิด (ผู้ต้องหา) ได้ให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจริง
จากการสอบถาม นายสมชาย หรือชาย บุญเจิด อายุ 46 ปี (ผู้ต้องหา)อยู่บ้านเลขที่ 376 ม.3 ต.ทุ่งโพธิ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่าตนจะตระเวนขับรถหาดูตู้ที่อยู่ในจุดที่อับสายตาและไม่มีคนพลุกพล่านมืดๆหน่อยจึงลงมือขโมย ตนนั้นได้ทำมาหลายครั้งแล้วจะตระเวนขโมยในเขตพื้นที่ อ. กบินทร์บุรี เท่านั้น เงินที่อยู่ในตู้นั้นมีไม่มากบางตู้ก็ได้เงินประมาณ 1-2 พันบาท ส่วนเงินที่ได้ตนนำไปซื้อข้าวซื้อน้ำทาน สาเหตุที่ทำเพราะตนไม่มีงานทำเป็นหลักเป็นแหล่ง ส่วนตู้นั้นจะนำไปโยนทิ้งไว้ในที่ที่ลับตาคน ล่าสุดตนได้ไปก่อเหตุในพื้นที่ ต.วังตะเคียน ได้ดัมเบลและรองเท้าไป
โดยพฤติกรรมของผู้ต้องหารายนี้นั้นหลังจากที่ได้มีการขโมยตู้เติมเงินและนำตู้ใส่พ่วงข้างแล้ว ได้ใช้ผ้าคลุมตู้ไว้เพื่อปกปิดไม่ให้ใครเห็นว่าในรถนั้นมีอะไร ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 1คนเจ้าหน้าที่ทราบชื่อที่อยู่แล้ว เบื้องต้นได้เข้าไปที่บ้านแต่ยังไม่พบตัวซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการติดตามตัวเพื่อมาดำเนินคดีต่อไป
ข่าว-ภาพ สายชล หนูแดง ทัตธน เหล่าหล้า /ปราจีนบุรี