จากกรณี ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ผบ.หมู่ กองร้อยที่ 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน ขับบิ๊กไบค์ยี่ห้อ ดูคาติ รุ่นมอนสเตอร์ ทะเบียน 1 กผ 9942 เชียงราย พุ่งชน พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือหมอกระต่าย จักษุแพทย์ ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขณะกำลังเดินข้ามทางม้าลาย จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต ตามที่เป็นข่าว
วันนี้ 28 ม.ค. บริเวณทางม้าลายหน้าสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ ถนนพญาไท แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุดังกล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.ฉัตรชัย นันทมงคล ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง สํานักงานพิสูจน์หลักฐานตํารวจ สํานักงานตํารวจแห่งชาติ พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ ได้รับการประสานจากพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ได้เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุบริเวณทางม้าลาย หน้าโรงพยาบาลสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ โดยนำตลับสายวัดและอุปกรณ์ทางเทคนิค มาวัดระยะทาง จุดถนน ความกว้าง และทางยาวของถนน เพื่อนำไปคำนวนระยะทางและความเร็วรถจักรยานยนต์ระหว่างเกิดเหตุ
พล.ต.ต.ฉัตรชัย เปิดเผยว่า ได้รับการประสานจาก สน.พญาไท เพื่อลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบรายละเอียดสถานที่เกิดเหตุ เพื่อนำข้อมูลประกอบสำนวนคดีให้มีความรัดกุมมากขึ้น โดยเฉพาะการตรวจวัดระยะทางบนถนน ตามจุดช่วงเริ่มต้น จนมาถึงจุดเกิดเหตุ เพื่อคำนวณหาความเร็วของรถขณะเกิดเหตุ แม้ว่าข้อมูลหลักฐานนี้จะสามารถตรวจสอบได้จากกล้องวงจรปิด แต่เพื่อความชัดเจนจึงจำเป็นต้องลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบจากสถานที่จริง ซึ่งวันนี้เป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ก่อนหน้านี้ ทางสน.พญาไท ได้มีการประสานมาตลอด แต่เป็นการประสานเพื่อตรวจสอบในส่วนของรถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นการตรวจสอบตามลำดับ ทั้งนี้หากยังพบข้อสงสัยอื่นๆ ก็อาจมีการตรวจสอบเพิ่มเติม
พล.ต.ต.ฉัตรชัย กล่าวยืนยันอีกว่า เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ทำงานมาตลอดและมีการตรวจสอบรถจักรยานยนต์คันที่เกิดเหตุไปแล้ว ซึ่งในส่วนของการตรวจสอบพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมทั้งผลความเร็วรถจักรยานยนต์ในวันเกิดเหตุ มั่นใจว่าจะอยู่ภายในกรอบระยะเวลา 30 วัน จะสามารถสรุปผลได้ ส่วนการตรวจสอบจากสถานที่จริง แม้ว่าในวันนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงสภาพไปจากวันเกิดเหตุ เช่น สีของท้าม้าลายที่มีการทาใหม่ แต่ถือว่าไม่ใช่อุปสรรคเพราะก่อนหน้านี้ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานไปแล้วโดยจะดำเนินการตรวจสอบอย่างเต็มที่และดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาขอรับรอง
