ปลูกต้นดอกเข้าพรรษาสร้างรายได้ ช่วงประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา หนึ่งเดียวในโลก
วันที่ 7 ก.ค.65 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยัง ไร่นิรากรณ์ เลขที่ 14 ม.8 ต.พุคำจาน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ซึ่งเป็นบ้านของ นาย สละ นิรากรณ์ ซึ่งเป็นเกษตรกร ที่เปิดเป็นศูนย์เรียนรู้การพัฒนาที่ดินประจำตำบล บนพื้นที่กว่า 20 ไร่ โดยแบ่งพื้นที่ 7 ไร่ ปลูกต้นดอกเข้าพรรษาสีขาว หรือมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า หงส์เหิน เป็นพืชที่มีลำต้นเป็นหัวใต้ดินประเภทรากแบบ Rhizome เป็นรากแบบสะสมอาหาร กาบใบที่เรียงตัวแน่นทำหน้าที่เป็นต้นเทียมเหนือดิน ลักษณะเป็นกลุ่มกอ มีความสูงอยู่ที่ 30-70 เซนติเมตร ใบของดอกเข้าพรรษามีลักษณะเรียวยาวรูปใบคล้ายหอก เหมือนใบกระชาย ขนาดของใบประมาณ 10X25 เซนติเมตร ส่วนดอกแทงจากยอดเป็นช่อโค้ง ลักษณะห้อยตัวลงอย่างอ่อนช้อย มีหลากหลายสีสวยงาม พร้อม ทั้งมีรูปทรงของช่อดอกและกลีบที่แตกต่างกันออกไป
ด้วยลักษณะพิเศษเหล่านี้จึงเป็นไม้ที่ได้รับความนิยม และนำมาปลูกเพื่อความสวยงาม และนำมาตักบาตรแด่พระสงฆ์ในวันเข้าพรรษา ซึ่งหลังจากพระสงฆ์รับบิณฑบาตจากประชาชนแล้ว จะนำดอกเข้าพรรษามาสักการะรอยพระพุทธบาท ตามความเชื่อตามความเชื่อจะส่งผลบุญให้ผู้ทำบุญตักบาตรได้ขึ้นสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ โดยดอกเข้าพรรษา หนึ่งปีจะออกดอกเพียงครั้งเดียว เฉพาะในช่วงเทศกาลวันเข้าพรรษาเท่านั้น ตั้งแต่โบราณกาลชาวอำเภอพระพุทธบาทจะพากันไปเก็บดอกเข้าพรรษาตามไหล่เขาโพธิลังกา หรือเขาสุวรรณบรรพต เทือกเขาวง และเขาพุ ในเขตอำเภอพระพุทธบาท เพื่อมาตักบาตร แต่ในปัจจุบันเกษตรกรได้พัฒนาการปลูกดอกเข้าพรรษาได้ ซึ่งสามารถปลูกได้ทั้งปี สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูก ซึ่งดอกเข้าพรรษาจะมีสีหลายสีด้วยกัน ประกอบด้วย สีม่วง สีเหลือง สีแดง และสีขาว
ทางด้านนาย สละ นิรากรณ์ เกษตรกรผู้ปลูกต้นดอกเข้าพรรษา เผยว่าตนเองปลูกดอกเข้าพรรษา ในเชิงพานิช และเป็นแหล่งท่องเที่ยว(ศูนย์การเรียนรู้) โดยใช้พื้นที่ปลูกประมาณ 7 ไร่ในการปลูกซึ่งในอนาคตจะปลูกเพิ่มเป็น 20 ไร่ โดยจะมีการกางสแลนกันแดดให้ต้นดอกเข้าพรรษา เนื่องจากต้นดอกเข้าพรรษาไม่ต้องการแสงแดดที่แรงจัด ต้องการแดดเพียงแค่ 30% ส่วนที่ปลูกเฉพาะพันธุ์ทีมีสีขาว เนื่องจากว่าสายพันธุ์สีขาว มีความทนต่อความแห้งแล้ง และสามารถออกนอกฤดูการได้ และอยู่กับธรรมชาติได้มากกว่าสายพันธุ์อื่นๆ มีความทนต่อสภาพอากาศที่ร้อนซึ่งเป็นพันธุ์ที่นำเข้ามาจากประเทศพม่า หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หงส์เหิน ซึ่งมีลักษณะ งอคล้ายๆกับหงส์ ส่วนสีอื่นๆก็มีโครงการที่จะปลูกอยู่ อย่างสีม่วงต้นทุนจะสูง หัวพันธุ์แพง ความอ่อนไหวเยอะ ซึ่งถ้าปีหน้าการตลาดไปได้ดีก็จะมีการปลูกเพิ่มขึ้น โดยธรรมชาติของดอกหงส์เหิน แล้วจะชอบขึ้นตามใต้ต้นไม้ ซึ่งถ้าอยู่แบบเดี่ยวๆต้องมีสแลมช่วยบังแสง
ส่วนในด้านราคาของดอกหงส์เหินนั้นตอนนี้ถ้าขายปลีก ราคาดอกละ 10 บาท ซึ่งเราจะมักเป็นกำๆละ 10 ดอก ถึง 12 ดอก ราคาก็จะอยู่ที่ 100 บาท แต่ก็จะมีไซด์รองลงมา ก็จะราคา 70-80 บาท ส่วนช่อเล็ก ก็ช่อละ 50 บาทหรือประมาณดอกละ 5 บาท ส่วนที่สวนจะเน้นขายเป็นกำ ซึ่งจะมองดูสวยงาม ซึ่งดอกหงส์เหิน ในปัจจุบันสามารถปลูกได้ทั้งปี หน้าแล้งก็สามารถออกดอกได้ เนื่องจากมีร่มให้ต้นหงส์เหิน มีอาหารให้เพียงพอ มีน้ำพอ ส่วนที่ออกตามฤดูกาลคือ เนื่องจากว่าต้นไม้พวกนี้จะอยู่ตามเขามาก่อน และเมื่อถึงหน้าฝนมีฝนตก ก็จะออกดอก ซึ่งธรรมชาติฝนก็จะไม่มาก แต่ทางเราเน้นไปทางเทคโนโลยี่ คือมีน้ำให้ ปุ๋ยให้ แลดินที่พอเพียงก็จะทำให้ออกดอกใหญ่ ซึ่งการปลูกดอกไม้ก็จะต้องมีการปรับปรุงสายพันธุ์ด้วย ส่วนสีม่วง สีชมพู ก็จะมีอีกสวนหนึ่ง ซึ่งในปีหน้าก็จะมีการปลูกเพิ่มเติม ซึ่งถ้าปลูกลงกระถางราคาก็จะสูง ต้นเดียวถ้าปลูกลงกระถางราคาถึง 300 บาท ซึ่งต้นหงส์เหิน จะมีด้วยกันหลายสี สีชมพู สีม่วง สีม่วงแก่ สีเหลือง ซึ่งแต่ละสายพันธุ์สามารถนำมาผสมสายพันธุ์เข้าด้วยกันได้ ข้ามสายพันธุ์จะทำให้สีเข้มขึ้น เนื่องจากว่าต้นหงส์เหินมีเกสร ทีสามารถผสมสายพันธุ์เข้าด้วยกัน ช่วงที่มีโควิดผ่านมา 2 ปีทางสวนไม่ได้ปลูกเนื่องจากว่า ทางวัดพรพุทธบาทไม่ได้จัดให้มีการตักบาตรดอกเข้าพรรษา ดอกไม้ก็เลยไม่รู้จะไปขายที่ไหน ขายได้ตามบ้านก็ราคาถูก จึงไม่มีแรงจูงใจให้มาทำ เนื่องจากว่าเป็นอาชีพเสริม นอกจากคนที่รักดอกไม้ และประเพณีจริงๆ ถึงจะปลูกได้ ซึ่งคิดว่าปีนี้ดอกหงส์เหิน น่าจะขายดี สำหรับดอกเข้าพรรษาที่มีสีม่วง สีเหลืองนั้น มีเครือข่ายในอำเภอพระพุทธบาทปลูกอยู่แต่ปลูกอยู่ในกระถางเพื่อเพิ่มมูลค่าในการจำหน่าย ส่วนในพื้นที่ที่ใช้ปลูกดอกหงส์เหิน จะใช้พื้นที่ 7 ไร่ปลูกต้นหงส์เหินกว่า 1 แสนต้น คาดว่าปีนี้จะขายสร้างรายได้ประมาณ 1 ล้านบาท
ซึ่งปีนี้งานประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษาซึ่งแต่เดิมจัดให้มีการตักบาตร 2 ครั้งในปีนี้ก็จะเหลือเพียงวันละ 1 ครั้ง ซึ่งตนคิดว่าอยากจะอนุรักษ์ประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษาไว้ เนื่องจากว่าเป็นประเพณีหนึ่งเดียวในโลก จะต้องอยู่ในจังหวัดสระบุรี ซึ่งในปีนี้ประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา จะมีพิธีเปิดในวันที่ 12 ก.ค.65 เวลา 13.30 น. และวันที่ 13 และ14 ก.ค.ก็จะมีพิธีตักบาตรดอกเข้าพรรษา ในเวลา 13.30 น. ซึ่งในปีนี้จะจัดให้มีตักบาตรเพียงวันละ 1 รอบ
ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ จังหวัดสระบุรี