วันที่ 30 พ.ค.65 ที่วัดพระแก้ว อ.เชียงของ จ.เชียงราย ประชาชนและนักท่องเที่ยว ทั่วสารทิศต่างเดินทางร่วมงานพิธีบวงสรวงท้าวเวสุวรรณ ไม้แกะศิลปะสิบสองปันนา อายุกว่า 300 ปี ที่ชาวอำเภอเชียงของ ร่วมกับวัดพระแก้ว โดยพระอธิการสุทธิมนต์ สุทนฺโต เจ้าอาวาสวัดพระแก้ว ประธานฝ่านสงฆ์, พ่อหลวงทรงพล เกตุโสภา อายุ 62 ปี, นางประกาย บุญประคอง อายุ 51 ปี พร้อมด้วย นางสาวชลิดา สุนทรากรณ์ และผู้ที่เกี่ยวข้องชาวอำเภอเชียงของร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดงาน
การจัดพิธีบวงสรวงท้าวเวสสุวรรณอายุกว่า 300 ปี ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของวัดพระแก้วที่มีการจัดขึ้น เพื่อปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บโดยเฉพาะไวรัสโควิด-19 ให้หายไป เพื่อเป็นโชคชัยในการเปิดด่านเชียงของและด่านห้วยทราย สปป.ลาว รองรับนักท่องเที่ยว, เพื่อขอให้ท่านคุ้มครองและดูแลโลกมนุษย์ให้อยู่เย็นเป็นสุข ให้ผู้ที่บูชาเป็นผู้มีทรัพย์สมบัติ มีโชคลาภ อีกทั้งยังช่วยขจัดปัดเป่าสิ่งไม่ดี สิ่งร้ายๆ ออกไปจากชีวิต โดยรูปแบบการจัดงานบวงสรวงท้าวเวสสุวรรณอายุกว่า 300 ปี จัดให้มีพิธีพราหม์ ถวายเครื่องสักการะ อาทิ น้ำเปล่าและผลไม้มงคล ส้ม กล้วย สับปะรด จากนั้นทำการสวดสมาทานศีล 5 บทบูชาพระรัตนตรัย พาหุง ตามด้วยคาถาชินบัญชร จุดธูป 9 ดอก พร้อมถือดอกกุหลาบ 99 ดอก และอ่านโองการ ขณะที่คณะสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ จากนั้นจัดให้มีการจุดประทัดจำนวน 999 ดอก หลังเสียงประทัดสงบลง พุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากต่างกรูเข้าไปเพื่อขอดูเลขเด็ดหางประทัด 592, 617, 24, 62,74 สร้างความฮือฮา ให้กับนักเสี่ยงโชคและผู้ร่วมงานกว่า 500 คน
นอกจากนี้ นางประกาย บุญประคอง ยังได้นำชุดการแสดงรำถวายท้าวเวสสุวรรณด้วยท่าการแสดงที่อ่อนช้อยของ น.ส.บุญรักษา บุญประคอง อายุ 23 ปี ผู้ซึ่งออกแบบท่ารำร่วมกับ คุณอุ๋ย(รุ่นพี่) อีกด้วย
พ่อหลวงทรงพล กล่าวว่า ท้าวเวสสุวรรณองค์นี้คาดว่าได้นำมาในสมัยของเจ้าอริยวงศ์เจ้าผู้ครองเมืองคนแรก ก่อนที่จะย้ายเมืองเพื่อหนีทัพของพม่าไปยังเมืองน่านและเมื่อสงครามสงบลงกลับมาครองเมืองเชียงของพร้อมนำท้าวเวสสุวรรณองค์นี้ที่มีศิลปะสิบสองปันนา ประดับด้วยกระจกแก้วหลากสีกลับมาด้วย
นางประกาย กล่าวว่า ตนเองเป็นผู้สร้างแท่นบูชาที่ประดิษฐานท้าวเวสสุวรรณ อายุกว่า 300 ปี ขึ้นเอง ทั้งนี้ตนเองเห็นท้าวเวสสุวรรณตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ โดยท้าวเวสสุวรรณองค์นี้ถูกทิ้งไว้บริเวณรั้วหน้าวัดโดยไม่มีคนสนใจจนผ่านไปหลายปี จนตนคิดว่าน่าจะหายไปแล้ว แต่ต่อมาพบว่าถูกเก็บไว้ที่หอประวัติศาสตว์ของวัด ตนเองจึงเริ่มบนบานสานกล่าวขอโชคลาภ หน้าที่การงาน ค้าขาย จากหาเช้ากินค่ำก็มีฐานะก็ดีขึ้น จากเช่าบ้านเขาก็สามารถซื้อบ้านเป็นของตนเองได้ ลูกสาวก็เรียนจบปริญญาตรี ตนจึงเชื่ออย่างสนิทใจในความสักสิทธิ์ของ้ทาวเวสสุวรรณองค์นี้ ซึ่งตลอดทั้งวันจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากจากในพื้นที่, ต่างจังหวัดและชาวลาว เดินทางมากราบไหว้ขอพร โชคลาภ การงานและอื่นตลอดทั้งวัน
รายงานข่าวแจ้งว่า พบว่า การเดินทางผ่านเข้าออกผ่านด่านเชียงของ สะพานมิตรภาพไทย-ลาวตั้งแต่เวลา 06.00 น. – 22.00 น. หลังจากการเปิดด่านเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา เพื่อไปท่องเที่ยวยัง เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว นมัสการพระธาตุผ้าคำอายุ 1,000 ปี ที่บรรจุพระเกศาธาตุและพระบรมสารีริกธาตุ(พระอัฐิธาตุ)ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า, เยี่ยมชมค่ายทหารฝรั่งเศส ด้านตะวันออก สมัยยึดครองลาว ที่เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ต่อมาในสงครามอินโดจีน ทหารลาวสามารถยึดค่ายดังกล่าวได้และได้ดัดแปลงเป็นที่คุมขังทหารฝรั่ง และสถานที่ทางวัฒนธรรมและโบราณสถายสุวรรณโคมคำในเมืองต้นผึ้ง โดยพบว่า มีปริมาณคนเดินทาง เข้า – ออก จำนวน 1,200-2,000 คน ต่อวัน โดยเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา มีคนเดินทางออกนอกราชอาณาจักรไทย ไป สปป.ลาว 674 ราย และ คนเดินทางเข้าในประเทศไทยรวม 622 ราย, ส่วนปริมาณรถบรรทุกสินค้าและรถประเภทอื่นๆ เข้า – ออก จำนวน 800-1,000 คัน ต่อวัน
นางสาวชลิดา สุนทรากรณ์ ผู้ประกอบการด้านที่พักโรงแรมน้ำโขง ริเวอร์ไซด์ กล่าวว่า ในฐานะผู้ประกอบการอยากจะเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวที่ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย เพื่อนมัสการพระแก้วมรกตที่แกะจากหินหยก บูชาท้าวเวสสุวรรณ ไม้แกะศิลปะสิบสองปันนา อายุกว่า 300 ปี ระเบียงริมโขง ทั้งสามารถข้ามไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว ที่ เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว เนื่องจากตอนนี้จังหวัดเชียงราย ได้เปิดด่านให้นักท่องเที่ยว ประชาชน ไทยลาว สามารถเดินทาง่านเข้าออก ได้ตามปกติ เพื่อเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม อาทิ พระธาตุผ้าคำ ค่ายทหารฝรั่งเศสหรือที่ชาวลาวเรียกว่าคุกฝรั่ง จึงขอเชิญชวนทุกท่าน