วันนี้ 27 พ.ย 64 นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร แถลงข่าวจับกุมการลักลอบนำเข้าโคเคน น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 4 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 12 ล้านบาท และ จับยาไอซ์ ลักลอบนำออก น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 4.2 กก. มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท ณ ที่ทำการศุลกากรหน่วยปราบปรามยาเสพติดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ
นายพชร อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า กรมศุลกากรมีหน้าที่อำนวยความสะดวกทางการค้า และปกป้องการลักลอบนำเข้าสิ่งผิดกฎหมายและยาเสพติด จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกรมศุลกากร เพิ่มความเข้มงวดเป็นพิเศษในการป้องกันและสกัดกั้นยาเสพติดให้โทษ และมีการบูรณาการกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่นทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง อาทิ ป.ป.ส. บช.ปส. ศรภ. สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สถานทูตต่าง ๆ องค์การตำรวจสากล (Interpol) สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (Drug Enforcement Administration: DEA) เป็นต้น เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการข่าวระหว่างกัน
โดยเมื่อวันที่ 26 พ.ย. เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรร่วมกับชุดปฏิบัติการ AITF (AIRPORT INTERDICTION TASK FORCE) ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าจะมีหญิงไทยเดินทางจากเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อาจมีการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในราชอาณาจักร จึงได้ติดตามและทำการตรวจค้นขณะผ่านช่องตรวจผู้โดยสารไม่มีของต้องสำแดง(ช่องเขียว) บริเวณห้องโถงผู้โดยสารขาเข้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พบการตรวจค้นพบยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 4 กิโลกรัม ซุกซ่อนในกระเป๋าเดินทางชนิดลากจูงขนาดเล็ก มูลค่ากว่า 12 ล้านบาท
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่าได้รับค่าจ้างในการขนยาเสพติด ทั้งนี้ จากการข่าวทราบว่าเป็นการสั่งการจากเครือข่ายค้ายาเสพติดชาวแอฟริกันตะวันตก ซึ่งในการจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่พยายามทำการขยายผลจับกุมไปยังผู้บงการ นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจยาเสพติดต่อไป
และในวันเดียวกัน เวลาประมาณ 22.30 น. กรมศุลกากรร่วมกับชุดปฏิบัติการ AITF (AIRPORT INTERDICTION TASK FORCE) ร่วมกันตรวจสอบพัสดุไปรษณีย์ลงทะเบียนระหว่างประเทศ ต้นทางประเทศไทย ปลายทางประเทศออสเตรเลีย สำแดง (แสดง) สินค้าเป็น Toner cartridge ผลการตรวจสอบพบ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไอซ์ (เมทแอมฟาตามีน) ลักษณะเป็นเกร็ดขาวขุ่น ซุกซ่อนในตลับหมึกพิมพ์ จำนวน 20 กล่อง น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 4,270 กรัม มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท จึงได้ดำเนินการจับกุมพร้อมทั้งประสานข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขยายผลต่อไป