เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 5 มิถุนายน 2565 ที่สถานนีตำรวจภูธรโพธาราม จ.ราชบุรี ได้มีกลุ่มชาวบ้านกว่า100คน ได้เดินทางเข้าแจ้งความเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน โดยมีนางดวงพร นุ่มนวลศีล เป็นตัวแทนชาวบ้านเข้าลงบันทึกประจำวัน ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปสอบถามโดยกลุ่มชาวบ้านทั้งหมดนี้และยังไม่มาอีก ซึ่งทั้งหมดได้เป็นสมาชิกกองทุนฌาปนกิจ ของเขตเทศบาลโพธาราม จำนวนสมาชิก423คน สืบเนื่องจากกองทุนนี้ชาวบ้านได้ทำกันไว้ตั้งแต่กองทุนนครปฐม เมื่อปี50 ต่อมากองทุนนี้ยกเลิกลง มี อ.ท่านหนึ่งได้เข้ามาทำต่อและยกเลิกไป
จนมีกรรมการชุดนี้ได้ขอเข้ามาทำต่อโดยที่ไม่มีการแจ้งสมาชิกเลย การประชุมก็ไม่มี จนกระทั่งมาระยะหลัง ประธานและกรรมการชุดนี้มาแจ้งว่าจะขอยกเลิกเก็บเงินโดยที่จะจ่ายคืนให้คนละ 2000 กว่าบาท ทำให้ชาวบ้านไม่ยอมกัน จึงนัดหาลือกันใหม่คือวันนี้ ซึ่งหาข้อยุติไม่ได้ทางชาวบ้านจึงร่วมตัวกันมาที่โรงพักเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานโดยมี พ.ต.ต.ธนเดช สาธุจรัญ พนักงานสอบสวน สภ.โพธาราม เจ้าของคดีได้ให้นางดวงพร นุ่มนวลศีล เป็นตัวแทนชาวบ้านเข้ามาลงบันทึกประจำวันไว้ เพื่อจะได้ให้พนักงานสอบสวนเชิญประธานและกรรมการชุดนี้มาพูดคุยตกลงกัน
โดยนางดวงพร นุ่มนวลศีล กล่าวว่าช่วงแรกกองทุนฌาปนกิจหมู่บ้านก็มาเก็บเงินทุกเดือน แต่พอมาวันนี้บอกจะยกเลิกกองทุนและจะให้เงินเป็นขั้นบันได ซึ่งชาวบ้านส่งเงินมามากกว่า 10 ปี ทำให้ชาวบ้านรับไม่ได้ที่จะรับเงินเป็นขั้นบันไดที่เริ่มต้นจาก 2100 บาท ต่อเดือน ซึ่งเมื่อนำเงินที่ส่งมาเดือนละ 200 บาท คูณ 15 ปี ทำให้ชาวบ้านรับไม่ได้ ชาวบ้านจ่ายเงินกองทุนฌาปนกิจหมู่บ้านมาตั้งแต่ปี 2550 เริ่มแรกทำกับของจ.นครปฐม ต่อมาอำเภอโพธารามก็รับมาดำเนินการเอง และมีกรรมการชุดใหม่เข้ามาดำเนินการโดยไม่ได้มีการแจ้งกับชาวบ้าน และมาเก็บเงินรายเดือนละ 200 บาท และยังมีรายปีอีกปีละ 100 บาท เท่ากับว่าชาวบ้านจะต้องจ่ายเงินปีละ 2500 บาท ทุกครั้งก็จะมีใบเสร็จให้
ปัจจุบันมีผู้เสียหายมากกว่า 400 คน มูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท คณะกรรมการก็ไม่เคยเรียกประชุมหรือชี้แจงอะไรเลย แต่ถ้าเดือนไหนชาวบ้านไม่จ่ายเงินก็จะถูกตัดทันทีโดยไม่มีการชี้แจง และไม่เคยแจ้งเลยว่า มีผู้เสียชีวิตเดือนนี้กี่ราย ไม่มีการแจงเรื่องรายรับรายจ่ายเลย แต่ถ้ามีชาวบ้านเสียชีวิตครั้งแรกจะจ่ายให้ 10000 บาท แล้วอีก 2 เดือน ก็จะให้อีก 20000 บาท และอีก 3 เดือนก็จะให้อีก 30000 บาท แต่พอมาตอนหลังเหลือแค่ 50000 บาท ซึ่งจะต้องรอถึง 3 เดือน โดยที่คณะกรรมการไม่ได้ชี้แจงว่ามีรายรับเท่าไหร่ รายจ่ายเท่าไหร่ ชาวบ้านก็พยายามทวงถามมาตลอด แต่ก็ไม่มีคำตอบให้ พอวันนี้จะยกเลิก ทำให้ชาวบ้านที่ส่งเงินไปแล้ว ได้รับความเดือดร้อนเพราะการทยอยจ่ายเงินให้นั้น มองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม วันนี้จึงมาแจ้งความเพื่อให้คณะกรรมการนั้นรับผิดชอบคืนเงินที่ชาวบ้านส่งไปทั้งหมด