ทนายความชื่อดังตัวแทนวัดป้อมรามัญ ติดตามความคืบหน้าคดีค้านเท็จเพื่อเอาผิดกับผู้ที่บุกรุกที่ธรณีสงฆ์ เผยสิ้นเดือนนี้เตรียมออกหมายเรียกผู้ที่เกี่ยวข้อง
วันที่ 11 พฤษภาคม 2565 ที่ สถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นาย วรยุทธ บุญวงษ์ใส ทนายความชื่อดัง ตัวแทน วัดป้อมรามัญ หมู่ที่ 4 ตำบลสวนพริก อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดินทางเข้าพบกับ พ.ต.ท.กัมพล อินทีวงศ์ พนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา ติดตามความคืบหน้า คดีค้านเท็จเพื่อเอาผิดกับผู้ที่บุกรุกที่ธรณีสงฆ์วัดป้อมรามัญ และที่สาธารณะ จำนวน 3 ราย
นายวรยุทธ บุญวงษ์ใส ทนายความตัวแทนวัดป้อมรามัญ กล่าวว่า วันนี้ได้รับมอบอำนาจจากวัดป้อมรามัญ ให้มาติดตามความคืบหน้ากรณีที่มีผู้มาบุกรุกที่ธรณีสงฆ์รอบวัดป้อมรามัญ ซึ่งที่ดินของวัดป้อมรามัญทั้ง 14 ไร่ ล้อมรอบไปด้วยคลองลำรางสาธารณะ ไม่ได้ติดกับพื้นที่ดินของใคร แต่มีผู้บุกรุกกินพื้นที่สาธารณะจนข้ามเข้ามาถึงที่ธรณีสงฆ์ของวัดป้อมรามัญ ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายนว่ามีความคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว
มาวันนี้ท่านก็ได้รวบรวมขอเท็จจริง พยานหลักฐานทั้งหมดซึ่งคาดว่าไม่เกินสิ้นเดือนนี้ ก็จะออกหมายเรียกผู้ที่ถุกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป ซึงหลังจากเสร็จจากตรงนี้จะไปที่ทางปปช.กรณีที่มีการร้องเรียนเจ้าพนักงานท้องถิ่น ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ซึ่งทาง ปปช.ก็ได้เรียกให้มีการสอบข้อเท็จจริง ซึ่งตอนนี้เป็นขั้นตอนของทาง ปปช.ก็มีการรวบรวมพยานหลักฐาน และในวันนี้ก็จะเอาพยานหลักฐานที่สำคัญ อาทิ ภาพถ่ายทางอากาศ ที่มีการชี้ชัดว่าที่ดังกล่าวเป็นทางสาธารณประโยชน์ เพื่อให้ข้อมูลกับทาง ปปช.เพิ่มเติม
ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ มีนายทุนพยายามรังวัดที่ดิน รุกล้ำที่สาธารณะ และพื้นที่เข้ามายังพื้นที่ครอบครองของวัดป้อมรามัญ (ส.ค.1) เลขที่ 2 จนเกิดปัญหาข้อพิพาท มีการรังวัดที่ดินหลายครั้ง แต่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ โดยทางวัดได้ให้ทนายความแจ้งความประสงค์ไปยังศูนย์ดำรงธรรมอำเภอพระนครศรีอยุธยา และ อบต.สวนพริก ประสานให้เจ้าหน้าที่ที่ดินทำการรังวัดที่สาธารณะรอบวัดทั้ง 4 ทิศ แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างไร ทางทนายความจึงต้องมีการยื่นเรื่องถึง ป.ป.ช.เพื่อตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐ อปท.ในการปฏิบัติหน้าที่ ไม่รักษาผลประโยชน์ส่วนรวมซึ่งเป็นที่สาธารณะ ที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน
ศักดริน พุทธคาวี /อยุธยา